สุดสลด พ่อเครียดไปค้ำประกันจนถูกยึดบ้าน ซ้ำแม่ยังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกจนเป็นหนี้ 1.7 ล้าน คว้าอีโต้ปาดคอทั้งครอบครัวดับ 3 เจ็บสาหัส 1
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2566 พ.ต.ต.สถามน ประเสริฐสุวรรณ สารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว ได้รับแจ้งมีเหตุฆาตกรรม มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านหลังหนึ่ง ถนนหลังวัดหนามแดง ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลบางพลี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ สูง 3 ชั้น ที่บริเวณประตูหน้าบ้านชั้นล่าง พบร่าง นางสาววิภาพร ราชา อายุ 44 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่อยู่กับพื้นบริเวณประตูมุ้งลวด มีแผลฉีดขาดที่คอ และตามร่างกาย ใกล้กันพบร่าง เด็กชายปุณณพัฒน์ ดอกไม้ อายุ 9 ปี สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้น มีแผลฉีดขาดที่คอ และตามร่างกาย ที่ชั้นสองภายในห้องนอนด้านหลังพบร่าง เด็กชายบุญญานนท์ ดอกไม้ อายุ 13 ปี สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้นบริเวณประตูห้องนอน ภายในห้องนอนด้านหน้า พบ นายสาณิช ดอกไม้ อายุประมาณ 41 ปี นอนหงายใช้มือจับคออยู่บนเตียง มีแผลฉีกขาดที่คอ และข้อมือ เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบมีดอีโต้ เปื้อนเลือด 1 เล่ม
จากการสอบถาม นางสาว ฐารินี เส็งสันต์ อายุ 46 ปี (เสื้อขาว) หัวหน้างานของ นายสาณิช เล่าว่า เมื่อช่วงเที่ยงคืนผู้ก่อเหตุได้โทรหาตน ว่าได้ลงมือฆ่าลูกเมียตัวเองแล้ว ตนจึงรีบโทรให้คนที่อยู่ใกล้บ้านผู้ก่อเหตุมาก่อนและตนก็รีบเดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็พบเมียและลูกของผู้ก่อเหตุนอนเสียชีวิตอยู่ตรงประตูบ้าน ผู้ก่อเหตุเคยมาปรึกษาตนว่า เคยไปค้ำประกันรถให้กับคน ๆ นึง จนขึ้นศาลและกำลังจะถูกกรมบังคับคดียึดบ้าน และได้ทำการต่อรองกับทางบริษัทที่ผู้ก่อเหตุไปค้ำประกันให้ช่วยลดดอกเบี้ยได้ที่ 4.9 แสน รวมค่าถอดถอนจากกรมบังคับคดีก็จะประมาณ 6 แสนต้น ๆ ซึ่งผู้ก่อเหตุมีเงินอยู่แต่ก็ยังขาดอยู่อีกนิดหน่อย ผู้ก่อเหตุก็เตรียมที่จะทำเรื่องกู้เงินมาสมทบเพื่อที่จะเคลีย แต่เมื่อไม่นานมานี้ ภรรยาของผู้ก่อเหตุถูกแก๊งคอเซ็นเตอร์หลอกต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาจากหลายที่เป็นเงินกว่า 1.7 ล้าน ทำให้ถูกเจ้าหนี้มาตามทวงทุกวัน สาเหตุนี้จึงน่าจะเป็นฉนวนเหตุที่ทำให้ผู้ก่อเหตุลงมือ
นายวิรุณ แก้วอ่อน เพื่อนร่วมงานที่ทราบข่าวจากหัวหน้างานโทรมาบอกก็รีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุแต่ก็ไม่ทันการ ซึ่งที่ผ่านมา นาย สาณิช ได้เล่าบอกระบายเรื่องหนี้สินภายในครอบครัวให้ฟังมาตลอด แต่ไม่คาดคิดว่าจะตัดสินใจลงมือเช่นนี้ ส่วนนิสัยใจคอของ นายสาณิช นั้นปกติจะเป็นคนใจเย็น ไม่เที่ยว ไม่เล่นการพนัน เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ และมีความตั้งใจทำงานที่ดีมาตลอด เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีคนหนึ่ง ตอนนี้ทั้งเสียใจ ตกใจ และแค้นพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ถ่ายภาพเก็บหลักฐาน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์เวร ร่วมชันสูตรพลิกศพ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.รังสรรค์ คำสุข รักษาราชการแทนผกก.สภ.บางแก้ว ระบุว่า จากการตรวจสอบครอบครัวนี้พบว่าก่อนหน้านี้คือช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางภรรยาของผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวนว่าถูกแอพเงินกู้นอกระบบในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน โดยเริ่มจากติดต่อขอกู้เงินหนึ่งแสนบาท แต่ถูกให้โอนยอดไปยังบัญชีปลายทาง เพื่อเป็นค่าดำเนินการ ค่าเปิดระบบ อะไรต่างๆจนกระทั่งมีการโอนเงินไปกว่าล้านบาท ซึ่งหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความก็มีการสั่งการอายัดบัญชีดังกล่าวและอยู่ในระหว่างดำเนินติดตามตัวบัญชีปลายทางเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งหลังจากนี้จะได้เร่งรัดฝ่ายสืบสวนไปดำเนินการสืบสวนติดตามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
******************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ