แม่ค้าลูกชิ้นทอดเปิดศึกแม่ค้ายำลูกชิ้นจนได้รับบาดเจ็บ จากการที่ขายของเหมือนกันจนกลายเป็นแย่งลูกค้า
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 2 กันยายน 2566 ศูนย์วิทยุกู้ชีพปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าทางเข้าหมู่บ้านโครงการเอื้ออาทรขจรวิทย์ ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งประสานจึง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ บริเวณริมถนนหน้าทางเข้าหมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นแผงขายของริมทางหลายร้านติดกัน เจ้าหน้าที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อ นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็น แม่ค้าขายลูกชิ้นทอด มีอาการปวดเจ็บที่สะโพกด้านซ้าย เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ส่วน นางสาวบี (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นคู่กรณี ทราบว่าเป็นแม่ค้าขาย ยำลูกชิ้น ที่อยู่ร้านติดกัน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบถามทราบว่า ทั้งคู่นั้นเคยเป็น นายจ้างกับลูกจ้างกันมาก่อน ซึ่งที่ ผู้บาดเจ็บ นั้นเคยเป็นนายจ้างกับคู่กรณี ก่อนที่ผู้บาดเจ็บจะไล่ทางคู่กรณีออกเนื่องจากทางคู่กรณีหยุดงานบ่อยครั้ง ก่อนที่ คู่กรณี จะมาขายยำลูกชิ้นติดกับร้านของผู้บาดเจ็บ จึงเกิดมีปัญหาขึ้นเนื่องจากขายของคล้ายคลึงกัน โดยมีการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ในเรื่อง ขายของคล้ายกัน แย่งลูกค้ากัน จนเกิดการลงไม้ลงมือจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
นางสาว เอ (นามสมมุติและเบลอหน้า) เล่าว่า คนก่อเหตุเคยเป็นลูกน้องตน เขาหยุดงานบ่อยตนเลยเลิกจ้างเขา ตนเคยเอาโทรศัพท์ให้เขาใช้ พอเขาเอามาคืนตนแต่ถูกล็อกไว้ ตนเลยให้เขาปลดล็อกโทรศัพท์ให้ตน แต่เขาบอกว่าเขายังไม่ได้ทำอะไรโทรศัพท์เลย และ อีกเรื่องที่เขามาขายลูกชิ้นแข่งกับตน ตนก็เลยถามเขาทำไมต้องมาขายลูกชิ้นเหมือนตน ทำไมไม่ทำอย่างอื่น เพราะเปิดใกล้กันจึงทำให้เกิดการแย่งลูกค้ากัน ก็เลยทะเลาะกัน เขาด่าตนอย่างแรงด้วยตนก็เลยไม่พอใจและตอนนั้นอยู่ในอารมณ์ร้อนด้วย เขามาผลักตนอย่างแรง ตนก็จำไม่ได้ว่าไปด่าเขาอะไร เขาก็ถามตนว่าทำไมต้องไปพูดให้คนอื่นเขาฟังว่าเขาอย่างนู้นอย่างนี้ ในเมื่อเลิกจ้างแล้วทำไมต้องพูดอย่างนี้ ตนก็ตอบไปว่าตนไม่ได้พูดอะไร พอมีคนถามเรื่องเขาว่าทำไม่มาขายแล้ว ตนก็ตอบไปว่าเขาหยุดงานบ่อยทำให้ตนไม่อยากได้เขา เพราะทำให้ตนเสียรายได้ ตนอยากได้ลูกจ้างที่ขยันทำงาน ไม่ใช่หยุดบ่อย เพราะตนเปิดร้านอยู่ 2 ที่ ทำให้ตนต้องหยุดตรงโน้นมาขายตรงนี้แทน ตนก็พูดแค่นี้ ไม่ได้ไปว่าร้ายอะไรเขาเลย แล้วก็มาใส่ตนเรื่องนี้ว่าทำไมต้องไปประจานเขา ไปอย่างนู้นอย่างนี้ ตนไม่ได้ประจาน ตนแค่พูดอย่างนี้เฉยแล้วตนผิดตรงไหน แล้วเราก็ทะเลาะกัน แล้วเขาก็มาใส่ตนอย่างแรง ตนก็พูดออกไปว่าทำอะไรก็ไม่เจริญหลอก พอตนหันหลัง แล้วเจาก็ถีบตนโดยไม่ตั้งตัว เขาพูดกับตนว่าเขาจะขายแข่งกับตน ต่อจากตนจะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ตนก็รู้ว่าตนผิดด้วยที่ใจร้อน แต่ตนก็ไม่ได้ลงอะไรกับเขาแค่ด่าเขา แต่เขาผลักและถีบตน
นางสาวบี (นามสมมุติและเบลอหน้า) คู่กรณี เล่าว่า เขาเดินมาด่าตนว่าทำไมต้องขายลูกชิ้น ทำไมต้องแข่งกับเขา ทำไมทำตัวแบบนี้ หลายอย่าง เขาด่าตนก็ไม่ได้สนใจเพราะตนจัดร้านอยู่ และ วุ่นกับตัวเล็กอยู่ ก็เลยไม่ค่อยได้สนใจว่าเขาด่าอะไรเรา ก่อนจะมาเถียงกันเรื่องงานเพราะเมื่อก่อนตนเคยทำงานเป็นลูกจ้างขายลูกชิ้นให้เขา พึ่งจะออกได้ 2-3 วันเอง แล้วเขาเอาเรื่องงานมาประจานเรา ว่าเราทำงานแบบนี้อย่างนี้ แล้วทำไมเขาไม่พูดกับเราตอนที่เรายังทำงานอยู่กับเขา คือ มันพูดกันตอนทำงานเป็นลูกจ้างเขา แต่ตอนนี้เราไม่ได้เป็นลูกจ้างเขาไม่มีสิทธิเอาเรามาพูดมาด่าเราแบบนี้ คือเราก็เสียหายที่เขามาด่าเรา คนก็เยอะ ทำงานอย่างโน้นอย่างนี้ไม่มีความรับผิดชอบ เป็นคนอย่างนู้นอย่างนี้ คือมันก็มีคำหยาบเราก็ไม่อยากพูดไป พูดไปมันก็ไม่ดี ที่เกิดการทะเลาะกันวันนี้เพราะ เขาแช่งเราว่ามึงทำอย่างนี้ขอให้ร้านมึงชิบหายแล้วกัน ประมาณนี้ เราก็เลยหันไปยกขาขึ้นมาจะถีบเขา ไม่ใช่แบบเดินไปแล้วถีบเขา แล้วเขาก็ล้มลงไปแค่นั้นเอง ไม่ได้มีการตบกันเลย หลังจากนี้เราก็จะขายอยู่ตรงนี้เพราะขายมาหลายปีแล้ว เราขายยำแหนม และ หอยดอง ก็ขายมาคู่กับเขามา 3-4 ปี แล้ว มันขายไม่ดีเลยหยุดไป แล้วเห็นเขาประกาศหาคนขายลูกชิ้นพอดีเพราะลูกจ้างคนเก่าเขาลาออก แล้วเขาก็มีประเด็น มึงมาสมัครงานกู มึงเป็นแบบนี้นะสมควรที่เขาจะไม่รับมึงประมาณนี้ ประจานเรา ก็ประมาณนี้ ต่างคนต่างไม่ยอม เราก็บอกเขาว่าเราขายยำลูกชิ้น เราไม่ได้ขายลูกชิ้นทอดแบบเขา เราขายยำไม้ละ 10 บาท ยำกับทอดไม่เหมือนกัน แล้วแต่ลูกค้าจะเลือกกิน เราก็บอกว่าเร่ทำมาหากินเลี้ยงลูกเราหลายคนรอกินที่บ้าน เขาก็ไม่หยุดก็ยังมาพูดคำด่าแบบที่ว่าเราอดไม่ได้
**************************
หมายเหตุ : เบลอหน้าทั้ง คนเจ็บ และ คู่กรณี
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ
