ตำรวจจราจรหาดใหญ่ยอมอ่อนเพื่อชาวบ้านเปลี่ยนจากรุกเป็นรับลดตั้งด่านจราจร ลดจับ ลดล๊อคล้อหลังชาวบ้านร้องตั้งด่านถี่จับบ่อย
วันนี้(6ก.ย.66) หลังจากที่มีกระแสสังคมและโซเชียลออกมาวิพากษ์วิจารย์ในเรื่องการควบคุมวินัยจราจรของสภ.หาดใหญ่ที่เข้มงวดมากเกิน
โดยเฉพาะประเด็นการตั้งด่านตรวจจราจรถี่เกินไปและจับบ่อย รวมถึงการล๊อคล้อรถที่จอดผิกฏจราจร ทำให้ประชาชนและผู้ที่ขับขี่รถรับจ้างรวมถึงนักท่องเที่ยวเดือดร้อนและบางครั้งก็ทำให้รถติด
ล่าสุดในวันนี้ทาง พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ และ พ.ต.ต.สิทธิชัย ประดับ สารวัตรจราจร สภ.หาดใหญ่
ได้เชิญตัวประธานชุมชนในเมืองหาดใหญ่ ตัวแทนผู้ขับขี่รถรับจ้างสาธารณะ ตัวแทนภาคประชาชนและตัวแทน นายศาสตรา ศรีปาน สส.เขต 2 สงขลาพรรครวมไทยสร้างชาติ
มาร่วมกันสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนและหาทางออกร่วมกันและทางตัวแทนของ นายศาสตรา ศรีปาน สส.เขต2 สงขลา ได้ยื่นหนังสือสรุปปัญหาข้อร้องเรียนของชาวบ้านเรื่องจราจรให้กับทางผกก.หาดใหญ่รับไปพิจารณาด้วย
หลังการหารือร่วมกันของทุกฝ่ายข้อสรุปในเบื้องต้นว่าทางตำรวจจราจรสภ.หาดใหญ่ จะลดความถี่ในการตั้งด่านตรวจจราจรจากวันละ 2 รอบ รอบเช้า 09.30-11.00 น.และรอบบ่าย 13.30 น.- 15.00 น.
ให้เหลือเพียงรอบเดียวคือเฉพาะรอบเช้าเวลา 09.30น.-11.00 น.แต่ยังคงบังคับใช้กฏหมาย พ.ร.บ.จราจรเช่นกรณีใม่สวมหมวกกันน๊อค ไม่มีใบขับขี่ และไม่มีพ.ร.บ.
แต่ก็อาจจะพิจารณาเหตุผลเป็นกรณีๆไป เช่นกรณีของผูู้สูงอายุที่มีอายุ60ปีขึ้นไปที่จำเป็นต้องขับรถโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ก็จะผ่อนปรนแต่จะต้องสวมหมวกกันน๊อคเพื่อความปลอดภัย
ส่วนรอบบ่ายหรือการตั้งด่านตรวจในช่วงเวลาอื่นๆ ทั้งในตัวเมืองหาดใหญ่หรือพื้นที่รอบนอก ให้เป็นการตั้งด่านของตำรวจสายตรวจเพื่อดูแลด้านความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยและป้องกันเหตุอาชญากรรมแทน แต่จะไม่มีการจับกุมเรื่องความผิดพ.ร.บ.จราจาร
ส่วนประเด็นเรื่องการล๊อคล้อรถที่จอดผิดกฏจราจรหรือจอดในที่ห้ามจอด ก็จะผ่อนปรนโดยตำรวจจราจรจะเลี่ยงการขับรถวนเวียนล๊อคล้อรถที่จอดผิดที่ผิดทางซึ่งบางรายอาจจะมีธุระจำเป็นเร่งด่วน ยกเว้นในกรณีที่จอดกีดขวางการจราจรหรือทำให้รถติดจริงๆหรือมีการร้องเรียนเข้ามา
พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์. ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากนี้ทางตำรวจจราจรสภ.หาดใหญ่ จะปรับมาตรการควบคุมวินัยจราจรจากเชิงรุกที่ประชาชนมองว่าตั้งด่านจราจรถี่เกินไปจับกุมบ่อยเกินไป มาเป็นเชิงรับ
ซึ่งจะมีการอะลุ่มอล่วยทั้งการลดวงรอบในการตั้งด่านตรวจจราจรหรือเหลือเพียงวันละรอบเฉพาะรอบเช้า หรือการล๊อคล้อก็เฉพาะรถที่ทำให้การจราจรติดขัดในแต่ละจุดหรือมีการร้องเรียนเข้ามาจริงๆซึ่งตำรวจจราจรก็จะเข้าไปดูไปแก้ปัญหา
ซึ่งที่ผ่านมาจะมีตำรวจจราจรขับรถวนเวียนล๊อคล้อรถที่จอดผิดที่ผิดทางไม่มีการอนุโลม หรือมีการตั้งด่านจราจรทั้งรอบเช้าและรอบเย็นและจับบ่อย ทำให้ประชาชนหรือผู้ขับขี่รถรับจ้างอาจจะได้รับความเดือดร้อนในการบังคับใช้กฏหมายพ.ร.บ.จราจรที่เข้มงวดเกินไป
แต่หลังจากนี้จะผ่อนปรนอและเน้นอำนวยความสะดวกการจราจรให้มากกว่าการจับกุม เปลี่ยนจากเชิงรุกเป็นเชิงรับ และจะนำมาประเมินผลในทางปฏิบัติอีกครั้งว่าจะมีผลดีผลเสียอย่างไรกับการจราจรโดยเฉพาะในเมืองหาดใหญ่ และจะแก้ไขจุดไหนเพิ่มเติมอีกหรือไม่
อย่างไรก็ตามในเรื่องของการตั้งจุดตรวจของตำรวจสายตรวจก็ยังคงมีความเป็นจำเป็นเพราะเป็นเรื่องของความมั่นคง เนื่องจากหาดใหญ่เป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองเศรษฐกิจจะต้องมีมาตรการป้องกันในเรื่องของอาชญากรรมทุกรูปแบบด้วยเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในกรณีเกิดเหตุการเฉพาะหน้า
ผกก.สภ.หาดใหญ่ ย้ำว่า แม้ว่าตำรวจจราจรสภ.หาดใหญ่จะผ่อนปรนเรื่องวินัยจราจรไม่ให้แข็งเกินไปแต่ในส่วนของประชาชนก็ต้องมีวินัยและรับผิดชอบตัวเองด้วยอย่างน้อยการขับขี่รถจักรยานยนต์ก็ต้องสวมหมวกกันน๊อค มีใบขับขี่ และมีพ.ร.บ.เพราะแม้ตำรวจไม่จับแต่หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะเป็นผลเสียต่อผู้ขับขี่เองและต้องจ่ายหนักกว่าทำผิดกฏจราจรด้วย
พี่เสือ นักข่าว สงขลา