ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

ผู้บริหารตลาดน้ำ 4 ภาค น้ำตาคลอซึ้งน้ำใจคนไทย คาดเสียหายมากกว่า 70 ล้าน ยังไม่ชี้สาเหตุต้นเพลิง เตรียมเปิดบริการ 12 ก.ย.นี้

ผู้บริหารตลาดน้ำ 4 ภาค น้ำตาคลอซึ้งน้ำใจคนไทย คาดเสียหายมากกว่า 70 ล้าน ยังไม่ชี้สาเหตุต้นเพลิง เตรียมเปิดบริการ 12 ก.ย.นี้

จากกรณี เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้อย่างรุนแรง ภายในสถานที่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชื่อดังระดับแนวหน้าของประเทศไทย “ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” ถนนสุขุมวิท ขาเข้า อ.สัตหีบ หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี คาดเสียหายเกือบร้อยล้านบาท
คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. (9 ก.ย.66) ที่ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นางสาว สุมาพร ศรีเมือง ผู้จัดการทั่วไปตลาดน้ำ 4 ภาค พร้อมด้วยทีมฝ่ายกฏหมาย ออกมาแถลงข่าวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย นายพิสิษฐ์ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบางละมุง เข้าร่วมสังเกตการณ์ ในครั้งนี้ด้วย


นางสาว สุมาพร ศรีเมือง ผู้จัดการทั่วไปตลาดน้ำ 4 ภาค กล่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และกระทันหันโดยไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น โดยเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นในช่วงกลางคืน หลังจากที่ตลาดปิดทำการแล้ว โดยปกติตลาดจะเปิดทำการตั้งแต่ เวลา 09.00 น. – 19.00 น. จากนั้นกลุ่มพ่อค้าแม้ค้าก็จะทยอยเดินออกจากพื้นที่ ไม่เกินเวลา 19.30 น. ส่วนเหตุเพลิงไหม้ เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. ของคืนวันที่ 7 ก.ย. โดยพนักงานรักษาความปลอดภัย ระหว่างเดินตรวจสอบความเรียบร้อย หลังตลาดปิดทำการปรากฎว่าได้พบกลุ่มควันและแสงเพลิงเกิดขึ้นบริเวณโซนภาคเหนือ จึงรีบนำถังดับเพลิงมาดับไฟ พร้อมทั้งวิทยุเรียกกำลังเสริม 4-5 คน เข้ามาช่วยกันดับไฟ โดยมีการนำถังดับเพลิง 6 ถังระดมฉีดสกัดกั้นเพลิง ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่แคบๆ แต่ในช่วงเวลานั้น มีฝนตกโปรยปรายลงมาเล็กน้อย และมีกระแสลมแรงมาก ประกอบกับพื้นตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา สร้างขึ้นจากไม้ถือเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงทำให้พนักงานไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัด จึงรีบรายงานผู้บริหาร โทรศัพท์แจ้งดับเพลิงและตำรวจ ดังกล่าว


นางสาว สุมาพร ศรีเมือง ผู้จัดการทั่วไปตลาดน้ำ 4 ภาค กล่าวในน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาคลอภายใต้ความสูญเสีย ได้เห็นมิตรแท้มากมาย โดยตลาดน้ำได้รับความช่วยเหลือ จากทีมดับเพลิงในพื้นที่เมืองพัทยา และพื้นที่ใกล้เคียง มูลนิธิและสมาคม เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที และผู้บริหารของจังหวัดชลบุรี ก็ยังเดินทางมารวมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ภายหลังเกิดเหตุเพียง 30 นาทีเท่านั้น โดยยอมรับทีมดับเพลิง จ.ชลบุรี มีการทำงานเป็นมืออาชีพใช้เวลาควบคุมเพลิงเพียง 3 ชั่วโมง ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยพบว่ามีพื้นที่ได้รับความเสียหายประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ จากพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโซนภาคเหนือ จึงขอขอบพระคุณทุกภาคส่วน ที่เข้ามาให้การช่วยเหลือในครั้งนี้


ส่วนความเสียหายในเบื้องต้น พบว่ากลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้ ประมาณ 60 ร้านค้า โดยสินค้าที่ขายและสต๊อกไว้ได้ได้ถูกไฟเผาเสียหายทั้งหมด ซึ่งในส่วนนี้ทางผู้บริหารตลาดน้ำ 4 ภาค จะลงมาช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ โดยจะให้ผู้ประกอบการไปลงทะเบียนและบันทึกรายการทรัพย์สิน ที่รับความเสียหายในครั้งนี้ โดยทางตลาดน้ำมีการทำประกันภัยโครงสร้าง ถึงจะไม่มากมาย แต่ก็จะดูแลอย่างเต็มที่แน่นอน


ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนได้ เนื่องจากต้องรอผลพิสูจน์จาก เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งกอง ตำรวจวิทยาการพิสูจน์หลักฐานและวิศวกรโยธา ที่ได้เข้าพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและประมวลสาเหตุแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ และอยู่ในระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ทางบริษัท ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) จำกัด จึงยังไม่สามารถแจ้งระบุสาเหตุที่ชัดเจนได้ในเวลานี้ ส่วนมูลค่าความเสียหายจากการถูกไฟไหม้ในครั้งนี้ โดยยังไม่รวมของกลุ่มผู้ประกอบการ อยู่ที่ประมาณไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท ส่วนไม้ที่นำมาสร้างเป็นโครงสร้าง ไม้เก่าแก่อายุเกือบ 100 ปี เป็นไม้นานาพันธุ์ จาก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากการประเมินความเสียหายของพื้นที่ พบว่าพื้นที่เสียหายไปประมาณ 30% ของพื้นที่ทั้งหมดของตลาดน้ำ ซึ่งเป็นส่วนของโซนภาคเหนือ โดยทีมบริหาร ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) มีมติให้ปิดพื้นที่ดังกล่าวอย่างถาวร เพื่อรอการรื้อถอนและห้ามบุคคลภายนอกรวมถึงนักท่องเที่ยวเข้าในบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันอันตรายอันอาจจะเกิดขึ้น


และเนื่องจาก ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา ยังมีพื้นที่ส่วนที่เราวางแผนพร้อมจะเปิดให้บริการในเดือน ตุลาคม นี้อยู่ก่อนแล้ว คือพื้นที่ส่วนเฟส 2 ติดถนนเลียบทางรถไฟ ทางผู้บริหารจึงมีมติ ให้เปิดใช้บริการก่อนกำหนด โดยเปิดพื้นที่นี้เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อย ได้ประกอบกิจการได้ก่อน โดยพื้นที่เปิดให้ใช้บริการคือ ตั้งแต่ประตูทางเข้าติดถนนสุขุมวิทด้านร้านกาแฟอเมซอน ยาวไปจนติดถนนเลียบทางรถไฟ โดยได้กำหนดเส้นทางเดินชมและเส้นทางนั่งเรือชมตลาด ให้นักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการได้อย่างปกติ ภายในวันที่ 11 กันยายน 2566 และเปิดให้บริการปกติ ในวันที่ 12 กันยายน 2566 นี้ พร้อมทั้งจะเร่งฟื้นฟูตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา ให้กลับมาเป็นแลนด์มาร์ค ของการท่องเที่ยวเมืองพัทยาโดยเร็ว และจะมีการถอดผลเรียนจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ โดยจะมีการวางแผนศึกษาและติดตั้งระบบความปลอดภัยทุกรูปแบบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก และจะยกระดับความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และจะพัฒนาตลาดน้ำ 4 ภาค ให้อยู่คู่กับเมืองพัทยา ตลอดไป
ด้าน นายพิสิษฐ์ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือว่าสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้อย่างรวดเร็ว และถือเป็นความโชคดี เนื่องจากใต้จุดที่เกิดเพลิงไหม้เป็นบ่อน้ำ นักดับเพลิงจึงสามารถนำเครื่องดับเพลิงแบบหาม เข้าไปใกล้จุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้สะดวกและรวดเร็ว จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด จึงทำให้ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา ได้รับความเสียหายเพียง 20-30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนมูลค่าความเสียหายก็ตามที่ทางผู้บริหารแจ้งไว้ อยู่ที่ราว 60-70 ล้านบาท ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงต้องรอผลสรุปจากผู้เชี่ยวชาญ และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน จะทำรายงานสรุปมาที่ พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ส่วนการตรวจสอบโครงสร้างได้ให้วิศวกรโยธาเข้ามาตรวจสอบ และพบว่าจุดเกิดเหตุเกิดขึ้นบริเวณเกาะกลางน้ำ และไม่มีผลกระทบกับโครงสร้าง จึงทำให้ตลาดน้ำ 4 ภาค สามารถเร่งกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี
พสิษฐ์ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก