ข่าวพาดหัวลักทรัพย์เมาสุรา

หนุ่มเมายา B5 ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนลักทรัพย์ คืนเดียว 3 หลัง

หนุ่มเมายา B5 ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนลักทรัพย์ คืนเดียว 3 หลัง
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 11 กันยายน 2566 ร.ต.อ.สมยศ ไกรกิจธนโรจน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีรถจักรยานยนต์จอดทิ้งไว้ในป่าหญ้า ภายในชุมชนศิษย์ธรรมคุณ หมู่ 18 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเดินทางตรวจสอบ


พอเจ้าหน้าที่ไปถึง พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า นูโว สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ถูกจอดทิ้งไว้ สภาพไฟท้ายหลุดห้อย จากการตรวจค้นใต้เบาะรถไม่พบเอกสารและไม่พบกุญแจรถ พบเพียงเสื้อผ้าจำนวน 2 ชุด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำรถคันดังกล่าวไปตรวจสอบที่ โรงพัก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังนำรถจักรยานยนต์ออกจากจุดเกิดเหตุ ก็มีชาวบ้านเดินมาบอกว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมี วัยรุ่น ขับมา แล้วได้ไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้าน บริเวณในชุมชนดังกล่าวจำนวน 3 หลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางเข้าตรวจสอบบ้านทั้ง 3 หลังที่ถูกเกิดเหตุลักทรัพย์ ก็พบว่าถูกลักทรัพย์เสื้อและทรัพย์สินเล็กน้อยที่หายไป ที่ห้องเช่าเลขที่ 46/4 พบกางเกงยีนส์ขายาว จำนวน 1 ตัว โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง และมีปลายแหลม จำนวน 1 เล่ม ถูกทิ้งไว้ตรงโอ่งน้ำบริเวณหลังห้องเช่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงเก็บไปตรวจสอบ
กล้องวงจรปิดของบ้านเลขที่ 46/100 หมู่ 18 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งถูกก่อเหตุ สามารถจับภาพ ชายอายุประมาณ 25-30 ปี ผิวดำแดงสูงประมาณ 165-170 เซนติเมตร แต่งกายใส่เสื้อคลุมสีเขียวขาวแขนยาวมีโลโก้ ไลเดอร์ ส่งอาหารบริษัทหนึ่ง ใส่กางเกงยีนส์ขาสั้น เข้ามาหยิบจับของภายในบ้าน ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์คันที่เจ้าหน้าที่พบหลบหนีไป


จากการสอบถามชาวบ้านในที่เกิดเหตุทราบว่า ชายที่มาก่อเหตุมีเพื่อนรู้จักกันภายในชุมชน แล้วไปหาเพื่อนและได้กินยา B5 หรือยากล่อมประสาทสำหรับผู้ป่วยจิตเวช จากนั้นก็มีอาการเหมือนมึนเมายาดังกล่าว และได้ตระเวนก่อเหตุดังกล่าวภายในชุมชน
นางเฉลา เต็งเจริญ อายุ 52 ปี เล่าว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01:00 น. ตนเองได้นอนอยู่ที่บ้านตามปกติ โดยบ้านเป็นลักษณะห้องแถวบริเวณทางเข้า โดยมีลูกบ้านตะโกนเรียก ตนเองก็ตกใจตื่นมา จึงออกไปดูก็พบว่าลูกบ้านช่วยกันจับชายหนุ่มอายุประมาณ 20-30 ปี ไว้ เพราะเข้ามาบริเวณห้องเช่า และมาเดินด้อม ๆ มอง ๆ มีความน่าสงสัย โดยตนเองจึงได้เข้าไปสอบถามชายดังกล่าว ได้บอกว่ามาจากแถวซอยวัดหนามแดง จะมาหาเพื่อน แต่เพื่อนย้ายไปแล้ว ตนเองจึงเห็นว่าไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป บวกกับความสงสารที่ชายดังกล่าวบอกว่าเพิ่งออกมาจากคุก ตนเองจึงบอกไปว่าครั้งนี้ให้โอกาส แต่หากคราวหน้าเข้ามาอีกจะส่งดำเนินคดีกับทางตำรวจ


จากการสอบถาม ลุงชัย (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา แฟนของตนได้บอกกับตนว่าได้ยินเสียงคล้ายใครมาทำอะไรข้างบ้าน แต่ก็ไม่ได้ออกไปดู พอรุ่งเช้า ตนเองก็มาเปิดร้านตามปกติ ก็พบรถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณข้างร้าน ก็คิดว่าเป็นของชาวบ้าน จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่เทศบาลเข้ามารับคนป่วย และรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ในซอยที่มีลักษณะซอยแคบ ตนเองจึงไปไล่ถามชาวบ้าน ก็ไม่มีใครระบุว่าเป็นเจ้าของ จึงเข็นไปไว้บริเวณป่าหญ้าใกล้ๆ และผิดสังเกตคือรถคันดังกล่าวไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน และไม่มีใครเป็นเจ้าของ โดยชาวบ้านละแวกนั้นก็ไม่มีใครคุ้นรถคันดังกล่าว จึงตัดสินใจโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ เพราะเกรงว่าจะเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ จะได้รวบรวมพยานหลักฐาน กล้องวงจรปิด พร้อมเชิญผู้ที่เห็นเหตุการณ์ไปสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
**************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ