ข่าวทั่วไป

พบศพสาวชุดดำ ลอยน้ำเจ้าพระยา ในตัวมีเงินสดพร้อมทองคำ

พบศพสาวชุดดำ ลอยน้ำเจ้าพระยา ในตัวมีเงินสดพร้อมทองคำ

วันที่ 18 กันยายน 2566 เวลา 12.00 น.

ร้อยตำรวจเอก จิรายุ สายสุวรรณ รอง สว.สอบสวน สน. ปากคลองสาน รับแจ้งมีผู้พบศพหญิงสาวสวมชุดดำลอยกลางแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าเทียบเรือสวัสดี จึงเร่งรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงบริเวณท่าน้ำใต้สะพานพุทธ ถนน ประชาธิปก แขวง สมเด็จเจ้าพระยา เขต คลองสาน กรุงเทพมหานคร อาสาสมัครได้จัดเตรียมเรือกู้ภัยทางน้ำพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกู้ภัยทางน้ำเร่งนำเรือออกจากท่าน้ำใต้สะพานพุทธฯ มุ่งหน้าไปท่าเทียบเรือสวัสดีเพื่อเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตทันที และเมื่อมาถึงบริเวณท่าเทียบเรือดังกล่าวพบศพหญิงสาว อายุ 53 ปี สวมชุดดำลอยในลักษณะคว่ำหน้าอยู่บริเวณใต้ท่าเทียบเรือดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษและกู้ภัยทางน้ำจึงได้ช่วยกันเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตและได้ทำการเคลื่อนย้ายมาขึ้นฝั่งบริเวณท่าน้ำใต้สะพานพุทธ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวชตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้น

เเละเมื่ออาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตมาถึงท่าน้ำใต้สะพานพุทธแล้วจึงรับเร่งนำขึ้นสู่ฝั่งด้านบนเพื่อให้แพทย์ทำการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้เสียชีวิตดังกล่าวสวมใส่เสื้อยืดคอปกสีดำแขนยาว กางเกงผ้ายืดขาสามส่วนสีดำ ไม่สวมรองเท้า มีกระเป๋าคาดเอวสีดำ ภายในกระเป๋าพบเงินสดจำนวน 6,290 บาท และ ตุ้มหูทองคำ 1 คู่ บัตรประชาชน 1 ใบ แล้วยังมีกระดาษเขียนเบอร์โทรศัพท์ของลูกชายเอาไว้ด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์ติดต่อตามเบอร์ที่อยู่ในกระเป๋าผู้ตายไปแล้วและปลายสายก็ยอมรับว่าเป็นลูกชายของผู้ตายแต่ยังไม่เชื่อว่าแม่ของตนเองได้เสียชีวิตแล้ว จึงคาดว่าลูกชายผู้ตายน่าจะคิดว่าเป็นเบอร์ของแก๊งค์คอลเซนเตอร์โทรไปหลอกจึงรีบวางสายทันที จึงเข้าใจว่าลูกชายผู้ตายน่าจะโดนแก๊งค์คอลเซนเตอร์โทรศัพท์ไปหลอกลวงหลายครั้งจึงคิดว่าครั้งนี้ตนอาจจะโดนแก๊งค์ดังกล่าวโทรมาหลอกลวงอีกก็เป็นได้จึงไม่ยอมเชื่อ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชได้ตรวจสอบจากสภาพร่างผู้เสียชีวิตแล้วไม่พบร่องรอยของบาดแผล และไม่พบลร่องรอยจากการถูกทำร้ายร่างกาย และจากสภาพร่างผู้เสียชีวิตคาดว่าน่าจะเสียชีวิตไม่เกิน 24 ชั่วโมง จึงมอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชก่อนที่จะพยายามติดต่อให้ญาติมารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.