หนุ่มวัย 31 หลอนควงมีดบุกนิติบุคคล วอนหน่วยงานช่วยเหลือกลัวอันตราย
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 19 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้านภายใน หมู่บ้านอยู่สบาย หมู่ที่ 8 ซอยสุขสวัสดิ์ 72 ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลบางครุ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็น อาคารชุด สูง 5 ชั้น ว่ามีชาย ทราบชื่อ นายตั้ม (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ซึ่งอยู่กับ แม่ อายุ 57 ปี แค่ 2 คน ได้ก่อความเดือนร้อนรำคาญให้ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว
ภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา สามารถจับภาพ นายตั้ม เอะอะโวยวาย ถือมีดอยู่ในมือข้างขวา เดินอยู่กลางถนนหมู่บ้าน โดย นายตั้ม ได้เดินไปที่ สำนักงานนิติบุคคลของหมู่บ้าน ไปถามหา น.ส.สุดารัตน์ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นพนักงานนิติบุคคล ทำให้พนักงานนิติบุคคลที่อยู่ในขณะนั้นหวาดกลัว โดย นายตั้ม ได้มีอาการเอะอะโวยวายถือมีดเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา และ พยายามจะมาผลักประตูทางเข้าสำนักงานนิติบุคคล จนต้องเรียกช่างที่เป็นผู้ชายประจำหมู่บ้านมาช่วยเหลือ ซึ่งมี นายสุริยา อายุ 53 ปี ช่าง และ เป็นพ่อของผู้ที่ นายตั้ม ถามหา โดย นายตั้ม เอะอะโวยวายได้ ประมาณ 20 นาที จากนั้นก็ได้เดินหนีไป จนทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านบริเวณนั้นไม่กล้าออกมานอกบ้าน
จากการไปตรวจสอบพบว่ากล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้ห้อง นายตั้ม ได้รับความเสียหายเพราะถูก นายตั้ม ทำลาย ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งจนทำให้ชาวบ้านภายในหมู่บ้านหวาดกลัวไม่กล้าให้ลูกหลานออกมาข้างนอก เมื่อเห็น นายตั้ม เดินออกมาจากนอกห้องพัก ทางสำนักงานนิติบุคคลได้โทรแจ้งไปที่ สภ.พระประแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจมาก็ดำเนินการเอาตัวไปแต่ก็ได้แค่ขังใน ข้อหา ประพฤติตนวุ่นวาย แล้วก็ปล่อยออกมา เพราะว่าตำรวจได้ตรวจสอบหาสารเสพติด แล้วไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด ซึ้งก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่า นายตั้ม เคยใช้สารเสพติดและได้เลิกมาได้สักพักแล้ว แต่อาการที่มีจากก่อนหน้านี้เคยใช้ยาเสพติด ส่วนวันนี้ทางผู้แจ้งได้ประสานแจ้งไปยัง
พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก สภ.พระประแดง จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยกับ นายตั้ม ซึ่งกำลังพักอาศัยอยู่ภายในห้อง ส่วนแม่ของ นายตั้ม ได้ออกไปทำงาน โดย นายตั้ม มีอาการปกติไม่มีอาการเอะอะโวยวายใดๆ
จากการสอบถาม นายตั้ม ได้เล่าว่า ตนเองยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนเองได้มีอาการดังกล่าวจริง และ ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง และ ได้ทำกล้องวงจรปิดเสียหายจริง บริเวณหน้าห้องพักของตนเอง สาเหตุเพราะตนเองเหมือนกับกล้องวงจรปิดสร้างความลำคานให้ตนเอง ตนเองจึงโมโห ส่วนเรื่องยาเสพติดนั้น เมื่อก่อนตนเองยอมรับว่าเคยใช้ยาเสพติด แต่ตอนนี้ได้เลิกไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแล้ว
จากการสอบถาม นายสุริยา ได้เล่าว่า วันที่เกิดเหตุ ชายดังกล่าวได้เดินมาที่ออฟฟิศซึ่งมีลูกสาว และ พนักงานผู้หญิงอยู่ โดยเดินมาในสภาพที่คลุ้งคลั่ง ในมือถือมีดดาบมาด้วย แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกไปถามว่าเป็นอะไร โดยปกติชายคนดังกล่าวจะมีอาการคลุ่มคลั่งอยู่เป็นประจำ ซึ่งชายคนนี้จะพักอาศัยอยู่กับแม่เพียง 2 คน โดยตนเองและชาวบ้านเคยไปพูดคุยกับแม่ของชายดังกล่าวแล้ว และ ได้เปิดกล้องวงจรปิดให้ดู โดยตัวแม่ของชายดังกล่าวก็ไม่สามารถทำอะไรได้ โดยตอนนี้ทางโครงการหมู่บ้านก็ได้ไปขอคำปรึกษากับหลาย ๆ หน่วยงานในการแก้ปัญหากับชายคนนี้ โดยก่อนหน้านี้ได้ถูกตำรวจคุมตัวไปแล้ว แต่ไม่กี่วันก็ปล่อยมา เนื่องจากไม่สามารถกักขังไว้ได้ โดยมีความผิดเพียงแค่คลุ้มคลั่งอาระวาดเพียงเท่านั้น ทางตำรวจจึงไม่สามารถทำอะไรมากได้ ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านก็ต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง
ทางด้าน น.ส.สุดารัตน์ เล่าว่า ชายคนดังกล่าว บางทีก็ได้ถือมีดมารำไปเรื่อย ๆ โดยรอบหมู่บ้าน จนผู้ปกครองไม่กล้าให้เด็ก ๆ ออกมาวิ่งเล่นกัน โดยเมื่อก่อน ไม่เคยเป็นแบบนี้ อย่างมากก็แค่นั่งบ่น นั่งด่าอยู่หน้าบ้าน แต่ช่วงหลังนี้ ทั้งด่าและ ทำลายข้าวของ มีการทำลายกล้องวงจรปิด และ ปาขวดอัดกำแพงจนแตกหมด ส่วนกล้องวงจรปิดชายดังกล่าวอ้างว่า มีเสียงพูด กับ ตนเองตลอดจึงได้ทำลาย โดยกล้องตัวดังกล่าวสามารถพูดผ่านมือถือได้ แต่ไม่เคยเปิดเสียงใช้งาน จึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยดูแล ว่าจะพาตัวชายดังกล่าวออกไปรักษา หรือ มีหนทางอื่นที่ทำให้ชาวบ้านไม่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงแบบนี้อีกต่อไป
*****************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ