22-09-66 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
ตำรวจกองปราบซ้อนแผนจับสองผัวเมียจอมแสบคาปั้มมีหมายจับคดีร่วมกันยักยอกทรัพย์และลักทรัพย์ติดตัวอื้อ จนมุมคาปั้มน้ำมันขณะขับรถเก๋งมาจากจ.นครศรีธรรมราช มาเช่ารถฟอร์จูนเนอร์กลับไปเที่ยวที่จ.นครศรีธรรมราช ส่อพฤติกรรมอาจหลอกเช่ารถเชิดหนีอีก
เมื่อเวลา 12.30น.วันนี้(22ก.ย.66)ตำรวจกองปราบกอง กองกำกับการ6 กองบังคับการปราบปราม ชุดปฏิบัติการณ์ วางแผนจับกุมสองผัวเมียจอมแสบ นายสราวุธ ธรรมบดี อายุ 45 ปี และ นางพรปวีณ์ ศรีประสงค์ อายุ 44 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังแขวงนครศรีธรรมราช ที่ 176/2565 ลงวันที่ 7 พ.ย.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันยักยอกทรัพย์”และยังมีหมายจับคดีร่วมกันลักทรัพย์ติดตัวอีกหลายหมายจับ
โดยทั้งสองคนถูกตำรวจกองปราบจับกุมได้ภายในปั้มน้ำมัน ปตท.ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ม.1 ต.ควนลัง อ.ควนลัง จ.สงขลา หลังจากที่สืบสวนแกะรอยและทราบว่า นายสราวุธ และ นางพรปวีณ์ สองผัวเมียคู่นี้ได้ติดต่อขอเช่ารถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ จากผู้ประกอบการรถเช่าในอ.หาดใหญ่ และในวันนี้ได้นัดหมายเดินทางมารับรถกันภายในปั้มน้ำมันแห่งนี้
ทางตำรวจกองปราบจึงวางแผนจัดกำลังไปเฝ้ารอภายในปั้ม จนกระทั่งทั้งคู่ปรากฏตัวเดินทางมากับรถเก๋งพร้อมกับครอบครัว และตำรวจกองปราบได้สังเกตุพฤติกรรมอยู่สักพักเพื่อไม่ให้เป้าหมายไหวตัวทัน เนื่องจากทั้งคู่ค่อนข้างระวังตัวแจ สอดส่ายสายตาทั้งเดินไปเดินมาเพื่อดูความผิดปกติภายในปั้มน้ำมัน
เมื่อเริ่มตายใจว่าไม่มีอะไรผิดสังเกตุ ตำรวจกองปราบจึงแสดงตัวเข้าจับกุมเอาไว้ได้ทั้งสองคนพร้อมกับแสดงหมายจับให้ดู แต่ทั้งคู่ก็อ้างว่าแค่มารับรถฟอร์จูนเนอร์ที่เช่าไว้เพื่อขับกลับไปเที่ยวที่จ.นครศรีธรรม
สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนเพราะมีหมายจับคดียักยอมทรัพย์ทั้งคู่ปฏิเสธไม่ออก ซึ่งเป็นคดีที่ทางผู้ประกอบการรถเช่าในจ.นครศรีแจ้งความเอาไว้หลังจากที่หลอกเช่ารถแล้วเชิดหายไป
และในวันนี้ก็เป็นไปได้ว่าเป้าหมายก็อาจจะมาหลอกเช่ารถฟอร์จูนเนอร์ เพราะจากพฤติกรรมยอมขับรถเก๋งมากับครอบครัวจากนครศรีธรรมราชเพื่อที่จะเช่ารถกลับไปเที่ยวที่จ.นครศรีธรรมราช ค่าเช่าวันละ 3,000 บาท ซึ่งส่อแววมีพิรุธอาจหลอกเชิดรถไปเหมือนกับที่เคยถูกผู้ประกอบการรถเช่าแจ้งความไว้ และจากการตรวจสอบในระบบ crimespolice ปรากฏว่านายสราวุธฯยังมีหมายจับค้างเก่าอยู่อีก 3 หมาย
1.หมายจับที่ จ.268/2565 ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 27 มิ.ย.2565 ซึ่งต้องหาวว่ากระทำผิดข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อพ้นการการจับกุม”สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี
2.หมายจับที่ 461/2565 ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 20 ต.ค.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์” สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี
3.หมายจับที่ จ.270/2566 ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 7 ก.ค..2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง” สภ.พุนพิน
ส่วน นางพรปวีณ์ฯก็มีหมายจับค้างเก่าอยู่อีก 1 หมาย เช่นกัน หมายจับที่ 460/2565 ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 20 ต.ค.2565 ซึ่งต้องหาวว่ากระทำผิดข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์”สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี
หลังจากทั้งสองคนถูกตำรวจกองปราบจับกุมได้ ได้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดีตามหมายจับที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราชเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป