หญิงสาววัย 29 ปี มีประวัติโรคซึมเศร้า พกบัตรประชาชน และบัตรบริจาคอวัยวะและร่างกายหายตัวไป พบลอยกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านคลองสาน
วันที่ 25 ต.ค.63 เวลา 15.30 น. พ.ต.ท.แดนชัย ทูลอ่อง สว.(สอบสวน) สน.ปากคลองสาน ได้รับแจ้งมีผู้พบศพลอยน้ำ อยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าน้ำ ห้างแห่งหนึ่งย่านเจริญนคร จึงให้เจ้าหน้าที่ลากจูงมาผูกไว้ที่ท่าน้ำการศึกษา จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เมื่อเจ้าหน้าที่และอาสาไปถึงที่เกิดเหตุ บริเวณท่าเรือปลายถนนลาดหญ้า ถนนลาดหญ้า เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
พบเจ้าหน้าที่ได้ใช้เชือกผูกกับเสาโครงเหล็กระเบียงทางเดินของท่าน้ำ ผู้เสียชีวิตเป็นหญิง สวมใส่เสื้ดยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ กางเกงขายาวสีเทา รองเท้าสีน้ำตาล ผิวขาว มีทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 317 บาท และพบบริจาคอวัยวะ ร่างกาย และดวงตา บัตรประชาชน ทราบชื่อต่อมา ชื่อ น.ส.จันทาภา ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 29 ปี
อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นามเรียกขาน ปากคลอง 21 ชื่อ นาย นาวี ( ขอสงวนนามสกุล )อายุ 35 ปี บอกเล่าว่า “ผมได้ยินแจ้งว่ามีผู้พบศพลอยน้ำ ที่หน้าห้างชื่อดังย่านเจริญนคร เจ้าหน้าที่ กทม.ผูกแล้วลากจูงมาที่ท่าน้ำการศึกษา ตอนแรกที่เห็นเป็นผู้หญิงลอยหงายหน้า อายุประมาณ 25-30 ปี ผิวขาว ครับ”
เบื้องต้น ทางแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช สันนิษฐานการเสียชีวิตจากการจมน้ำ แต่อย่างไรแล้วต้องส่งมอบให้อาสาสมัครนำส่ง สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช ก่อนจะให้ญาติมาติดต่อไปดำเนินการตามพิธีต่อไป ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบเอกสารการแจ้งหายไว้ พบว่า ได้มีการแจ้งคนหายไว้ที่ สน.สำเหร่ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.63 จึงรีบประสานญาติให้มาตรวจสอบดูว่าใช่คนเดียวกันหรือไม่ และเมื่อญาติเดินทางมาถึงได้บอกเล่ากับทางเจ้าหน้าที่ว่า ” ตนเป็นญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งตัวของผู้เสียชีวิตเองมีประวัติป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และเคยได้รับการรักษาจากอาการดังกล่าวที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น แล้วเคยทำร้ายตนเองอยู่บ่อยๆ และเคยก่อเหตุฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็จะมีคนมาพบแล้วช่วยเอาไว้ได้ แต่ครั้งนี้คงจะไม่มีใครเห็นเลยช่วยไม่ทัน ส่วนเรื่องของการติดใจในการเสียชีวิตก็ไม่ติดใจอะไรคิดว่าเขาคงจะทำด้วยตัวของเขาเองเป็นการตัดสินของเขาเองมากกว่า หลังจากนี้ก็จะไปติดต่อรับศพในวันพรุ่งนี้ เพื่อจะนำมาประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ส่วนทางเจ้าหน้าที่จะต้องขอให้ญาติตามไปที่ สน.เพื่อสอบถามข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อรวบรวมข้อมูลไว้เป็นหลักฐานทางกฎหมายต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.