นาวิกโยธิน จัดพิธีย่ำพระสุริย์ศรี สวนสนามเทิดเกียรติผู้บัญชาการนาวิกโยธิน และกำลังพลในสังกัด โอกาสเกษียณือายุราชการ
ช่วงเย็น วันที่ 25 ก.ย.66 ที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือโท เผดิมชัย สุคนธมัต ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานในพิธีอำลาชีวิตการรับราชการและพิธีย่ำพระสุริย์ศรี ซึ่งหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และข้าราชการ ในโอกาสเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2566
โดย พลเรือตรี สมรภูมิ จันโท รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กล่าวเทิดเกียรติ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กล่าวขอบคุณและอำลาหน่วย พร้อมมอบของที่ระลึกและมอบช่อดอกไม้ให้กับผู้เกษียณอายุราชการและภริยา การแสดงการโดดร่มแบบดิ่งพสุธาของนักกีฬาโดดร่มกองทัพเรือ จำนวน 22 นาย ทั้งชายและหญิง ที่ชนะเลิศโดดร่มกีฬากองทัพไทย ครั้งที่ 53 ล่าสุด และสามารถครองแชมป์ไว้ได้เป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกัน การแสดงการยิงปืนฉับพลัน จากหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน พิธีเชิญธงราชนาวีลงจากยอดเสา ที่กำหนดจัดให้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นเกียรติแด่ ผู้บังคับบัญชาที่เกษียณอายุราชการ ตามแบบธรรมเนียมของทหารเรือ การแสดงของนักเรียนพลแตรสัญญาณ กรมสนับสนุนกองพลนาวิกโยธิน และการบรรเลงเพลง “ย่ำพระสุริย์ศรี” พิธีสวนสนามเพื่อเป็นเกียรติแด่ บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้เกษียณอายุรับราชการ และการจุดพลุและดอกไม้ไฟ “อำลา ไม่อาลัย” อย่างสวยสดงดงามสำหรับพิธีในวันนี้
ความหมายของพิธี “ย่ำพระสุริย์ศรี” เป็นพิธีซึ่งสื่อความหมายถึงวัฏจักรชีวิตการรับราชการ ที่เปรียบเสมือนดวงตะวันจากสามัญในยามเช้าสู่สูงสุดในยามกลางวัน ยังประโยชน์แด่สรรพชีวิต ให้ดำเนินไปอย่างเป็นปกติสุขและกลับสู่สามัญอีกครั้งในยามเย็น และเนื่องจากทหารเรือ มีการเชิญธงราชนาวีลงจากยอดเสา ในเวลาดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ดังนั้น จึงได้ถือเอาเวลาดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้ามาเป็นจุดสำคัญของการจัดงาน โดยเทียบเคียงว่า การเชิญธงราชนาวีลงจากยอดเสาเมื่อเวลาดวงอาทิตย์ตก ณ สถานที่แห่งนั้น ซึ่งเป็นการสิ้นสุดภารกิจประจำวัน เปรียบเสมือนชีวิตราชการทหารเรือ ต้องสิ้นสุดลงตามวาระของทางราชการ และตามประเพณีทหารเรือ หลังจากเชิญธงลง แตรเดี่ยวจะเป่าเพลง “ย่ำค่ำ” ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมายาวนาน และเมื่อ 40 กว่าปีที่ผ่านมา นายทหารแห่งดุริยางค์ราชนาวีท่านหนึ่ง ได้นำเพลง “ย่ำคำ” มาเรียบเรียงเสียงประสานเสียใหม่ เพื่อใช้บรรเลงร่วมกับวงโยธาวาทิต และตั้งชื่อเพลงนี้ว่า “ย่ำสุริย์ศรี” ในความหมายที่ว่า “พระอาทิตย์ ที่งดงามในยามเย็น”
ดังนั้น หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ซึ่งจัดงานพิธีการเพื่อเป็นเกียรติสำหรับผู้อำลาชีวิตราชการ ตั้งแต่ปี 2522 จึงใช้ชื่อว่า “พิธีย่ำพระสุริย์ศรี” ด้วยความหมายเป็นนัยว่า “เป็นการจบลงอย่างสง่างาม” มาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่ต้องอำลาชีวิตราชการมีความภาคภูมิใจ ประทับใจ และเพื่อความทรงจำที่ดีตลอดไป อีกทั้งเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ ที่ท่านเหล่านั้นได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และสติปัญญา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมือง และ
เพื่อกองทัพเรือ อย่างเต็มความสามารถ ตั้งแต่เริ่มต้น จนกระทั่งอำลาชีวิตราชการ
ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี
พสิษฐ์ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก