เปิดใจสายตรวจคุมตัวผู้ต้องหากราดยิง ยันยุทธวิธีเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 4 ต.ค. ที่ สน.สำราญราษฎร์ พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฎร์ และ นายวิเชียร สุภาพ ประธาน กต.ตร.โรงพัก ทำพิธีมอบรางวัลให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ จำนวน 4 นาย ซึ่งเข้าร่วมภารกิจควบคุมสถานการณ์กราดยิง ภายในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน และจับกุมตัวเยาวชน อายุ 14 ปี ได้หลังเสียงปืนนัดแรกดังขึ้น เพียง 20 นาที ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับรางวัล ประกอบด้วย 1.ส.ต.ท.กร ศรีพรหม หรือ “หมู่ก่อ” 2.ส.ต.ท.นันทนัช สุธรรม หรือ “หมู่คิว” 3.ส.ต.ท.เจษฎากร ประทุมทอง หรือ “หมู่ฟลุ๊ค” และ 4.ส.ต.ต.วรพล เครือพันธุ์ หรือ “หมู่ก้อง”
พ.ต.อ.ทศพล กล่าวว่า เมื่อวานนี้หลังสถานการณ์สงบลง มีผู้สื่อข่าวโทรมาสอบถามหลายสายว่า ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ไปช่วยราชการ สน.ปทุมวัน หรืออย่างไร เหตุใดจึงเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ ตนต้องนำเรียนว่า กรณีนี้ไม่ใช่การช่วยราชการ แต่เป็นการสนับสนุนกำลังพลกันตามภารกิจปกติ โดยที่ผ่านมา เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรง มีภารกิจพิเศษ หรือภารกิจดูแลผู้ชุมนุม ทางผู้บังคับบัญชาก็จะสั่งการตรง ทางวิทยุสื่อสารให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ โรงพักข้างเคียงกับจุดเกิดเรื่อง เข้าร่วมให้การสนับสนุนตำรวจท้องที่อยู่แล้ว เรื่องดังกล่าวจึงไม่ถือเป็นการช่วยราชการแต่เป็นภารกิจตามหน้างานปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรับรายงานความวุ่นวายขึ้นในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ทาง พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 ก็ได้สั่งการตรงผ่านทางวิทยุสื่อสารให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน รุดเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุทันที กำลังชุดแรก ถึงห้างสรรพสินค้าภายใน 5 นาที จากนั้นสั่งการให้สายตรวจทุกโรงพักในความรับผิดชอบของ บก.น.6 โรงพักละ 4 คน (สายตรวจ 2 สาย รถ จยย.2 คัน) เร่งประกอบกำลังสวมเสื้อเกราะและเตรียมความพร้อมของอาวุธประจำกายขั้นสูงสุด ใช้ รถ จยย.เป็นยานพาหนะฝ่าฝนและสภาพการจราจรที่ติดขัด เข้าให้การสนับสนุนยังห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนทันที ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สถานการณ์คลี่คลายภายใน 20 นาที หลังจากมีเสียงปืนดังขึ้น ทำให้ภาพของหน่วยปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26, หนุมาน, และ คอมมานโด 904 ซึ่งถูกเรียกมาประจำการเตรียมความในเวลาเดียวกัน ไม่ต้องปรากฏออกสื่อ ซึ่งอาจทำให้ชาวต่างประเทศ อนุมานภาพที่เกิดขึ้นว่าเป็นการก่อการร้าย
ส.ต.ท.กร ศรีพรหม หรือ “หมู่ก่อ” ผบ.หมู่ (ป.) สน.สำราญราษฎร์ ผู้เข้าควบคุมตัวผู้ต้องหา ตามภาพที่ปรากฏในสื่อมวลชน กล่าวว่า ทีแรกได้รับแจ้งสนับสนุนให้นำกำลังไปที่สยามพารากอน คิดว่าเป็นเหตุนักเรียนตีกัน แต่เมื่อตนและเพื่อนๆอีก 3 นาย ไปถึง จึงรู้ว่าเป็นเหตุการณ์ยิงกันในห้างสรรพสินค้า ยอมรับว่ากลัวเพราะถือเป็น เรื่องใหญ่ที่ต้องเข้าควบคุมสถานการณ์แบบนี้ ในชีวิตราชการครั้งแรก ต้องขอบคุณผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ,ผบก.น.6 และ ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ที่ให้ฝึก ยุทธวิธีทั้ง SOP และ Active Shooter มาตั้งแต่ต้น จนสามารถควบคุมสติอารมณ์ และสามารถปฏิบัติการตามยุทธวิธีที่ฝึกฝนผ่านมาได้
“ตอนเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาตนบอกน้องว่าให้ใจเย็นๆ โดยหลังจาก ขึ้นบันไดเลื่อนไปพบกับ ร.ต.อ.ธัญอมร หนูนารถ รอง สวป.สน.ปทุมวัน ที่ชั้น 3 ก็ได้แบ่งหน้าที่การทำงาน ทาง ร.ต.อ.ธัญอมร ซึ่งถืออาวุธปืนลูกซองเป็นผู้สั่งการพูดคุยกับผู้ต้องหา ตนเข้าทำการควบคุมตัว ส.ต.ท.นันทนัช เป็นผู้สแกนหาเป้าหมายตรวจตราความปลอดภัยภายในร้านเฟอร์นิเจอร์ ส่วน ส.ต.ท.เจษฎรกร และ ส.ต.ต.วรพล ทำหน้าที่ระวังหลัง Cover ให้จากด้านนอก”
ส.ต.ท.กร กล่าวด้วยว่า หลักการทำงาน หลังจากนี้ตนยึดถือยุทธวิธีเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ที่ผ่านมาเคยมีความฝันอยากเข้าไปอยู่ในหน่วยปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26 เคยสมัครเข้าร่วมฝึกหลักสูตรอินทราช 26 รุ่นที่ 9 แต่ไม่ผ่านการเทส หลังจากนี้หากมีโอกาสตนจะเตรียมร่างกายเข้าไปฝึกอีก เพื่อทำตามฝันไปประจำการในหน่วยอรินทราช 26 ให้ได้ ตามความต้องการ.
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.