ตราด/อาลัย…ท่านก๋งเตื่อง เตชปญฺโญ” วัดคลองจาก สิริอายุ 96 ปี เกจิชื่อดังสองแผ่นดิน ไทย-กัมพูชา มรณภาพแล้ว
https://youtu.be/jE4erqe58Hg
.
มรณภาพเมื่อเวลา 02.40 นาฬิกา วันที่ 28 ตุลาคม 2563 ที่โรงพยาบาลตราดอาการป่วยถุงลมเหลือน้อยหายใจไม่สะดวก เข้ารักษาที่โรงพยาบาลตราดตั้งแต่วันพฤหัสบดีวันที่ 22 ตุลาคม 2563 พิธีรดนํ้าศพท่านก๋งเรื่อง เตชปญโญเวลา 15.00 น.ที่ศาลาวัดคลองจาก โดยมีนายพีระ การุญ นายอําเภอคลองใหญ่ เป็นประธานรดน้ำศพ พร้อมด้วยหลวงพ่อสุพจน์ ฐิตพฺพโต วัดห้วงพัฒนา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระบุรเขตธรรมคณี เจ้าคณะจังหวัดตราดพระครูพิทักษ์บุรเขต เจ้าคณะอําเภอคลองใหญ่ พระสมุห์วุฒิไกร สํวโร เจ้าอาวาสวัดคลองจาก พร้อมด้วยเกจิอาจารย์ในพื้นอําเภอคลองใหญ่เข้าร่วมในพิธีรดน้ำศพ พร้อมด้วยพุทธสาสนิกชนศิษยานุศิษย์ชาวไทยและกัมพูชาเข้าร่วมเป็นจํานวนมาก พร้อมนําศพขึ้นตั้งร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม 5 คืน ตั้งแต่วันที่ 28-2 พฤศจิกายน 2563 ที่วัดคลองจาก ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด
ชีวประวัติท่านก๋งเตื่อง
ท่านก๋ง (เตื่อง เตชปญโญ) นามเดิมชื่อ นายเตื่อง ศรีษะเกตุ เกิดวันเสาร์ เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ.2467 ที่หมู่บ้าน แหลมเป๊าะ จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา บิดาชื่อ นายจำ มารดาชื่อ นางตาด เป็นบุตรคนที่ 4 มีพี่น้องรวม 9 คน ภรรยาชื่อนางเพียร มีบุตรด้วยกัน 6 คน เสียชีวิตไปแล้ว 3 คน มีอาชีพทำนาเป็นหลัก ท่านก๋งอุปสมบท เมื่ออายุ 22 ปี ในปี พ.ศ.2489 โดยมีท่านพ่อรอด วัดมรคาราม(พนมกรุง) จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา เกจิพุทธาคมผู้เรืองนามด้านตะกรุดและเครื่องรางของขลังในสมัยนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ หลังจากที่บวชแล้วท่านก๋งได้กราบขอเป็นศิษย์ท่านพ่อรอด ได้ศึกษาร่ำเรียนะรัธรรมวินัยและวิชาอาคมต่างๆจนแตกฉาน แต่เนื่องด้วยปัญหาต่างๆภายในประเทศในสมัยนั้น ประกอบกับต้องรับผิดชอบครอบครัวที่มีฐานะยากจน ท่านก๋งจึงได้ขอลาสิกขาบทไปใช้ชีวิตในเพศฆราวาสและมีเหตุอันจำเป็นที่ต้องเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ.2518 อายุ 51 ปี โดยท่านก๋งได้อาศัยอยู่ที่บ้านไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด
.
จนกระทั่งปี พ.ศ.2530 อายุ 63 ปี ท่านก๋งเห็นว่าทางครอบครัวและลูกๆสามารถช่วยเหลือตัวเองได้และไม่น่าเป็นห่วง ท่านก๋งจึงตัดสินใจหวนคืนเข้าสู่ร่มกาสาวพัตรอีกครั้ง โดยมีท่านพ่อเลี่ยน วัดเกาะกะปิ จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา เป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ท่านก๋งและได้จำพรรษาอยู่ที่ วัดแหลมเป๊าะ(อุทัยยาราม) จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดท่านก๋ง เป็นเวลา 10 พรรษา ช่วงเวลาที่ท่านก๋งอยู่ที่ วัดแหลมเป๊าะ ท่างก๋งได้นำวิชาอาคมที่ได้ร่ำเรียนจากผู้ที่เป็นพระอาจารย์มาทำตะกรุดแจกลูกหลานและชาวบ้านแหลมเป๊าะไว้ป้องกันตัว จนเกิดประสบการณ์มากมายในด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย จนเป็นที่เลื่องลือและเป็นที่หวงแหนของชาวบ้านแหลมเป๊าะในสมัยนั้นที่มีตะกรุดท่างก๋งไว้ในครอบครอง
.
เมื่อปี พ.ศ.2540 ท่านก๋งทราบข่าวว่า ท่านเจ้าอาวาส วัดคลองม่วง จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา ได้อาพาธ ท่างก๋งได้เดินทางไปเยี่ยม ขณะนั้นท่านก๋ง อายุ 73 ปี และท่านเจ้าอาวาส วัดคลองม่วง ได้ฝากให้ท่านก๋งช่วยดูแลวัดคลองม่วง ท่านก๋งก็รับปากว่าจะช่วยดูแลให้ ต่อมาเจ้าอาวาสวัดคลองม่วงได้มรณภาพลง ผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกงและกระทรวงธรรมาการ จึงได้แต่งตั้งท่านก๋งเป็นเจ้าอาวาสวัดคลองม่วงตั้งแต่นั้นมา
.
จนกระทั่งปี พ.ศ.2548 ท่านก๋งอาพาธ มีอาการเหน็บชาที่ปลายเท้า การรักษาพยาบาลสมัยนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก อาการเหน็บชาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหายและเป็นหนักขึ้น ท่านก๋งจึงมอบหมายให้พระอาจารย์หวัน ทำหน้าที่ดูแลวัดคลองม่วงแทน และท่านก๋งได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพื่อมารักษาอาการเหน็บชาและพักจำพรรษาอยู่ที่วัดคลองจาก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด
.
ด้วยท่านก๋งเป็นพระที่เปี่ยมล้นด้วยเมตตาและมีจริยวัตรอันงดงามแก่สาธุชนทั่วไปที่พบเห็นท่าน จนทำให้ชื่อเสียงของท่านก๋ง เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง ทั้งในฝั่งประเทศไทยและประเทศกัมพูชา จนมีผู้ขนานนามท่านก๋งว่า เกจิสองแผ่นดิน ไทย-กัมพูชา จนถึงปัจจุบัน
ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตราด