ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

แรงงานไทยในอิสราเอลเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ววันนี้กว่า 800 คน

แรงงานไทยในอิสราเอลเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ววันนี้กว่า 800 คน
เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 27 ตุลาคม 2566 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ เรือเอกสาโรจน์ คมคาย ที่ปรึกษากฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน นายยุทธนา บัวจุน ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน นางพรนิภา มาสิลีรังสี รองอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ นายสมพจน์ กวางแก้ว รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) นางสาวจีระภา บุญรัตน์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับและดูแลอำนวยความสะดวกแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอลและแจ้งความประสงค์เดินทางกลับถึงประเทศไทย จำนวน 280 คน ที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย โดยสายการบิน การบินไทย เที่ยวบินTG 8953 เครื่องลงเวลา 01.28 น. หลังได้รับการตรวจคัดกรองสภาพร่างกาย และสภาพจิตใจของแรงงานด้านใน และมีเจ้าหน้าที่ของ กรมการจัดหางาน กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งจุดอำนวยการรับเอกสารการขอรับสิทธิประโยชน์กองทุนฯ สำหรับแรงงาน ที่ประตู 10 ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน


ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.กรจิรัฏฐ์ พงจันทร์ศธร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน นางวัชรี มากหวาน ผู้ตรวจราชการกรม กสร. นายขัตติยะ แพนเดช. ผู้ตรวจราชการกรม. กรมการจัดหางาน ร่วมต้อนรับแรงงานไทยกลับจากประเทศอิสราเอล 3 เที่ยวบิน ดังนี้ เที่ยวบินที่ LY083 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 08.34 น. จำนวน 268 คน เที่ยวบินที่ LY081 ถึงสนามบินเวลา 11.25 น. จำนวน 60 คน และเที่ยวบินที่ LY085 ถึงสนามบินเวลา 12.39 น. จำนวน 235 คน รวม 4 เที่ยวบิน จำนวน 843 คน หลังจากนั้นแรงงานไทยเข้ารับการตรวจคัดกรองโรค พร้อมรับการฟังชี้แจงสิทธิประโยชน์จากเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน โดยมี ผู้บริหารสังกัดกระทรวงแรงงานเข้าร่วมให้การต้อนรับ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ


น.ส.กรจิรัฏฐ์ พงจันทร์ศธร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตอนนี้ที่มีแรงงานไทยจดทะเบียนไว้ประมาณ 8,418 คน กลับมาแล้วประมาณ 5,400 คน ก็จะทยอยกลับมาเรื่อย ๆ ในวันนี้ไฟล์แรกที่ลงเมื่อเช้า มีจำนวน 268 คน และยังมีอีก 2 ไฟล์ คือ 11 โมง และตอนเที่ยง วันนี้ก็น่าจะประมาณ 500-600 คน พอแรงงานมาถึงก็จะมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานมาคอยตอนรับและจะมีการชี้แจ้งสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ของกระทรวงแรงงานก็จะมีการแจกเอกสาร เราไม่อยากให้เขาที่เดินทางมาไกลแล้วเสียเวลาเยอะ ก็จะเป็นการประหยัดเวลาให้เขามากที่สุด ให้เขาได้กลับไปภูมิลำเนา ในส่วนของสมุทรปราการก็จะมีแจกเอกสารเรื่องสิทธิประโยชน์ จากภาวะที่กลับมา เนื่องจากทำงานที่ไหน ทำอะไรบ้าง แล้วก็เงินคืนของภาษีตามความเป็นจริง เราจะแจกของกระทรวงแรงงาน ในส่วนของ พม. เขายืนยันในส่วนภารกิจของ พม. แล้วก็กระทรวงยุติธรรม จะให้ข้อเกี่ยวกับเรื่องสิทธิประโยชน์ของเขา หรือว่าการช่วยเหลือต่าง ๆ ที่เขาจะได้รับเมื่อเขากลับไปภูมิลำเนา ตั้งแต่เกิดภาวะความไม่สงบในอิสราเอล กระทรวงแรงงานได้ตั้งคณะทำงาน ตั้งศูนย์ช่วยเหลือแรงงานไทยเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลขึ้น ในสวนกลาง มีการประชุมทุกวัน แล้วก็จะมีในส่วนของจังหวัดให้ตั้งที่สำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด อยู่ในส่วนของการช่วยเหลือ บางจังหวัดทำเต็มภาคจังหวัดด้วย การที่ยื่น อย่างแรกเลยจะเป็นเงินกองทุน เขาจะได้จากภาวะสงคราม จะได้ 15,000 บาท ยื่นได้ที่สำนักงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือที่กระทรวง ถ้ายังไม่กลับภูมิลำเนา ก็จะมีศูนย์ช่วยเหลือแรงงานอยู่บริเวณชั้นล่าง อันนี้ก็จะรับเรื่องอยู่ ในปัจจุบันแรงงานไทยที่กลับมาแล้วตอนนี้เราวินิจฉัยไปแล้วได้ประมาณ 600 กว่าราย แรงงานไทยจากภาวะสงคราม นั้นก็คือเงินกองทุน ส่วนที่มีแรงงานส่วนหนึ่งที่เดินทางกลับมาเองไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ ตรงนี้ก็ต้องขออนุญาตให้แรงงานทุกท่านเก็บหลักฐานไว้ก่อนรอความชัดเจน จากกระทรวงการต่างประเทศเรื่องของสิทธิในการเบิกจ่าย แต่ว่าถ้าจะยื่นในเบื้องต้นก็ยื่นที่สำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด


นาย ชัยวัฒน์ ภูเงิน อายุ 40 ปี ชาว จ.หนองคาย หนึ่งในคนไทยที่เดินทางกลับมา ในทันที่ที่พบครอบครับดีใจมาก ได้เข้าไปกอดลูกชายและภรรยาด้วยความดีใจ จนทำให้ ลูกชายและภรรยาน้ำตาไหลด้วยความดีใจ ที่ไม่ได้พบกันมาเป็นเวลา 10 แล้ว ได้แต่วีดีโอคอล คุยกัน อยู่เป็นประจำ เล่าว่า ตนเองเดินทางไปทำงาน อิสราเอล 10 ปีแล้ว ได้กลับมาบ้านเพียงครั้งเดียว ในปีแรกที่ ที่ไปทำงานหลังจากนั้นไม่ได้กลับมาอีกเลยโดยไปทำงานเกษตร ที่สวนองุ่นจนเกิดสงครามแต่ตนอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ และตอนนี้เหตุการณ์เริ่มลุกลามตนเองกลัวไม่ปลอดภัยจึงเดินทางกลับมาบ้านก่อนหลังสงครามสงบค่อยว่ากันอีกครั้ง
น.ส.อัญชิสา ศรีเนตร อายุ 41 ปี ชาวอุบลราชธานี เล่าว่า วันนี้ดีใจมากที่ได้กลับมาบ้านอย่างปลอดภัย ได้พบครอบครัว จนน้ำตาไหลออกมาหลังที่พบหน้ากัน หลังที่เดินทางไปทำงานได้เพียง 1 ปี 3 เดือน หลังจากที่รอการเดินทางไปทำงานถึง 4 ปีจึงมีโอกาสได้ไปทำงาน การเกษตร ปลูกองุ่น โดยตนทำงานที่อิสราเอลในกลางตอนล่าง โดยไม่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงระเบิดเพียงวันแรก หลังจากนั้นก็เหตุการณ์ปกติ แต่หวั่นเหตุการณ์ลุกลามจึงเดินทางกลับมาก่อนหลังเหตุการณ์สงบก็จะเดินทางกลับไปทำงานใหม่อีกครั้ง
**********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ