ข่าวพาดหัวอุบัติเหตุ

ชนกันอลหม่านใต้ BTS โพธิ์นิมิตร

ชนกันอลหม่านใต้ BTS โพธิ์นิมิตร

เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 31 ตุลาคม 2566

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีอุบัติเหตุรถชนกันหลายคันบริเวณใต้ BTS โพธิ์นิมิตร แขวง บุคคโล เขต ธนบุรี กรุงเทพมหานคร ร้อยตำรวจเอก ปริทัศน์ วิบูลย์ยานนท์ เจ้าหน้าที่ร้อยเวรสถานีตำรวจนครบาลบางยี่เรือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์นั่งสาธารณะ ( แท็กซี่ ) ส่วนบุคคล สีฟ้า ทะเบียน ทฬ 5360 กรุงเทพมหานคร อยู่ในลักษณะตกลงไปบริเวณท้องร่องเกาะกลางถนนใต้ BTS โพธิ์นิมิตร ตรวจสอบแล้วพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์นั่งสาธารณะคันดังกล่าว ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บต่อมาชื่อ นาย ไพบูลย์ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 60 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเป็นการเร่งด่วน

ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นาย ณรงค์ ธีรศิลป์โสภณ อายุ 41 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า
ตนเองจอดประจำจุดที่บริเวณแยกไหมสวรรค์ได้รับแจ้งจาก เครื่องมือสื่อสารว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนกันมีคนติดภายใน จึงรุดเข้าที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ พอไปถึงที่เกิดเหตุพบรถแท็กซี่ตกอยู่ตรงเกาะกลางครับ แล้วก็มีคนเจ็บ 1 คน พวกเราเลยประฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วก็ดำเนินการ รีบส่งโรงพยาบาลครับ แต่ว่ามันมีเหตุต่อเนื่องจากเคสนี้ ลุงเขาเล่าให้ฟังว่า ลุงขับรถมาจาก ถนน กัลปพฤกษ์ มุ่งหน้า ถนน สาทร เผอิญว่า ช่วงนั้นฝนตกหนักครับแล้วลุงเลยหักหลบรถมอเตอร์ไซค์ รถของลุงเองเลยหมุนตกไปเกาะกลางครับ ส่วนที่เกิดเหตุก็ทำให้เกิดการจราจรติดขัดครับ แล้วก็มีรถเก๋งชนกันอีก 2 คัน หลังจากนั้นก็มีรถสิบล้อบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ชนท้ายรถเก๋งอีกทีนึงในสภาพที่เห็นครับ

และจากการสอบถามคนขับรถสิบล้อบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชื่อ นาย ศิรศักดิ์ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 48 ปี ได้เล่าว่าตนเองขับรถป้ายทะเบียน 71-0098 นนท์บุรี มาจากไทรน้อยมุงหน้าจะไปคลองเตย พอดีมาถึงที่เกิดเหตุเห็นรถเขาชะลอกันแต่ว่าเราเอารถไม่อยู่เนื่องจากฝนมันตกหนัก ขับเร็วไม่เกิน 40 ครับ เพราะว่ารถหนักจริงๆเลยเอาไม่อยู่ก็เลยชนกับรถเก๋งคันดังกล่าว ในรถคอนเทนเนอร์บรรทุกกระดาษเคลือบเมลามีนเพื่อที่จะไปส่งโรงงานย่านคลองเตย แต่มาประสบเหตุก่อนครับ

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ดำเนินการนำรถที่กีดขวางทางจราจร ได้ทำการขนย้ายไปสถานีตำรวจนครบาลบางยี่เรือ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุให้แน่ชัดอีกทีว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไรกันแน่ ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ชุติเดช ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.