เชียงราย – ลุงวัย57 ปีฉุนสุนัขเข้ามากัดไก่คว้าปืนยิงดื้นกองกับพื้นสาหัส เจ้าของสุนัขเดือดแจ้งจับโดน3ข้อหาหนัก !
https://youtu.be/9yWZJCaRqdg
เมื่อเวลา 14.40น. ของวันที่ 31 ตุลาคม 2563 เวลา ได้เกิดเหตุ สุนัขถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก ชมรมผู้รักสุนัขแห่งหนึ่งว่า ได้เกิดเหตุสุนัขถูกอาวุธปืนยิงเข้าลำตัวจนบาดเจ็บสาหัส ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบยังบ้านเลขที่ 141 ม.2 ตำบลศรีดอนมูลอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งได้พบกับเจ้าของสุนัข ชื่อ น.ส.กาญจนา กันแก้ว อายุ 27 ปี ได้ให้การว่า เมื่อวานนี้ (วันที่ 31 ตุลาคม 2563) ชาวบ้านได้จัดงานวันลอยกระทง และได้มีการจุดประทัด และพลุ จนมีเสียงดังและทำให้ สุนัขของตน เกิดความตกใจ และได้วิ่งหนีเสียงพลุออกจากบ้านไปซึ่งตนพยายามวิ่งตามไปแต่วิ่งไม่ทันก็เลยวิ่งกลับมาที่บ้านหลังจากนั้นไม่นานก็มีคนมาแจ้งว่าสุนัขของตนนั้นถูกอาวุธปืนยิงอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก
เมื่อเดินทางไปถึงก็พบว่าสุนัขได้ถูกอาวุธปืนยิงนอนนิ่งมีอาการชักกระตุก ตนจึงได้ไปถามว่า ยิงสุนัขของตนทำไม แต่ผู้ยิงบอกว่า คนข้างบ้านมาเรียกและว่ามีสุนัขเข้าไปไล่กัดไก่ในเล้า ซึ่งในขณะนั้นตนกำลังหลับอยู่พอตื่นมาด้วยความโมโหจึงคว้าอาวุธปืนยิงไปที่สุนัขตัวดังกล่าวจำนวน 1 นัดแต่กระสุนเข้าจำนวน 3 จุด
ซึ่ง น.ส.กาญจนา กันแก้ว เจ้าของสุนัขได้เข้าไปรับตัวน้องสุนัขจากบ้านหลังที่น้องสุนัขถูกยิงซึ่งระยะทางจากบ้านห่างกันประมาณ 800 เมตร ภายหลังจากรับตัวน้องสุนัขออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุแล้วต้นจึงนำน้องสุนัขไปตรวจรักษาที่คลินิกในอำเภอแม่สาย ซึ่งหมอได้วินิจฉัยว่าบาดแผลเกิดจากการถูกอาวุธปืนยิงซึ่งต้องส่งรักษาตัวโดยด่วน ซึ่งกระสุนปืนทั้ง 3 จุดฝังอยู่ที่บริเวณกระดูกสันหลัง 2นัด และ ปอด1 นัด กระสุนฝังไม่สามารถนำออกมาได้
หลังจากนั้นตนจึงพาน้องสุนัขเดินทางกลับมาบ้านเพื่อเข้าไปถามคนที่ยิงว่าจะรับผิดชอบการรักษาอย่างไรซึ่งผู้ยิง ได้อ้างว่า ขอพูดคุยในวันรุ่งขึ้น ( 1 พฤศจิกายน 2563 )
และสาเหตุที่นำอาวุธปืนมายิงน้องสุนัขเนื่องจากน้องสุนัขเข้ามากัดไก่ที่เลี้ยงไว้จำนวน 9ตัว แต่พอตนถามหาศพไก่ ผู้ยิงบอกว่าไม่มี
หลังจากนั้นตนจึงนำน้องสุนัขที่ถูกยิงกลับมาที่บ้านแต่หลังจากนั้นน้องสุนัขตัวดังกล่าวพี่มีอาการบาดเจ็บเกิดอาการชักตาค้างไม่ได้สติ ต้นจึงได้ติดต่อไปยังเพจของ มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ เพื่อขอคำปรึกษาและขอความช่วยเหลือหลังจากนั้นได้มีการประสานงานให้ความช่วยเหลือซึ่งภายหลังมีรถยนต์และเจ้าหน้าที่ของปศุสัตว์จังหวัดเชียงรายได้ติดต่อเข้ามาเพื่อนำน้องสุนัขตัวดังกล่าวส่งตัวไปรักษาที่ โรงพยาบาลหมออานนท์ ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ในเวลา 23.30น. ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้ตรวจดูอาการของน้องสุนัขแล้วพบว่าบาดเจ็บสาหัสต้องรอการผ่าตัดในวันรุ่งขึ้นและต้องพักรักษาตัวเพื่อดูอาการข้างเคียงต่อไป
และในวันนี้ 1 พฤศจิกายน 2556 3 ได้มีการนัดพูดคุยกันในเวลา 09.00น. ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เชียงแสน, เจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย และผู้สื่อข่าวร่วมสังเกตการณ์ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุยิงน้องสุนัขได้ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นคนใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์(ปืนแก๊ป) ยิงน้องสุนัขจริงและพาไปดูที่เกิดเหตุแนะนำอาวุธปืนที่ใช้ยิงกระบอกดังกล่าวมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในระหว่างที่เข้าพื้นที่ตรวจสอบบริเวณบ้านที่เกิดเหตุผู้ก่อเหตุ ญาติของผู้ก่อเหตุได้นำซากไก่ที่เสียชีวิตแล้วมาให้ดูจำนวน 1 ตัว ซึ่งมีบาดแผลเป็นรอยเขี้ยวสุนัขจำนวน 2 รูอยู่ที่บริเวณก้นของไก่ และยังให้ข้อมูลว่าไก่ได้เสียชีวิตไปจำนวน 2 ตัวแต่อีก 1 ตัวตนได้นำไปประกอบอาหารแล้ว
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมาชื่อนายสุรศักดิ์ กันทากาศ อายุ 57 ปีซึ่งเป็นพี่ชายของผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านที่เกิดเหตุนั่นเอง
ภายหลังจากไปถึงสภ.เชียงแสน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุคือ นายสุรศักดิ์ กันทากาศจำนวน 3 ข้อหาคือ
1.มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองฯ
2.ยิงปืนในหมู่บ้าน เมือง สาธารณะฯ
3.ทารุณกรรมสัตว์ฯ
ด้านนางสาวกาญจนา กันแก้วเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าวได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในการใช้อาวุธปืนยิงจนน้องสุนัขได้รับบาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้ตนคิดว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุเพราะหากสุนัขของตนเข้าไปไล่กัดไก่จริงก็ควรจะขับไล่ออกมาหรือหาไม้ตรีสุนัขก็จะวิ่งหนีออกมาแล้วเพราะสุนัขที่ตนเลี้ยงอยู่นั้นเป็นสุนัขที่ไม่ได้มีความดุร้ายและไม่เคยออกจากบ้านไปไหนแต่ในครั้งนี้ที่วิ่งออกไปและเข้าไปในบ้านหลังที่เกิดเหตุนั้นเนื่องจากตกใจเสียงพลุและเสียงประทัดที่ดังในงานวันลอยกระทงซึ่งตนพยายามเข้าไปคุยและเจรจาแล้วแต่ไม่มีใครยอมคุยด้วยแต่ในทางกลับกันสุนัขของตนได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ เพื่อขอคำแนะนำและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือในครั้งนี้
ภายหลังจากผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ก่อเหตุคือ นายสุรศักดิ์ กันทากาศ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงน้องสุนัขถึงสาเหตุในการก่อเหตุซึ่งนายสุรศักดิ์ ได้เล่าว่าในวันเกิดเหตุสุนัขตัวดังกล่าวได้เข้าไปไล่กัดไก่ภายในเล้าไก่ ซึ่งอยู่หลังบ้านของตนและสุนัขตัวดังกล่าวได้เข้ามาไล่กัดไก่เป็นประจำซึ่งตนจำได้ดีและตนได้เข้าไปขับไล่แต่สุนัขตัวดังกล่าวได้กระโดดโถมตัวเข้าใส่ตน ด้วยความโมโหต้นจึงคว้าอาวุธปืนยิงใส่ไปจำนวน 1 นัด ซึ่งภายหลังจากมีการพูดคุยกับเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าวก็ได้ตกลงที่จะเยียวยาค่ารักษาพยาบาลน้องสุนัขตัวดังกล่าวแต่โดยดี
ร.ต.อ มงคล สุเตนันท์ พนักงานสอบสวนสภ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย ได้กล่าวว่าขณะนี้ผู้ต้องหาที่ใช้ปืนยิงสุนัขตัวดังกล่าวได้ยอมรับสารภาพและยินดีชดใช้ค่ารักษาพยาบาลให้กับเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าวและต้องดูผลการวินิจฉัยจากทางโรงพยาบาลสัตว์ก่อนว่าอาการบาดเจ็บนั้นมากน้อยขนาดไหนซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาได้ใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 30,000 บาท เพื่อประกันตัวออกไป หลังจากนี้คงต้องรอให้ได้ผลการรักษาจากทางโรงพยาบาลสัตว์เสียก่อนจึงจะเรียกผู้ต้องหาและเจ้าของสุนัขซึ่งเป็นผู้เสียหายมาตกลงพูดคุยกันอีกครั้งในเรื่องการเยียวยาค่ารักษาพยาบาลแต่ในส่วนของคดีซึ่งเป็นคดีอาญาก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
บิ๊กบัง ภูซาง ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจทั่วไทยนิวส์ จังหวัดเชียงราย รายงาน โทร.0990505989