ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

พิษณุโลก – กองทัพภาคที่ 3 จัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม 2566

วันที่ 5 ธันวาคม 2566 เวลา 07.00 นาฬิกา พลโท ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย คุณ คัทลียา แสงศิริรักษ์ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานจัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม 2566 โดยมีคณะผู้บังคับบัญชา ข้าราชการหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกิจกรรมประกอบด้วย พิธีตักบาตรพระสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศล ณ บริเวณลานพื้นที่แข็งสโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก , พิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยพระสงฆ์ 10 รูป ณ ห้องบันเทิงทัพ 3 สโมสรบันเทิงทัพ, พิธีถวายราชสักการะ ถวายราชสดุดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ และกิจกรรมบริจาคโลหิต ณ ห้องบันเทิงทัพ1 สโมสรบันเทิงทัพ และกิจกรรมอาสาสาธารณประโยชน์ของหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 ตลอดห้วงเดือน ธันวาคม 2566


พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นพระมหากษัตริย์ไทย แห่งราชวงศ์จักรี ทรงครองสิริราชสมบัติตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 รวมระยะเวลา 70 ปี นับว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงครองราชสมบัติยาวนานที่สุดในประเทศไทย พระองค์ทรงปกครองราษฎรไทยด้วยน้ำพระราชหฤทัยงดงามเปี่ยมด้วยพระเมตตา ภายใต้ปฐมพระบรมราชโองการที่ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถและทรงเข้าพระทัยอย่างถ่องแท้ถึงความต้องการ ความเดือดร้อนและความจำเป็นของราษฎรของพระองค์ท่าน ทรงประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ พระองค์ได้พระราชทานแนวพระราชดำริเรื่องปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้รับการยกย่องจากยูเนสโกว่า พระองค์ท่านเป็นกษัตริย์นักพัฒนา โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ เป็นที่ประจักษ์ถึงพระวิริยะอุตสาหะในการทุ่มเทพระวรกายเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พระองค์จึงทรงเป็นที่เทิดทูนและเคารพของคนไทยทั้งประเทศ และเป็นที่ประจักษ์แก่นานาอารยประเทศ


ด้านการทหาร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะต้องศึกษาค้นคว้าให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ดังพระบรมราโชวาทที่ว่า “กองทัพนั้น มีหน้าที่สำคัญหลักอยู่ที่การป้องกันประเทศ และการธำรงรักษาเอกราช อธิปไตยของชาติไว้ เหตุนี้ทุกเหล่าทัพจึงจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพของตนให้สมบูรณ์ พร้อมทุกเมื่อ ทั้งในด้านยุทโธปกรณ์ที่มีความก้าวหน้า ทันสมัย และในด้านกำลังพลที่เข้มแข็ง องอาจเพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้ครบถ้วน” (พระบรมราโชวาท ในพิธีสวนสนามแสดงแสนยานุภาพของกองทัพไทย เมื่อ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2539)


กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 3 ในฐานะที่ดำรงไว้ซึ่งการพิทักษ์ ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันสูงสุด และเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย จึงได้ยึดมั่นในภารกิจอันสำคัญยิ่ง ได้แก่ การถวายการรักษาความปลอดภัยและถวายพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง จวบจนรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 รัชกาลปัจจุบัน
วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี นอกจากจะตรงกับวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีแล้ว รัฐบาลยังได้ประกาศให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ จึงนับได้ว่าวันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันสำคัญของประเทศไทย
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก