พี่เสือ นักข่าว สงขลา
/ ทีมสัตวแพทย์ผ่าซากวาฬเบลน์วิลล์ ที่เกยตื้นชายหาดปากบางสะกอม ที่อ.เทพา จ.สงขลา ที่ตายลงในวันนี้ เพื่อหาสาเหตุการตายหลังจากที่พยายายามช่วยชีวิตจนสุดความสามารถ มา4วัน
ความคืบหน้ากรณีวาฬเบลน์วิลล์ ซึ่งเป็นวาฬน้ำลึกหายาก เพศเมีย ยาว 4 เมตร หนักกว่า 500 กิโลกรัม ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดปากบาง-สะกอม ม.1 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ผ่านมา และเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ได้เคลื่อนย้ายวาฬเบลน์วิลล์ตัวนี้จากชายหาดปากบางสะกอมไปดูแลรักษาอาการต่อ ที่อาคารปฏิบัติการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 3 ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสัตว์น้ำชายฝั่ง ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา
และล่าสุดเมื่อเวลา 08.07 น.วันนี้(5ธ.ค.66) วาฬเบลน์วิลล์ตัวนี้ได้ตายลงแล้วหลังจากที่ทีมสัตวแพทย์และได้พยายามดูแลรักษาอย่างเต็มที่ตลอด4วันหลังวาฬตัวนี้เกยตื้น
โดยตั้งแต่เวลา 07.00น.อาการของวาฬเบลน์วิลล์หายใจปกติ กระสับกระส่าย ทีมผู้ดูแลพาเดินแต่ไม่ตอบสนอง เริ่มสะบัดหางแรง จึงให้ยาซึมและยากันช๊อค กระตุ้นหัวใจ ให้สารน้ำทางเส้นเลือด พยายามสอดท่อช่วยหายใจ กระทั่งเวลา 08.07 น.ไม่พบสัญญาณชีพ
หลังวาฬเวลน์วิลล์ตายลง ทีมสัตวแพทย์ นำโดย นายสัตวแพทย์รัตนกร พากเพียร สัตวแพทย์ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ได้ทำการผ่าพิสูจน์ซากวาฬตัวนี้ แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการตายได้ว่ามาจากสาเหตุใด
นายสัตวแพทย์รัตนกร พากเพียร สัตวแพทย์ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้วาฬตัวนี้มีอาการช๊อคก่อนให้อาหาร จึงฉีดยาอะดรีนาลีนแต่ก็ไม่กลับมาและตายลงในที่สุด
และได้ทำการผ่าชันสูตรซากดูรอยโรคทั้งอวัยวะภายในและภายนอก และส่งชิ้นเนื้อไปตรวจต่อว่ามีพยาธิสภาพอย่างไร
สำหรับวาฬเบลน์วิลล์เป็นวาฬหายากมากอีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากอาศัยอยู่ในทะเลเปิดในหลายพื้นที่ และอยู่ในเขตน้ำลึกระดับ 200-1,000 เมตร และชอบอยู่กันเป็นฝูง แต่ละฝูงจะมีตัวผู้ตัวเดียว แต่มีตัวเมียหลายตัว โดยตัวที่โตเต็มวัยอาจจะมีขนาดใหญ่เกือบ 5 เมตร และมีน้ำตัวประมาณ 1 ตัน
ในไทยพบเกยตื้นตัวแรกเมื่อ12ปีก่อนที่จ.ภูเก็ต และตัวนี้เกยตื้นเป็นตัวที่สองที่ชายหาดปากบางสะกอม อ.เทพา จ.สงขลา