เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุ ทำร้ายร่างกายกันด้วยอาวุธมีดทำให้มีผู้บาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงงานแห่งหนึ่ง ภายในซอยผูกมิตร ตำบลสำโรงใต้ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าโรงงานแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ พบ ผู้บาดเจ็บ เป็น หญิง 2 ราย ได้รับบาดเจ็บคนละเล็กคนละน้อย โดย นางทิวา จันทร์ผ่อง อายุ 61 ปี มีบาดแผลถูกของมีดคัสเตอร์ฟันเข้าบริเวณใต้คาง และ หัวไหล่ซ้ายหลายแผล ส่วนคู่กรณี หญิง อายุ 58 ปี มีรอยแผลเป็นทางยาวบริเวณใต้คาง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวคู่กรณีทั้งสองส่งฝ่ายส่งพนักงานสอบสวนที่โรงพัก
จากการสอบถาม พบว่า วันนี้ทางโรงงานแห่งหนึ่งภายในซอยดังกล่าว วันนี้ได้จัดทำโรงทาน และ มีคนมารับอาหารจำนวนมาก ซึ่งขณะนั้น / หลาน อายุ 4 ขวบ ของ นางทิวา ยืนเข้าแถวรอข้าวเหนียวหมูอยู่ / นางทิวา จึงได้เข้าไปช่วย หลาน ถือข้าวเหนียวหมูซึ่งร้อนเกินกว่าเด็ก 4 ขวบ จะถือได้ / จนทำให้คู่กรณี หญิง อายุ 58 ปี คิดว่า นางทิวา แซงคิว จึงได้มีการโต้เถียงกันจนบานปลายถึงขั้นชุลมุนลงไม้ลงมือจนได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้ส่งตัวทั้งคู่ไปตรวจบาดแผลที่โรงพยาบาล ก่อนที่จะนัดทั้งคู่มาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ลูกสาวนางทิวา (เสื้อฟ้า) เล่าว่า แม่พาหลานไปเอาข้าวเหนียวหมูที่เขาทอด ไปเข้าแถวต่อ แล้วของมันร้อน คนแจกก็ให้แม่เข้าไปรับหลาน พอแม่เขาเข้าไปรับหลานออกมา ทางคนก่อเหตุเขาก็ด่าแม่ด้วยคำหยาบคายถามว่าทำไมมาแซง และก็ด่านด้วยคำหยาบคายมาตลอดทางเลย จนถึงซอยที่เราข้าม พอแม่ไปเดินขายปลาล้า เขาก็เดินตามแม่ไป เขาหยิบมีดคัตเตอร์ขึ้นมาเลือนขึ้นลง ๆ ถามแม่ว่าเก๋านักหรอ แม่ก็เลยตบเขาไปทีนึ่ง เขาก็เลยเอามีดคัตเตอร์ฟันแม่ข้างหลัง จนแม่ได้รับบาดเจ็บ มีแผลที่หลัง 7 แผล และที่คางอีก 1 แผล แต่ตรงคางเลือดไหลออกเยอะเพราะเข้าลึก เหตุเกิดเพราะข้าวเหนียวหมูที่เขาแจก เขาน่าจะคิดว่าแม่เข้าไปแทรกไปแซงคิวเขา แต่แม่ไม่ได้แทรกแค่เข้าไปรับหลานเฉย ๆ เพราะของมันร้อน ตนก็อยากถึงคนหัวร้อน ก็ต้องใจเย็นหน่อย ก่อนที่จะด่าเขา จะว่าเขา ดูหน่อยว่ามาแซงหรือเขาไม่แซงอย่าพึ่งมาด่าเขาอย่างนี้ ก็ต่างคนต่าง ๆ หัวร้อน ถ้าเป็นหนูก็หัวร้อนเหมือนกัน แต่ตนก็เขาใจเพราะว่า ของอย่างนี้เรื่องแซงกันมันก็มีอยู่แล้ว แต่วันนี้ตนพูดได้เลยว่าแม่ตนไม่ได้แซง เพราะแม่ตนไม่ได้เอาของ แค่เข้าไปรับหลานเฉย ๆ แต่ทางนี้เขาไม่ยอมจบ พอแม่ไปเดินขายของเขาก็เดินตามไปหาเรื่อง
นางทิวา จันทร์ผ่อง อายุ 61 ปี (เบลอหน้า) เล่าว่า หลานถือข้าวเหนียว ตนก็เข้าไปช่วยถือ เขาก็มาว่าตนมาแซงไม่มีมารยาท แล้วเขาก็ด่าตนด้วยคำหยาบ ตนก็เลยบอกต้องมาหวงกันทำไมของแค่นี้แบ่งกันกินไปมันก็จบแล้ว ตนก็เดินเข้าไปในโรงงานไปขายปลาล้า เขาก็เอามีดคัตเตอร์ออกมาเขาจะมากรีดตน ตนก็เลยผลักอกเขา แล้วก็มีการลงไม้ลงมือกัน ตนโดนฟันเข้าที่หลังและคาง ตนพยายามล็อกมือเขาแต่เอาไม่อยู่ เขาจะกรีดหน้าตนแต่หลบทัน เขาคิดว่าตนไปแซงคิวเขา แต่ตนเข้าไปช่วยหลานวัย 4 ขวบ ที่ไปรับของเท่านั้น
หญิงคู่กรณี อายุ 58 ปี (เสื้อดำ) เล่าว่า ตนก็มาต่อแถวเอาข้าวเหนียวหมูย่าง ตนก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเข้าแถวอยู่ แล้วเขาก็มาแซง ตนก็บอกว่าคนไม่มีมารยาท ลูกเขาก็ตามเข้ามาด่าตนด้วยคำหยาบคาย พูดทำนองว่า ก็เอามาแค่นี้จะทำไม จะเอายังเก่งนักหรอ อะไรประมาณนี้ เราก็เข้าไปใกล้ยังไม่ทันทำอะไรเขาก็ผลักอก ที่นี้ก็เป็นเหตุชุลมุนไม่รู้ใครเป็นใคร ตนก็ไม่รู้คัตเตอร์มาจากไหนเหมือนกัน เราก็ยอมรับว่าผิดที่มีอาวุธ แต่ไม่รู้ว่าใครให้มา แล้วตอนนี้ไปตรงไหนแล้วก็ไม่รู้ ตนยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนพกมีดคัตเตอร์มา ช่วงชุลมุนไม่รู้ใครให้มา ตนก็มีเจ็บที่หลังหัว และมีแผลที่คาง แต่ไม่รู้โดนอะไรช่วงชุลมุน ส่วนสาเหตุเกิดจากการที่ตนเข้าใจผิด และเขาก็ด่าเราหยาบ ๆ คาย ๆ ใครจะไม่โมโห
*********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ
