วันที่ 17 ธันวาคม 2566 ร.ต.ท.หญิง ปัณณภัทร์ คุ่มเคี่ยม รองสารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งจากทาง โรงพยาบาลบางจาก ว่ามีเด็กหญิง วัย 2 ปี 2 เดือน เสียชีวิต จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง ที่ห้องเก็บศพ พบ ร่าง เด็กหญิงธนพร พลอยแก้ว (น้องโฟกัส) อายุ 2 ปี 2 เดือน ตรวจสอบสภาพศพพบมีร่องรอยเขียวช้ำตามลำตัว และ ใบหน้าปูดบวมเบ้าตาทั้งสองข้างเขียวช้ำ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้มูลนิธินำร่างส่งสถาบันนิติเวชเพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริง โดยจากการสอบถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ทราบว่า นายฤทธิพร การพงศศรี อายุ 21 ปี (พ่อเลี้ยง) พร้อมกับ นางสาวจุฑาพร การพงศศรี อายุ 44 ปี (ยาย) ได้ขี่รถจักรยานยนต์นำน้องโฟกัสมาส่งที่โรงพยาบาล อาการเบื้องต้นหมดสติไม่รู้สึกตัว ทางเจ้าหน้าที่แพทย์ต้องปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตแต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากได้ตรวจสอบร่างกายพบมีร่องรอยการเขียวช้ำและมีบาดแผลฟกช้ำตามลำตัวหลายแห่ง จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
หลังจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวทั้งสองมาที่ สภ.พระประแดง เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยทราบว่า น้องโฟกัสหมดสติมาจากที่ห้องเช่าเลขที่ 28/30 หมู่ที่ 15 ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นห้องเช่าไม้ชั้นเดียว โดยห้องดังกล่าวอยู่ด้วยกัน 4 คน มี พ่อเลี้ยง คือ นายฤทธิพร / น้องโฟกัส / นายวีรยุทธ สังขยารอ อายุ 16 ปี (พี่เลี้ยง) และ นางสาวเเพรวา โล่เพชร อายุ 19 ปี (แม่โฟกัส) อยู่ด้วยกันภายในห้องที่เกิดเหตุ 4 คน วันเกิดเหตุ( 17 ธันวาคม ) เวลาประมาณ 19.00 น นายฤทธิพร พ่อเลี้ยง ได้ออกจากห้องไปกินเลี้ยงที่ทำงาน และ เวลาประมาณ 21.00 น นางสาวแพรวา ได้ออกไปทำงานที่ร้านสะดวกซื้อ จากนั้นก็เหลือเพียง นายวีระยุทธ (พี่เลี้ยง) กับ น้องโฟกัส เวลาประมาณ 21.00 น กว่า นางสาวจุฑาพร (ยาย) ได้ยินเสียงพี่เลี้ยงดุ น้องโฟกัส ขู่ว่าจะตี นางสาวจุฑาพร เลยเดินไปห้าม และ อุ้ม น้องโฟกัส มาที่บ้านซึ่งห้องอยู่ห่างกันประมาณ 50 เมตร ได้อาบน้ำแต่งตัวให้ น้องโฟกัส แล้วก็นั่งเล่นอยู่สักพักนึ่ง นายวีรยุทธ พี่เลี้ยงได้เดินมารับน้องโฟกัสกลับไปที่ห้อง จนเวลาประมาณ ตีหนึ่งกว่า นายฤทธิพร พ่อเลี้ยงกลับมาจากงานเลี้ยงโดยมีอาการมึนเมา และ ได้ตี น้องโฟกัส ด้วยสายยางภายในห้องน้ำ และ เตะน้องโฟกัสบริเวณทางเข้าห้องน้ำ สาเหตุจากน้องโฟกัสอ้วกและอุจจาระ เวลาประมาณ 01.30 น น้องโฟกัสมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและตัวงอ ขณะนั้นน้องโฟกัสได้อยู่กับพี่เลี้ยงคือ นายวีรยุทธ พอ นายฤทธิพร ลุกขึ้นไปดูก็พบว่าน้องโฟกัสนอนหมดสติแล้ว จึงได้เดินไปเรียก นางสาวจุฑาพร (ยาย) เพื่อนำน้องไปส่งที่โรงพยาบาลบางจาก และ ได้เกิดเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ควบคุมตัว นายฤทธิพร และ นายวีระยุทธ ไปสอบปากคำเพิ่มเติม จนทาง นายฤทธิพร ได้ให้การรับสารภาพว่าได้ทำร้ายน้องโฟกัสจริง แต่ทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ นายฤทธิพร เพราะยังสงสัย นายวีรยุทธ อีกคนหนึ่ง จึงต้องสอบสวนเพิ่มเติมก่อนหากมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้น แจ้งข้อหา นายนิติพร ข้อหา มาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี ผลการชันสูตรเบื้องต้น มีเลือดไหลออกในช่องท้องและตับฉีกขาด
จากการสอบถาม น.ส.จุฑาภรณ์ การพงศศรี อายุ 44 ปี (ยาย) ได้เล่าให้ฟังว่า น้องโฟกัส น้องเป็นคนพูดเก่ง ช่างเซาะ เพราะเราเริ่มเงียบไม่พูดนะ เขาจะเรียกพี่ตูนหรอ พลอยอยู่ไหน เราตอบไปว่า พลอยทำงานเซเว่น อ่อพลอยทำงานเซเว่นหรอเป็นเด็กดีเลี้ยงง่าย พลอยคือเป็นแม่ของเด็ก ส่วนลูกชาย เรากับแม่ของน้องโฟกัส อยู่ด้วยกัน อยู่ด้วยกันประมาณ 3 เดือน ส่วนปัญหาภายในครอบครัวก็มีเรื่องอยู่ที่ว่าลูกชายเราไปตีและ ตีโฟกัส( ลูกชาย) จากนั้นเมียเขาก็ว่า ลูกก็เพิ่งกลับมาจากงานก็ ด่าอย่าเย็ดพ่อเย็ดแม่ ตนเองจึงถามกลับไปว่าด่าอะไรกัน ลูกชายของตนเองจึงบอกกลับไปว่าพลอยเอาตนเองไปพูดที่เซเว่น ว่าหนูตีลูกแต่ที่จริงแล้วหนูสอนลูก จากนั้นอีกวันหนึ่งหนูก็นั่งป้อนข้าวลูก ป้อนข้าวหลาน เห็นหน้ามีแต่บาดแผล แต่พอตอนเช้าหนูก็ถามว่าใครทำ คนที่ชื่อนิกซึ่งเป็นพี่เลี้ยง เขาบอกว่า ให้พา โฟกัสไปส่งพี่พลอย หนูบอกว่าอะไรวะ ดูเมื่อตอนเย็นไม่มีอะไรเลยที่เนื้อตัว แล้วตอนนี้ไปซักผ้ากับไอ้นิค ก็เข้าไปดูให้ไอ้กัสถอดเสื้อ เนื้อตัวก็ไม่มีช้ำไม่มีอะไร แล้วพออีกวันหนึ่ง ประมาณ 2-3 วันเป็นอีกแล้ว บริเวณเบ้าตา ตนเองก็ถามว่าใครทำไอ้นิคก็บอกว่า โฟกัสวิ่งตามพี่นิคไปส่งพี่พลอยโดนปลั๊กไฟ ตนเองจำไม่ได้ว่าเหตุเกิดช่วงวันที่เท่าไหร่แต่ประมาณว่าอาทิตย์ที่แล้ว จากนั้นเด็กก็มีอาการไม่สบาย หนูก็ให้ยาลูกสาวคนเล็กไปกิน แล้วเด็กก็หายแล้วพอเมื่อวานพ่อมันจะไปกินเลี้ยงที่บริษัท มันก็ไปตอนทุ่มนึง แล้วพลอยก็ไปทำงานเซเว่นตอน 21.00 น ไอ้กัสก็ร้อง แต่อยู่กับไอ้นิกพี่เลี้ยง ส่วนเหตุการณ์หนูไม่รู้เพราะห้องมันห่างกัน ตนเองอยู่ในห้องไม่ค่อยได้ยิน จากนั้นมาเมื่อวานหลังเกิดเหตุ คือแม่มันออกไปตอน 21.00 น กัสมันร้องหนูจึงเดินไปที่ห้อง ไอ้นิคมันพูดว่าหยุดร้องนะหยุดเลยนะถ้าไม่หยุดร้องเดี๋ยวจะตี หนูจึงบอกกับไอ้นิคพี่เลี้ยงไปว่ามึงลองตีสิ ตนเองพูดกับพี่เลี้ยง โฟกัสรีบมาหาย่า เด็กมันก็ทำท่ากลัว ตนเองบอกให้ลุกมาก็ลองตีสิเป็นเรื่องกันแน่หนูจึงเอาโฟกัสออกมาที่ห้องหนูจึงถามโฟกัสว่าหิวข้าวไหมลูก โฟกัสตอบว่าหิว หนูจึงผัดข้าวผัดให้มันกิน แล้วมันก็เล่นกับลูกหนู แล้วหนูชื่ออะไรหนูก็โฟกัสไงลูก บังบีจูน่า พ่อฤทธิ์ การ์ดสิ้นปีไปเที่ยวทะเลกันนะแต่ไม่เอาพ่อกับแม่มึงไปนะ เอาโฟกัสไปคนเดียวไปไหม แล้วหนูก็เอาไปอาบน้ำเนื้อตัวไม่มีอะไรเลย ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น พ่อของเด็กก็ยังไม่กลับ มีบาดแผลแค่บริเวณใบหน้าซึ่งเป็นของเก่าอยู่แล้ว แล้วหนูก็พาไปอาบน้ำ เพราะหนูเป็นคนชอบสังเกต ไม่มีบาดแผลเลย หนูอาบเสร็จแต่งตัวให้พร้อมใส่แพมเพิสจากนั้นไอ้นิคก็มารับที่ห้องแฟนหนูยังบอกเลย ว่าตูนพี่เลี้ยงมันมาแล้ว หนูก็บอกว่าเออให้มันไปแล้วหนูก็เดินตามไป หนูก็เห็นมันเปิดประตูแล้วขู่ บอกว่าจะนอนไหมถ้าไม่นอนจะตี หนูบอกว่ามึงอย่าตีน้องนะหนูพูดอย่างนี้แล้วหนูก็เดินกลับ เรามารู้อีกที ตอน 02.00 น กว่าๆ
ลูกมาเคาะประตูห้องหนูนอนแล้ว พี่ตูนพี่ตูนกัสมันเป็นอะไรไม่รู้ มันอ้วกแล้วมันไม่หายใจ แล้วหนูก็ไปให้บังหมานที่ขุดหลุมกุโบร์ ให้เขาดูแล้วเขาก็อ่านตำราแล้วเขาก็เขย่า แล้วก็ไปเลยหนูก็ไม่รู้ว่ามันตายตอนนั้น เพราะว่าลูกก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปกับหนูที่โรงพยาบาลบางจาก ซึ่งมีตัวเราและลูกชาย ที่พาน้องโฟกัสไปหาหมอที่โรงพยาบาล สภาพที่เห็นตัวน้องไม่มีเสื้อผ้าและไม่มีแพมเพิส หัวเปียกจึง ถามว่าทำไมถึงเปียก มันบอกว่าหนูล้างอ้วกให้ ให้โฟกัส ลูกชายมันบอกแล้วหนูก็อุ้มไปแล้วหนูก็ไม่ได้สังเกตหนู ตอนนั้นหนูตกใจ คือต้องการที่จะให้หลานเพียงแค่ฟื้นหนูเรียกตลอดทางเลย พอถึงโรงพยาบาลหนูก็ส่งให้หมอ หมอเขาก็รีบนำเข้าห้องฉุกเฉินและปั๊มหัวใจและถามว่ารู้อะไรเกี่ยวกับเด็กไหม ไม่รู้รู้เพียงแค่ชื่อเล่น แล้วก็ทำเรื่อง และให้ลูกไปตามแม่มันมาขณะเดียวกันจังหวะที่แม่มันมา เกือบจะตี 3 เขาบอกว่าปั๊มหัวใจ 30 นาทีแล้วเด็กไม่ฟื้น เด็กเสียนะ ตนเองร้องไห้ หนูบอกว่า ถ้าเป็นลูกกูนะ คนนี้ตายตามแน่ขนาดกูเลี้ยงลูกยังรักเลย ขนาดเดียวกันผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมตนเองจึงมั่นใจว่าเป็นพี่เลี้ยงทำ จึงตอบกลับไปว่า ก็มันมาห้องหนู พอจะกลับนิคมาแล้วโฟกัสทำตัวสั่น มันไม่อยากไปลักษณะกลัวแบบร่นราน ตนเองก็ได้ถามกับลูกชายไปว่า ได้ทำหรือเปล่า แต่ลูกชายตอบว่าหนูไม่ได้ตี แต่ก่อนหน้านี้ตีสั่งสอนแต่ตีไม่เยอะเขาหัดไม่ให้ใส่แพมเพิส ให้เยี่ยวเอง ในกระโถน หนูยังบอกเลยว่าถ้ามึงไม่มารับนะ ไอ้นิคนะหลานกูไม่ตายหรอก หลานกูกูจะเอานอนที่ห้อง
จากการสอบถาม นายฤทธิพร การพงศศรีอายุ 21 ปี ได้เล่าให้ฟังว่า ลูกอ้วกสักพักหนึ่งผมก็ให้กินยา น้องก็จะอัด ตนเองจึงบอกกับกัสว่า ถ้าจะอ้วกให้บอกกี่รอบแล้ว ทำไมไม่บอกกี่รอบแล้ว ตนเองว่าลูก ตนเองจึงใช้สายยางตีไปที่ บริเวณหัว ลูกเบาๆจำนวน ไป 2 ที ลูกเดินมาหาเราก็อ้วกอีก ตนเองจึงเตะลูกแบบเบาๆ ที่บริเวณก้น ของลูกสาว และบอกไปว่าคราวหลังอย่าทำอีกนะ ลูกสาวตนเองก็ร้อง สักพักนึงก็กลับมาหาผมและเรียกป๋าๆ กัสจะกินน้ำหรอแล้วผมก็ให้กินไป จากนั้นผมจึงถามลูกสาวว่า จะนอนกับป๋าหรือจะนอนกับนิค ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงที่พักอยู่ที่เดียวกับเรา ไอ้นิคมันก็พาไปนอน ตอนแรกมันนอนหงาย แต่ ผมได้ยินเสียงตึง แต่ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด จากนั้นนิคบอกว่าน้องโฟกัสอ้วก และไม่หายใจ ซึ่งตอนนั้นตนเองเห็นลูกหมดสติแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองไปอาบน้ำและใช้สายยางตีหัวให้ลูก ช่วงเวลาประมาณ 01.30 น หลังจากลูกออกมาเสร็จลูกอ้วกและออกมาหาเรา ที่เราตีลูกจำนวน 2 ครั้ง จากนั้นลูกสาวเราก็ไปนอนกับนิค ช่วงเวลาที่ได้ยินเสียงตึง ประมาณ 02.00 น เพราะว่าไอ้นิคมันเปิดประตูแล้วตะโกนบอกว่าพี่ทิด ไอ้กัสพวก ผมก็งง มันเป็นอะไรถึงอ้วกของมันวะ แล้วผมก็ขี้เกียจเช็ดแล้ว ผมก็เดินไปดู อ้าวทำไมถึงหยุดหายใจล่ะและผมก็ขยับ ขยับตัว และก็ไม่หายใจแล้ว ช่วงเวลาที่ตนเองเดินไปหาลูกสาวที่นอนกับไอ้นิค ก็ไม่ได้นิ่งไปเลยแต่ก็ยังร้อง แต่หยุดหายใจ ช่วงเวลาที่หลังจากลูกสาวร้องไปแล้วแป๊บนึง ตนเองจึงถามกับไอ้นิคไปว่ามึงทำอะไร เงียบและไม่ตอบ ผมจึงขยับลูกขึ้นมา แต่ลูกไม่ฟื้น จากนั้นตนเองจึงรีบวิ่งไปหาแม่และนำตัวลูกส่งโรงพยาบาล บางจากหลังจากนั้น ก็เสียชีวิต ส่วนน้องโฟกัสเป็นลูกเลี้ยง
ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 อาทิตย์ ตนเองมีปัญหา กับแฟนเนื่องจากไม่ให้ลูก เลี้ยงที่ชื่อโฟกัสมากินนมแฟน เพราะสาเหตุ เพราะว่าเวลาที่ผมนอนไอ้กัสชอบมากินนมและนอนอยู่ข้างๆ เพราะว่าตนเองทำงาน เนื่องจากตนเองอยากให้ลูกยานม และผมก็บอกกลับไปว่าคราวหลังอย่าทำอีกนะ ส่วนเรื่องที่ตีลูกเลี้ยงแรงๆนั้นไม่เคยครับนอกจาก ตีแฟน หรือ แม่ของน้องโฟกัสเพียงเท่านั้น
จากการสอบถามนายวีรยุทธ สังขยารอ อายุ 16 ปี (พี่เลี้ยง) มาเลี้ยงน้องโฟกัสมาแล้วประมาณ 2 เดือน เราไปอยู่บ้านเขาเลย เซ็งตนเองรู้จักทั้งพ่อและแม่ แม่คือแม่แท้ๆส่วนพ่อคือพ่อเลี้ยง คือสาเหตุเนื่องจากตอนพ่อเขากลับมา แล้วน้องเขาอึใส่ แล้วคำโมโหเขาก็เลยอุ้มน้องไป เข้าห้องน้ำ แล้วก็ไปตีน้องในห้องน้ำ โดยใช้สายยางตี โดยเป็นแผลเต็มตัวส่วนเบ้าตาอันนี้น้องเขาวิ่งตามผม แล้วเขาก็ไปดึงสายไฟ ส่วนหน้าไปโดนหัวชาร์จแบต ซึ่งก่อนหน้านี้พ่อเขาตีบ่อยอยู่ สาเหตุมาจากความจนและดื้อ ส่วนตนเองก็ตีบ้างโดย ตีด้วยมือเปล่าๆ บางครั้งก็เอามาให้ขู่ไม้ก้านมะยมและกิ่งไม้ทั่วไป เพียงขู่เฉยๆ แต่วาระสุดนี้เป็นพ่อเขาทำ
ส่วนทาง น.ส.แพรวา โล่เพชร อายุ 19 ปี (แม่น้องโฟกัส)ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่ออาทิตก่อนน้องมีแผลเขียวช้ำที่ศีรษะ ตนเองจึงถามพี่เลี้ยงว่าโดนอะไรมา โดยพี่เลี่ยงได้บอกว่าน้องล้ม และหัวไปกระแทกกับปลั๊กที่ชาร์ตโทรศัพท์ โดยตนเองก็ได้ถามลูก ก็ตอบตรง
*********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ