ตร.บ้านบึง ทนแรงกดดันส.ส.เป้า ไม่ไหวตั้งด่านจับ รถบรรทุกดิน-หิน น้ำหนักเกิน ไม่คลุมผ้าใบ ดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจาก “ส.ส. เป้า” นายจิรวุฒิ สิงห์โตทองส.ส.ชลบุรี เขต4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านอ.บ้านบึงรวมไปถึงผู้ใช้รถใช้ถนน ที่ใช้ถนนหลวง เส้น 304 เส้น 344 ได้รับความเดือดร้อนจากรถบรรทุกดิน-หิน วิ่งแบกน้ำหนักบรรทุก ไม่คลุมผ้าใบ ทำให้ทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว และถนนหลวงได้รับความเสียหาย อีกทั้งเศษดิน-หินยังกระเด็นหล่นใส่รถยนต์ที่ใช้เส้นทางร่วม ทำให้รถยนต์ผู้ใช้เส้นทางร่วมได้รับความเสียหายเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ส.ส.จิรวุฒิ ยังได้เปิดโปงถึงนายทุนโรงโม่หินจำนวน 4-5 แห่ง ที่ได้รับอนุญาตมาประกอบกิจการโรงโม่หิน ในเขตพื้นที่ ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้ทำการเปิดหน้าดินเพื่อต้องการขนดินออกจากบ่อจึงขายดินราคาถูกให้กับผู้ประกอบการ จึงทำให้มีรถบรรทุกดินจำนวนนับพันคันวิ่งเข้า-ออกไปบรรทุกดินเพื่อนำไปถมที่ดินในเขตพื้นที่เส้นทางถนนบางนา-ตราด สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอ.บ้านบึงโดยเบื้องต้นได้มีการประชุมร่วมระหว่างตร.ชลบุรี-บ้านบึง-คลองกิ่วเพื่อแก้ไขปัญหา โดยให้รถบรรทุกดิน-หินทุกคันจะต้องคลุมผ้าใบก่อนออกจากบ่อและต้องไม่บรรทุกน้ำหนักเกินอัตรากฎหมาย เพราะจะทำให้ถนนหลวงพังเสียหายกำหนดให้เริ่มกวดขันตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.66 เป็นต้นไป แต่กลุ่มผู้ประกอบการก็ไม่ได้ทำตามมติในที่ประชุม ตำรวจก็ไม่ตั้งด่านกวดขัน ส.ส.จิรวุฒิ จึงได้ร้องเรียนความเดือดร้อนผ่านไปถึงสื่อมวลชน ให้นำเสนอข่าวล่าสุดเมื่อตร.จราจร สภ. บ้านบึง ได้ตั้งด่านกวดขันจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินและไม่คุมผ้าใบบนถนน 304 ซึ่งเป็นพื้นที่วิ่งผ่านอ.บ้านบึง สามารถจับกุมรถบรรทุกไม่คลุมผ้าใบ รถบรรทุกน้ำหนักเกิน ได้เป็นจำนวนมากส.ส.จิรวุฒิ กล่าวว่าที่ผ่านมา ผู้ประกอบโรงโม่หิน บ่อดินเล่นลิงหลอกเจ้ารถสายตรวจตร.ทางหลวง ที่รับผิดชอบเขตทางหลวงเส้น304-344 คงเกิดอาการตากวาง หูอื้อ จึงไม่สามารถ ตรวจจับรถบรรทุกน้ำหนักเกินและไม่คลุมผ้าใบได้ มีตร.บางพื้นที่ตั้งด่านกวดขันแค่ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ไม่รู้ว่ามีการส่งซิกถึงผู้ประกอบการรถดินรถหิน ไม่ต้องวิ่งในช่วงเวลาที่ตั้งด่าน ที่วิ่งผ่านด่านก็เป็นรถบรรทุกที่คลุมผ้าใบ น้ำหนักไม่เกินแถมยังมีนักการเมือง ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถบรรทุก โทรมาขอผู้สื่อข่าว ไม่ให้ลงข่าวเรื่องบรรทุกน้ำหนักเกิน เรื่องนี้ไม่ต้องมาขอผม ผมยอมไม่ได้ มาทำมาหากินในพื้นที่บ้านผมแล้วมาสร้างความเดือดร้อน ให้กับลูกบ้านผม ผู้ใช้รถใช้ถนน ตัวผมเองก็โดนมากับตัว สะเก็ดหินตกใส่กระจกรถ ระหว่างเดินทางไปประชุมสภาฯ กระจกแตก การคลุมผ้าใบมันจะยากอะไรผ้าใบก็ผืนละ 1600 ถึง 1800 บาท ตอนนี้ก็มีใช้สแลนคลุม
พ.ต.อ.จักรพันธ์ กิตติสิริพรกุล รอง.ผบก.ชลบุรี ก็บอกแล้วว่ามันใช้ไม่ได้ ผมบอกแล้ว ชาวบ้านคลองกิ่ว ร้องเรียนมาว่ามีรถบรรทุกหินก้อนใหญ่ วิ่งบรรทุกในพื้นที่ทำให้ถนนพังเสียหาย ผมขอเรียกร้องไปถึงสื่อมวลชน ให้ช่วยมาทำข่าวเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนด้วยและตัวผมก็กำลังรวบรวมข้อมูลภาพถ่าย เพื่อไปตั้งกระทู้ถามหน่วยงานรัฐ ขนส่งจังหวัด ทางหลวง ตำรวจทางหลวง ฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้องในสภาผู้แทนราษฎร
ข