ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

คณะกรรมการมูลนิธิพระมงคลบพิตร จัดพิธีบวงสรวงการบูรณะปิดทององค์พระมงคลบพิตร ณ วิหารพระมงคลบพิตร ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา

วันที่ 20 ธันวาคม เวลา 08.39 น.นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธี บวงสรวงการบูรณะปิดทององค์พระมงคลบพิตร ณ วิหารพระมงคลบพิตร ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ประชาชน เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ โดยกรมศิลปากรได้อนุญาตให้มูลนิธิพระมงคลบพิตร ปิดทององค์พระมงคลบพิตร พร้อมฐานพระ โดยช่างสิบหมู่ของกรมศิลปากร และมูลนิธิพระมงคลบพิตรเป็นผู้ดำเนินการ
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า โครงการปิดทององค์พระมงคลบพิตร พร้อมฐาน จะดำเนินงาน เริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ 2567 – เดือนกันยายน 2568 การปิดทอง โดยช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ด้วยวิธีลงรักปิดทองแบบโบราณมีขั้นตอนสำคัญ ได้แก่ 1. ลอกพื้น ขัดพื้น โป้ อุดแต่ง ทารัก บ่มรัก 6 เดือน 2. ทารักสมุกเหลวบ่มรัก 4 เดือน 3. ขัดแต่งผิวองค์พระมงคลบพิตรและฐานพระให้เรียบเสมอกัน 4 เดือน 4.ทารัก บ่มรัก พร้อมปิดทองและประดับกระจกผ้าทิพย์ 6 เดือน รวมระยะเวลาที่กำหนดตามแผนการปฏิบัติงาน 20 เดือน ใช้งบดำเนินการ ประมาณ 22,000,000 บาท (ยี่สิบสองล้านบาทถ้วน)


สำหรับพระมงคลบพิตร พระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นพระพุทธรูปสำริดสูง 12.45 เมตร หน้าตักกว้าง9.55 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสูง 4.50 เมตร แต่ก็ไม่ได้มีหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นในสมัยใด สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ช่วงระหว่างปี พ.ศ. 1991–2145 โดยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายจากทิศตะวันออกนอกพระราชวังมาไว้ทางด้านทิศตะวันตกที่ประดิษฐานอยู่ในปัจจุบัน และโปรดเกล้าฯ ให้ก่อมณฑปสวมเอาไว้ ในช่วงสมัยของสมเด็จพระเจ้าเสือ ประมาณปี พ.ศ. 2249 อสุนีบาตตกลงมา ยอดมณฑปพระมงคลบพิตรเกิดไฟไหม้ ทำให้ส่วนบนขององค์พระมงคลบพิตรเสียหาย จึงโปรดเกล้าฯให้มีการซ่อมแซมใหม่ โดยมีการแปลงหลังคายอดมณฑปเป็นมหาวิหาร และต่อพระเศียรพระมงคลบพิตร ต่อมาสมัยสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ ช่วงเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 วิหารพระมงคลบพิตร ก็ถูกข้าศึกเผาเครื่องบน พระเมาฬีและพระกรขวาของพระมงคลบพิตรหัก รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้การปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่

การบูรณะปิดทอง
พระมงคลบพิตร
วันที่ 20 เดือนร้นวาคม พ.ศ.2566
กรมศิลปากรได้อนุญาตให้มูลนิธิพระมงคลบพิตร ปิดทององค์พระมงคลบ
ฐานพระโดยช่างสิบหมู่ของกรมศิลปากร และมูลนิธิพระมงคลบพิตรเป็นผู้ดำ ดังนี้
พิธีบวงสรวง
วันพุธที่ 20 ธันวาคม 2566 เวลา 08.39 น.
ณ วิหารพระมงคลบพิตร
โครงการปิดทององค์พระมงคลบพิตร พร้อมฐาน
การดำเนินงาน เริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ 2567 – เดือนกันยายน 2568
การปิดทอง โดยช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ด้วยวิธีลงรักปิดทองแบบโบราณ
มีขั้นตอนสำคัญ
1. ลอกพื้น ขัดพื้น โป้ อุดแต่ง ทารัก บ่มรัก 6 เดือน
2. ทารักสมุกเหลวบ่มรัก 4 เดือน
3. ขัดแต่งผิวองค์พระมงคลบพิตรและฐานพระให้เรียบเสมอกัน 4 เดือน
4.ทารัก บ่มรัก พร้อมปิดทองและประดับกระจกผ้าทิพย์ 6 เดือน
5. รวมระยะเวลาที่กำหนดตามแผนการปฏิบัติงาน 20 เดือน
งบดำเนินการ ประมาณ 22,000,000 บาท (ยี่สิบสองล้านบาทถ้วน)
ข้อมูลสำคัญ พระมงคลบพิตร พระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นพระพุทธรูปสำริด
สูง 12.45 เมตร หน้าตักกว้าง9.55 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสูง 4.50 เมตร
จึงขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคปิดทององค์พระมงคลบพิตรพร้อมฐา
เป็นพุทธบูชา และเป็นมรดกอันล้ำค่าของโลกสืบไป โดยร่วมบริจาคได้ที่
จุดจำหน่ายวัตถุมงคลในวิหารพระมงคลบพิตร
ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 101-0-39828-8
ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมงคลบพิตร
มูลนิธิพระมงดลบพิตร