ข่าวพาดหัวฆ่าตัวตาย

หนุ่มพม่าจิตตกโดดน้ำ 2 รอบ หวังฆ่าตัวตายรอบแรกชาวบ้านช่วยได้ รอบสองดับสมใจ

วันที่ 24 ธันวาคม 2566 เวลา 18.07 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน รับแจ้งมีศพลอยอยู่ภายในคลองบางค้อเป็นชาย 1 ราย จุดเกิดเหตุอยู่ภายในบริเวณชุมชนริมคลองบางค้อ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสาน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุประมาณ 35-40 ปี ในลักษณะลอยหงายหน้า ภายในคลองบางค้อ ชมชนริมคลองบางค้อ ซอย สมเด็จพระเจ้าตากสิน 44 ถนน สมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวง ดาวคะนอง เขต ธนบุรี กรุงเทพมหานคร ในลักษณะสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีม่วง สวมกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมรองเท้า สวนสูงประมาณ 160-165 ซม. รูปร่างสันทัด ผิวขาว เมื่อนำขึ้นมาตรวจสอบพบว่าเป็นชาวเมียนมา ทำงานและพักอาศัยอยู่ภายในซอย จอมทองซอยที่ 4 เมื่อกลุ่มเพื่อนของผู้ตายมาดูศพจึงชี้ชัดว่าเป็นเพื่อนร่วมชาติที่ทำงานด้วยกันอย่างแน่นอน และยังกล่าวว่า เพื่อนของตนเองได้หายออกไปจากที่พักตั้งแต่เมื่อวาน ( วันที่ 23 ธันวาคม 2566 ) ในช่วงเช้า ซึ่งคำบอกเล่าดังกล่าวได้ไปตรงกับคำบอกเล่าของชาวบ้านที่อยู่ภายในบริเวณชุมชนบางค้อว่าเห็นผู้ตายเดินวนไปเวียนมาภายในชุมชนหลายรอบก่อนที่จะโดดลงไปภายในคลองบางค้อแต่ชาวบ้านได้ช่วยกันขึ้นมาได้แล้ว 1 รอบ ก่อนที่จะเดินหายไปและมาพบอีกครั้งในวันนี้ช่วงเย็นแต่อยู่ในสภาพเป็นศพลอยอยู่กลางคลองดังกล่าวแล้ว

และจากการสอบถาม นาง จง อายุ 71 ปี แม่ค้าไก่ย่างที่อยู่ภายในชุมชนบางค้อ กล่าวว่า ยายมาย่างไก่ ก็เห็นผู้ตายยืนเล่าะริมและก็เดินวนเวียนไปมาอยู่หลายรอบตั้งแต่เช้าจนเกือบเที่ยงชาวบ้านแถวนี้เอาข้าวให้กินก็ไม่กินเอาอะไรให้ก็ไม่เอารองเท้าก็ไม่ใส่พอใกล้จะเที่ยงก็มาโดดน้ำต่อหน้าตนเอง แต่ชาวบ้านแถวนี้เห็นทันก็ช่วยกันนำตัวขึ้นมาได้ แล้วก็ทำท่าทางจะไปโดดน้ำอีก ก็เลยแจ้งตำรวจให้ตำรวจมาดู แต่แล้วก็หากันไม่เจอแล้วทีนี้ญาติเขาก็มาบอกว่าเป็นพม่าแล้วสติก็ไม่ดีด้วย แล้วทางญาติก็เดินตามหากันจนทั่วก็ยังหากันไม่เจอ เขาก็ว่าจะไปแจ้งตำรวจ พอมาวันนี้ที่รู้ว่าเป็นศพรอยอยู่ในน้ำก็เพราะมีคนไปบอกตน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานตนเองก็ยังตกใจอยู่เลยแต่เจ้าหน้าตำรวจก็พยายามหาตัวกันแล้วแต่ก็หาไม่เจอก็เลยไม่รู้ว่าไปกระโดดน้ำตายตอนไหนแล้วก็ตรงไหน

และจากการสอบถาม ป้าหวิน อายุ 73 ปี ชาวบ้านอีกคนที่อยู่ภายในชุมชนดังกล่าวบอกว่า ตนเองเคยเจอผู้ตายมาแล้ว 2-3 ครั้ง เขาชอบเก็บขยะ แต่เขาก็ไม่เก็บเป็นกิจลักษณะอะไรเลยเป็นพวกเศษไม้ ผ้าเก่าขาดๆ เก็บแล้วก็เอาไปกองเอาไว้ และก็ชอบกินน้ำแดง มาขอกินน้ำแดงอยู่บ่อยๆ ส่วนน้ำเเดงที่กินก็จะตั้งอยู่บริเวณโคนต้นโพธิ์ที่ชาวบ้านนำมาถวายเพราะเป็นความเชื่อของเขา เมื่อวานมีญาติมาตามหาพูดไทยไม่ค่อยชัดจึงคาดว่าน่าจะเป็นพม่า ส่วนผู้ตายก็พูดไม่ชัดเหมือนกันก็เลนคาดว่าน่าจะเป็นพม่าเหมือนกัน แล้วทางญาติเขาก็บอกว่าตัวผู้ตายสติไม่ค่อยดี

แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจากสภาพศพของผู้ตายแล้วไม่พบร่องรอยจากการถูกทำร้ายร่างกาย แต่ต้องตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงมอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ก่อนที่จะติดต่อให้ญาตินำเอกสารไปรับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.