ข่าวพาดหัวช่วยเหลือน้ำท่วม

นายกฯโก-ลก ส่งเจ้าหน้าที่แจกข้าวกล่องชาวบ้านที่ไม่อพยพน้ำท่วมสูงเกือบ2เมตร พบแล้วร่าง4ชีวิตที่เรืออับปางส่วนอีก 3 ยังไม่พบตัวจากดินสไลด์ทับบ้านพักในพื้นที่ระแงะ

รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า บรรยากาศโดยทั่วไปยังคงมีฝนตกลงมาประปรายในพื้นที่มั้ง 13 อำเภอ ส่งผลทำให้แม่น้ำสายหลัก 3 สาย ยังคงมีปริมาณน้ำล้นตลิ่งแต่ไม่เพิ่มระดับสูงเหมือนในช่วงที่ผ่านมา โดยแม่น้ำสายบุรีมีปริมาณน้ำล้นตลิ่งสูงกว่า 22.30 ม.ม. แม่น้ำบางนรามีปริมาณสูงกว่าตลิ่ง 14.90 ม.ม. แม่น้ำโก-ลกมีปริมาณสูงกว่าตลิ่ง 0.92 ม.ม. ส่วนพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ในสภาวะวิกฤตอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มของ อ.สุไหงโก-ลก ระแงะ และอ.ตากใบบางส่วน ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ราบลุ่มที่มีคลองและแม่น้ำไหลผ่าน จากผลกระทบของมวลน้ำป่าที่กำลังไหลระบายลงสู่ท้องทะเล
และจากการตระเวนตรวจสอบพื้นที่ 9 ชุมชน เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ประกอบด้วย ชุมชนหัวสะพาน ชุมชนท่าก่อไผ่ ชุมชนท่าประปา ชุมชนท่าเจ๊ะกาเซ็ง ชุมชนท่าชมพู ชุมชนท่าโรงเลื่อย ชุมชนบือเร็งนอก ชุมชนบือเร็งใน และชุมชนกือดาบารู ซึ่งมีน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 190 ซ.ม. ชาวบ้านส่วนหนึ่งยังสามารถอาศัยอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้านพัก โดยส่วนใหญ่เริ่มขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มไว้บริโภค นางสุชา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้ส่งเจ้าหน้าที่นำอาหารกล่องและน้ำดื่ม ลงเรือพายตระเวนแจกจ่ายตามชุมชนต่างๆทั้ง 3 มื้อ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว
นอกจากนี้ได้ตระเวนตรวจสอบพื้นที่ อ.ตากใบ ซึ่งถือว่าเป็นปลายน้ำที่มวลน้ำป่าจากพื้นที่ อ.สุคิรินและแว้ง ค่อยๆไหลระบายลงสู่ทะเลด้านอำเภอตากใบ พบว่ามวลน้ำก้อนนี้ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนของประชาชน ที่ปลูกสร้างอยู่ริมตลิ่งของแม่น้ำโก-ลก เริ่มมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ ต.นานาค เป็นวงกว้าง ส่วนชลประทานมูโนะ ได้เปิดประตูระบายน้ำเพื่อค่อยๆระบายน้ำลงสู่พื้นที่ราบลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทุ่งนาของประชาชนเขตรอยต่อระหว่าง อ.สุไหงโก-ลกกับ อ.ตากใบ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำไหลทะลักไปยังพื้นที่ตลาดมูโนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก ที่ทางชลประทานมูโนะ ได้นำบิ๊กแบ็กเป็นจำนวนมากมาวางเป็นแนวกั้นดิน


ส่วนกรณีชาวบ้านสะแนะ ม.1 ต.เรียง อ.รือเสาะ สูญหายไปกับกระแสน้ำ 4 คน คือ นางคอตีเยาะ เจ๊ะแล 89 ปี นางอาอีเสาะ เจ๊ะบอสู 63 ปี ด.ช.นาซูฮาร์ มายิ 8 ปี และ ด.ช.มูฮัมหมัดนาบาส มายิ 2 ปี จากเหตุเรืออับปางขณะที่เจ้าหน้าที่ได้อพยพมากับเรือ ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบศพบุคคลทั้ง 4 แล้ว ที่ถูกกระแสน้ำพัดไปยังพื้นที่ ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา ส่วนอีก 3 ราย คือ นางพิน ชัยลาภ 85 ปี นายมะซูกรี แมดารู และ น.ส.นูรา กะนิ ได้สูญหายไปกับกระแสน้ำ จากผลพวงของกระแสน้ำที่พักดินสไลด์ทับใส่บ้าน ในพื้นที่ ต.กาลิซา อ.ระแงะ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบตัวแต่อย่างใด
แต่ถึงอย่างไรหากสภาวะฝนไม่ตกลงมาอีกละลอก คาดว่า พื้นที่น้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ราบลุ่มทั้ง 13 อำเภอ จะมีสภาวะน้ำท่วมขังลดลงอย่างต่อเนื่อง แล้วค่อยๆกลับคืนสู่สภาวะปกติในอีก 2 ถึง 3 วัน ยกเว้นบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ริมตลิ่งของแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย

/ 27 ธันวาคม 2566 /ข่าว/ซาการียา/จ.นราธิวาส