ข่าวพาดหัวชิงทรัพย์

สระแก้ว-อยากเป็นลูกกตัญญู” กระชากสร้อยคอ 2 บาทแจกให้กับครอบครัวในวันปีใหม่”

สระแก้ว-อยากเป็นลูกกตัญญู” กระชากสร้อยคอ 2 บาทแจกให้กับครอบครัวในวันปีใหม่” ผู้สื่อข่าวรายงาน พันตำรวจเอกสราวุธ เอี่ยมสำอางค์ ผู้กำกับเมืองสระแก้ว สั่งให้ชุดสืบเมืองสระแก้วและสืบจังหวัด ลงพื้นที่หากล้อง วงจรปิด กรณีเหตุใช้จักรยานยนต์ ก่อเหตุ วิ่งราวทรัพย์ หน้าเรือนจำจังหวัดสระแก้ว ในช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบจึงติดตามจากกล้องวงจรปิด จึงพบว่าคนร้ายน่าจะมุ่งหน้าบ้านเขามะกา ต.สระขวัญ รอยต่อจังหวัดปราจีนบุรี

เบื้องต้น ทราบยานพาหนะผู้ก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อสกู๊ปปี้ สีเหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้า สีดำ สวมเสื้อแขนสั้น สีเทาดำกางเกงขาสั้นสีดำรองเท้าแตะ หลังจากทราบรูปพรรณคนร้าย จากกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่นำกำลัง ไปที่บ้านดังกล่าว และเข้าจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 17 คลองลิง ตำบล วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นบ้านพี่สาวของผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อภายหลังคือนาย วรายุทธ วงษ์ษาพันธ์อายุ 29 ปี ผู้ก่อเหตุดังกล่าว หลังจากตรวจค้นภายในตัวผู้ต้องหาพบเงินสด จำนวนเพียงแค่ 25,000 บาท เนื่องจากผู้ต้องหาให้การว่าทองที่ตัวเองกระชากมานั้นขาด ขายไม่ได้ราคาและนำเงินมาแจกให้กับพ่อแม่และพี่สาว ในวันปีใหม่ ผู้ก่อเหตุยังให้การกับตำรวจอีกว่าตนเคยทำมาแล้ว 2 ครั้งและติดคุกมาแล้ว 2 ปีหลังจากออกจากเรือนจำมา ก็ได้มา กระชากสร้อยอีกครั้ง เพราะเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่พอดี อยากให้ของขวัญเล็กๆน้อยๆกับครอบครัวบ้าง


ด้านน.ส.ศิริพร ฉิมมากรู ผู้เสียหาย ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ที่ สภ.เมืองสระแก้ว เป็นขณะเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวผู้ต้องหามาพร้อมรถของกลางที่ใช้ก่อเหตุ เข้ามาชี้หน้าในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวขึ้นมาที่โรงพัก ด้านผู้ก่อเหตุยกมือไหว้ขอโทษ . หลังจากนั้นน้องศิริพร เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังต่อว่าขณะที่ตนขับขี่รถจักรยานต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีเทา หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ผ่านหน้าเรือนจำจังหวัดสระแก้ว ได้มีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Scoopy i สีเหลือง ไม่ทราบทะเบียนได้ติดตามตนเองมาทางด้านหลังแล้วประกบรถจักรยานยนต์ของตน ทางด้านขวาแล้วใช้มือซ้ายกระชากสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท จากคอของตนจากนั้นคนร้ายได้กลับรถ มุ่งหน้าแยกน้ำซับ แล้วรีบขับหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนั้นตนเองตกใจจึงรีบบิดรถขับตามคนร้ายไปแต่ก็ไม่ทัน “””””ผู้เสียหายยังเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว อีกว่าขณะนั้นตนเองรู้สึกว่า คนร้ายกระชากสร้อยได้เบามากๆ คิดว่าต้องเป็นมืออาชีพแน่ๆ “” และยังอยากฝากเตือน กับผู้ที่มีทอง อย่านำมาใส่ดีกว่าเพราะว่ามันเกิดขึ้นแล้วมันเอากลับคืนมายาก “”สุดท้าย ผู้เสียหายยังฝากขอบคุณ ตำรวจเมือง จ.สระแก้ว ที่ทำงานได้รวดเร็ว นำของกลางกลับมาคืนให้ตนเองได้ ถึงได้มาแบบไม่ครบก็ยังดีกว่าไม่ได้คืน…นายยุทธนาพึ่งน้อยผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว