วันที่ 30 ธันวาคม 2566 เวลา 19.20 น.
พันตำรวจโท วิทยา บุญคุ้ม สว. สอบสวน สน.ทุ่งครุ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากการทำร้ายตนเองด้วยการผูกคอ เป็นชาย 1 ราย ภายในบ้านพักอาศัย ซอย ประชาอุทิศ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดภายในบ้าน ซอย ประชาอุทิศ ถนน ประชาอุทิศ แขวง ทุ่งครุ เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร สถานที่เกิดเหตุเป็นลักษณะอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิดเหตุเกิดบริเวณชั้นล่างสุดของตัวบ้านเป็นด้านข้างบ้านซึ่งดัดแปลงทำเป็นที่เก็บอุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 35 ปี ในลักษณะผูกคอกับคานหลังคาโดยใช้เชือกผ้าสีเขียว ลักษณะคอห้อยลิ้นจุกปากดวงตาเบิกโพลง บริเวณแก้มด้านขวามีบาดแผลคล้ายถูกของมีคมบาดจำนวนหลายแผลไม่ลึกมากแล้วยังมีคราบเลือดแห้งติดอยู่ตรงบริเวณบาดแผลดังกล่าวจนเห็นได้อย่างชัดเจน สวมใส่เครื่องแต่งกายโดยสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นลายการ์ตูนสีเขียว กางเกงยีนส์ขาสามส่วน ไม่สวมรองเท้า มีโทรศัพท์มือถือตกอยู่ที่ปลายเท้า 1 เครื่อง
จากการสอบถามเพื่อนผู้ตายที่มาพบเป็นคนแรก บอกว่า ตนเข้ามาเอาเครื่องมือ ตนเดินเข้ามาบอกไปเห็นเหมือนมีคนยืนอยู่ เพราะมันมืด ไม่ได้เปิดไฟ มองไปที่พื้นทำไมขามันลอยจากพื้น มองไล่ขึ้นดูเลยเห็นมีเชือกที่คอ เลยร้องบอกคนข้างบ้านเค้าเลยโทรแจ้งตำรวจให้ ตนทำงานที่นี่มาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว ก็เห็นเค้าทำงานอยู่ก่อนแล้ว แต่โดนพักงานไปได้ 2 อาทิตย์แล้ว อันนี้เรื่องส่วนตัวเค้า ตนไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ตอนทำงานเค้าก็พักอยู่ที่นี่แหละ พอไม่ได้ทำงานก็ออกไปพักข้างนอก แต่ก็เดินเข้าออกเพราะเคยเห็นหน้าคุ้นตากัน เลยไม่มีใครสนใจอะไร แต่จะเข้ามาผูกคอตอนไหน ตนก็ไม่รู้ เพราะตนก็เพิ่งเข้ามา และเจอตอนประมาณ ทุ่มนึง
และส่วนทางด้านคนงานที่พักที่ตึกบอกเล่าว่า ตนพักอยู่ชั้น 4 วันนี้อยู่คนเดียว เพราะเป็นวันหยุดแล้วหัวหน้างานเจ้าของไปต่างจังหวัด ตนก็อยู่เฝ้าตึกคนเดียว ปิดล๊อคประตูบ้านไว้ ส่วนประตูรั้วไม่ได้ล๊อค ส่วนคนตายเคยทำงานและพักอยู่ที่นี่ชั้น 3 แล้วเค้าโดนพักงานไปน่าจะ 2 อาทิตย์ได้ ก็ออกไปพักข้างนอก ตนก็ไม่รู้ว่าเดินเข้ามาผูกคอตอนไหน เพราะตนไม่ได้ลงมา ตนนั่งกินอยู่บนห้องตน มารู้อีกทีตอนช่างมาเอาเครื่องมือข้างล่าง และตะโกนโหวกเหวกเสียงดังเลยลงมาดู ฟังจากคนข้างนอก เค้าบอกว่าเห็นนั่งกินกันอยู่ที่วงไหนไม่รู้ในซอยนี่แหละ แล้วก็มีบ่นๆ จะไปซื้อเชือกมาผูกคอ นั่งเอามีดมากรีดหน้าตัวเอง เพื่อนในวงเค้าก็ห้ามกันเช็ดเลือดที่หน้าให้ แล้วก็เดินออกมาตอนไหนไม่รู้ก็ไม่มีใครรู้กัน
แล้วผู้ตายก็ได้โทรคุยกับลูกทางแชทที่ผู้ตายได้โทรคุยก่อนจะผูกคอ ใจความว่า โทรมาบอกรหัส บอกลาลูก มีการพิมพ์แชทกัน และบอกว่าจะไปผูกคอ แล้วโทรศัพท์ก็จอมืดไป พอโทรกลับไปอีกทีก็ไม่รับสายแล้ว
เบื้องต้นจากการตรวจสอบจากโทรศัพท์มือถือของผู้ตายพบว่ามีการแชทคุยระหว่างผู้เสียชีวิตกับลูกชายก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะตัดสินใจจบชีวิตตนเองด้วยการผูกคอ โดยเนื้อหาสำคัญในการแชทคุยกันนั้นเป็นการขอโทษลูกชาย และเป็นการบอกลา รวมทั้งบอกว่ารักลูกชายมากเป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็เป็นการโทรแบบวีดีโอแชท 3 นาที แล้วก็ตัดไปซึ่งตอนนั้นเองคาดว่าผู้ตายน่าจะตัดสินใจผูกคอตนเองแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชได้มอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช แล้วจะให้ญาตินำเอกสารมารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.
