ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวร้องเรียน

คนจนห้ามตายชาวบ้านรวมตัวเรียกร้องวัดปลักกริมใน ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

06-01-67 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
คนจนห้ามตายชาวบ้านรวมตัวเรียกร้องวัดปลักกริมใน ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ลดค่าทำพิธีศพให้ถูกลงเพราะคนจนลำบากไม่มีเงินค่าทำพิธีศพ ต้องกู้เงินนอกระบบมาจัดงานศพ เสียค่าใช้จ่ายค่าทำพิธีกว่า 27,000 บาท เฉพาะค่าศาลาตั้งศพ 15,000 บาทซึ่งแพงเกินไปแถมถูกสัปเหร่อพูดไม่สุภาพบางคนเจอด่าไม่มีเงินแล้วเอามาเผาทำไม และกันศาลาใหญ่ไว้รอให้คนมีเงินตายใช้ตั้งศพคนจนไม่มีสิทธิ์ตั้ง


วันนี้(6ม.ค.67)ที่วัดปลักกริมใน ตั้งอยู่ริมถนนพลพิชัย เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ชาวบ้านนับร้อยคนที่อยู่ในชุมชนวัดปลักกริมใน
นำโดย นายจำลอง บุญวรรโณ สจ.อำเภอหาดใหญ่เขต3 ได้มารวมตัวกันที่วัดปลักกริมในเพื่อหารือกับทางอาจารย์กล้วย รักษาการเจ้าอาวาสวัดปลักกริมใน และเรียกร้องให้ทางวัดลดค่าจัดพิธีศพที่ให้ถูกลง
หลังจากที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องค่าใช่จ่ายในการทำพิธีศพแพงเกินไปโดยเฉพาะค่าศาลาตั้งศพตก 15,000 บาท หรือคืนละ5,000 บาท ทำให้ชาวบ้านที่ครอบครัวลำบากเดือดร้อน บางรายต้องกู้หนี้นอกระบบมาเป็นค่าทำพิธีศพรวมแล้วราวกว่า 27,000 บาท


รวมทั้งพฤติกรรมของสัปเหร่อที่เลือกปฏิบัติระหว่างคนจนกับคนรวยที่ไม่เหมือนกัน โดยกันศาลาใหญ่ไว้ให้กับคนรวยคนมีเงินมาเผาศพ และพูดจากไม่สุภาพถึงขั้นด่าชาวบ้านไม่มีเงินแล้วเอามาเผาทำไม และยังเลือกปฏิบัติกันศาลาตั้งศพใหญ่รอไว้ให้คนรวยตาย ส่วนคนจนให้ไว้ศาลาเล็ก
โดยเฉพาะเคสล่าสุดที่ชาวบ้านทนไม่ไหวและรับไม่ได้กับพฤติกรรมของสัปเหร่อคือ มีชาวบ้านคนหนึ่งในชุมชนวัดปลักกริมเสียชีวิตและครอบครัวยากจน ภรรยาได้พาศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดปลักกริมในเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา


แต่เมื่อเปิดศาลาใหญ่ที่ยังว่างอยู่แม่บ้านบอกว่าให้ไปเปิดศาลา2 เพราะสัปเหร่อสั่งไว้ทั้งๆที่ศาลาใหญ่ยังว่างอยู่ และให้ย้ายศพไปไว้ศาลา2อย่างเดียวเพราะถ้าตั้งศพศาลาใหญ่ต้องเสียค่าใช่จ่าย15,000 บาท และพูดในเชิงว่าต้องเตรียมศาลาใหญ่ไว้เผื่อคนรวยตาย
ภรรยาจึงได้ติดต่อไปยังนายจ้างให้มาช่วยเคลียร์พอนายจ้างมาเคลียร์กับสัปเหร่อและจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่าศาลาตั้งศพ 15,000 บาท สัปเหร่อไม่พอใจและไม่อาบน้ำศพให้และไม่เผาให้ด้วย และให้จัดการหาคนเผาศพเอาเอง


ทำให้ชาวบ้านมองว่าพฤติกรรมของสัปเหร่อที่ปฏิบัติกับชาวบ้านไม่เหมาะสมทำเหมือนกับคนจนไม่มีค่าไม่มีสิทธิ์ตายและศาลาใหญ่ก็ตั้งเตรียมไว้ให้กับคนรวยตายเท่านั้น คนจนตายตั้งอยู่ในวัดก็ไม่มีสิทธิ์ตั้งศพศาลาใหญ่ทั้งๆที่ยังว่างต้องเตรียมไว้รอคนรวยตาย
ชาวบ้านบางคนที่เคยนำศพมาเผาที่วัดปลักกริมในบอกว่าถึงขั้นต้องกู้เงินนอกระบบจ่ายร้อยละ20 มาจ่ายค่าทำพิธีศพ ผัวตายยังใช้หนี้ไม่หมดและแม่มาตายซ้ำอีก
เฉพาะค่าทำพิธีศพที่ต้องจ่ายให้กับวัดกว่า 27,000 บาท แยกเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆเช่น ค่าศาลา 15,000 บาท ค่าดอกไม้ตั้งหน้าศพ 3,500 บาทค่าทำพิธี 1,500 บาท ค่าสวด 1,500 บาท ค่าเผา 2,400 บาท ค่าน้ำมัน 1,600 บาท และค่าทำพิธีอื่นๆเช่นเซ่นไหว้เตาผา2,000 บาท ค่าเก็บกระดูก 600 บาท และบางรายก็ต้องจ่ายค่ากวาดศาลาให้กับแม่บาทอีก 500 บาท


ที่สำคัญต้องการให้คณะกรรมการวัดชี้แจงเรื่องค่าศาลาตั้งศพที่เก็บ 15,000 บาท เพราะว่าแพงเกินไป แถมเรื่องโลงศพก็ต้องซื้อโลงศพของวัดเท่านั้นราคา 5,500 บาท เอาโลงที่รับบริจาคหรือโลงศพนอกเข้ามาไม่ได้
จึงออกมารวมตัวให้ทางวัดแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้มีค่าใช้จ่ายในการทำพิธีศพให้น้อยลงเพื่อไม่ให้ชาวบ้านเดือดร้อนเพราะชาวบ้านในชุมชนวัดปลักกริมต้องอาศัยวัดนี้ในการเผาศพ และให้กรรมการวัดชี้แจงเรื่องรายละเอียดโดยเฉพาะเงินค่าศาลาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่เก็บถึง 15,000 บาทว่ามีค่าอะไรบ้างทำไมถึงแพง
หลังจากที่มีการหารือกันระหว่างรักษาการเจ้าอาวาสกับตัวแทนชาวบ้าน นายจำลอง บุญวรรโณ สจ.อำเภอหาดใหญ่เขต3 ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้านบอกว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการวัดชุดใหม่ขึ้นมาและจะออกกฏระเบียบเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำพิธีศพให้น้อยลงกว่าเดิม โดยเฉพาะกับคนที่ยากไร้ควรจะมีการช่วยเหลือแยกออกไปจากคนที่พอมีฐานะ และให้สัปเหร่อคนเดิมหยุดทำหน้าที่และออกไปจากวัด


ส่วนอาจารย์กล้วย รักษาการเจ้าอาวาสวัดปลักกริมในบอกว่า เรื่องค่าใช้จ่ายการทำพิธีศพโดยเฉพาะศาลาตั้งศพที่ชาวบ้านเดือดร้อนว่าแพงนั้นการดำเนินการเรื่องนี้ทุกอย่างทางคณะกรรมการวัดเป็นคนจัดการทั้งหมดพระไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องของสัปเหร่อก็เป็นพฤติกรรมส่วนตัว เรื่องนี้หลังจากที่ตั้งคณะกรรมการวัดชุดใหม่ขึ้นมาก็จะมาตั้งกฏระเบียบกันใหม่อีกครั้ง ส่วนเรื่องที่แล้วมาก็ขอให้จบลง
ด้านหมอเอก สัปเหร่อของวัด ออกมาชี้แจงเรื่องที่เลือกปฏิบัติระหว่างคนจนกับคนรวยว่าเคสที่มีปัญหามีชาวบ้านมาติดต่อศาลาตั้งศพ ซึ่งคนตายเคยอยู่ที่วัดมาก่อนและเมียมีเงินอยู่แค่ 180 บาท ไม่มีเงินจัดงานศพ ก็บอกไปว่าได้ไม่มีปัญหาแต่ให้เอาไว้ที่ศาลาสอง ส่วนเรื่องของค่าใช้จ่ายเรื่องโลงเรื่องค่าน้ำมันก็ช่วยกันหาหรือเรี่ยไรจากเจ้าภาพ


แต่พอเอาศพมาที่วัดก็เปิดศาลาใหญ่ ซึ่งถ้าใช้ศาลาใหญ่ก็ต้องจ่าย 15,000 บาทเพราะที่คุยกันจะใช้ศาลาเล็ก ที่ผ่านมาศพไร้ญาติศพคนลำบากตนก็ช่วยเผามาตลอด ส่วนเรื่องที่พูดว่าศาลาใหญ่ต้องให้ว่างไว้เพื่อไว้สำหรับคนมีเงินมาเผายอมรับว่าพูดจริง
ส่วนแม่บ้านของวัดที่ทำหน้าที่เก็บเงินค่าศาลาตั้งศพ 15,000 บาท บอกว่าเงินทั้งหมดเก็บไปให้กรรมการวัด ซึ่งตนจดรายการว่าศพใคร และใครจ่ายส่วนเงินส่วนนี้กรรมการวัดจะเอาไปไหนไม่ทราบ