ข่าวพาดหัวทุกข์ชาวบ้าน

พ่อแม่ลูกจ้างขับรถสไลท์ ร้องทนายใจดีถูกตำรวจจับขับรถสไลท์บรรทุกรถที่ซุกซ่อนยาไอซ์จำนวน180 กิโลพร้อมมอบภาพวงจรปิดตอนมีคนเอารถมาส่งให้ที่บ้านเพื่อบรรทุกไป นราธิวาสทั้ง2คัน

พ่อแม่ลูกจ้างขับรถสไลท์ ร้องทนายใจดีถูกตำรวจจับขับรถสไลท์บรรทุกรถที่ซุกซ่อนยาไอซ์จำนวน180 กิโลพร้อมมอบภาพวงจรปิดตอนมีคนเอารถมาส่งให้ที่บ้านเพื่อบรรทุกไป นราธิวาสทั้ง2คัน
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยืดรถ2คัน1กระบะ ยี่ห้อMAZDA รุ่นBT50- สีขาว ทะเบียน 2กฎ 5997 กรุงเทพ 2 รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อHONDA รุ่นACCORD สีขาว ทะเบียน 3กษ 5964 กรุงเทพ พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 180 กิโล ที่ถูกซุกซ่อนไว้ในรถทั้ง2คันและ ผู้ต้องหา2คน 1นายฐิติพงศ์ คุ้มรัตน์ อายุ24ปี 2 นาย ชญานนท์ รอดนิตย์ อายุ 36 ปี เป็นคนขับรถรถสไลท์ จากหวัดสุราษฎร์ธานี มาส่งรถที่ ตำบลแว้ง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส หน้ามัสยิดตาราม หมู่ที่ 2 ตำบลแว้ง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวงชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่าโดยกถ่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท (แมทเอมเฟตามีนหรือยาไฮซ์) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป โดยผิดกฎหมาย”
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น วันนี้8 ม.ค.67ที่สำนักงานกฎหมายทนายใจดี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พ่อ แม่ และญาติของนาย แท็กหรือนาย ฐิติพงศ์ คุ้มรัตน์ อายุ 24 ปี ลูกจ้างขับรถสไลท์ จากจากหวัดสุราษฎร์ธานี เข้ามอบหลักฐานและขอความอนุเคราะห์ กลุ่มทนายใจดี หลังจากก่อนหน้านี้ได้พยายามติดต่อขอความช่วยเหลือมาแล้ว ว่าที่ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ พร้อมทีมกฎหมาย ได้เข้าสอบข้อเท็จจริงจากตัวจำเลยโดยตรง ณ เรือนจำนราธิวาส พบว่าคดีนี้มีเงื่อนงำ และมีพิรุธ มากมาย เชื่อว่าจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นผู้ขับรถสไลท์ บรรทุกรถที่ซุกซ่อนยาไอซ์ ทั้งสองคัน ไม่มีส่วนรู้เห็นและน่าจะถูกหลอกว่าจ้างให้ขนรถที่ซุกซ่อนยาเสพติดไปส่งจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี มายังจังหวัดนราธิวาส…เพราะจากข้อเท็จจริงและเส้นทางการเดินรถ เป็นอย่างเปิดเผย และภาพจากกล้องวงจรปิดต่างๆ ที่รวบรวมได้ชัดเจนว่าไม่มีส่วนรู้เห็น อีกทั้งยังมีเส้นทางการเงิน และรายการสนทนาต่างๆ ที่จะแสดงต่อศาลได้ว่า ทั้งสองคน เป็นผู้บริสุทธิ์ และเป็นเหยื่อ “แกงค์ค้ายา” วันนี้ทีมทนายใจดีได้รับเข้าช่วยเหลือแล้ว


ทั้งนี้ ว่าที่ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ กล่าวว่า ทีมทนายใจดีไม่เคยช่วยทำคดีให้ผู้ค้ายาหรือคดียาเสพติด แต่กรณีนี้ เราเชื่อว่าจำเลยทั้งสองคน เป็น “แพะ” และเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด เพราะพบพิรุธหลายอย่าง ประกอบกับมีหลักฐานยันยันความบริสุทธิ์ได้ ซึ่งส่วนทางคดีนั้นจะดำเนินการชั้นศาลให้เต็มที่ ส่วนเรื่องเป็นเหยื่อนั้น จะทำการนำข้อมูลสำคัญ ที่จะสามารถทำให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองกวาดล้างแกงค์ค้ายากลุ่มนี้ได้ และฝากเตือนผู้ประกอบการขนส่งเอกชนทุกราย ให้ระมัดระวัง จะเป็นเหยื่อกระบวนการค้ายา ค้าของเถื่อน
และตอนที่ไปจนถึงเส้นทางก่อนที่จะถูกจับ นาย ฐิติพงศ์ คุ้มรัตน์ ได้โฟสเฟสบุ๊คตลอดว่าอยู่ที่ไหนทำอะไร และผู้ต้องหาอีกคนก็ยังพาลูกไปด้วย 2คน และวันที่11 ม.ค.67 จะขึ้นไป กทม จะไปยืนหนังสือที่ สนง ตำรวจแห่งชาติ
สัมภาษณ์ คุณ ปรีดา คุ้มรัตน์ อายุ50 แม่ของนายฐิติพงศ์ คุ้มรัตน์ และแฟนสาว

พี่เสือ นักข่าวสงขลา