ข่าวพาดหัวอุบัติเหตุ

สุดสลด ! เด็กชาย 3 ขวบ พลัดตกตึก 4 ชั้น ดับ แม่ร่ำไห้ใจแทบขาด

สุดสลด ! เด็กชาย 3 ขวบ พลัดตกตึก 4 ชั้น ดับ แม่ร่ำไห้ใจแทบขาด

วันที่ 10 มกราคม 2567 เวลา 17.29 น.

พันตำรวจโท มงคล ทรัพย์เพิ่ม สว.ป.สน.ท่าข้าม พร้อมร้อยตำรวจโท ธนทรัพย์ รัศมีภูผา รอง สว.สอบสวน สน.ท่าข้าม ได้รับแจ้งมีเด็กชายอายุ 3 ขวบพลัดตกจากที่สูงเสียชีวิต ที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยพระรามที่ 2 ซอย 50 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครกู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าแคมป์พักคนงานก่อสร้างท้ายซอย พระรามที่2 ซอย 50 ถนน พระรามที่ 2 แขวง แสมดำ เขต บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเด็กชาย อายุ 3 ขวบ นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นถนน โดยพบผู้เป็นแม่มีอาการตื่นตกใจแล้วร้องไห้อยู่ตลอดเวลา อาสาสมัครจึงจัดชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เร่งให้การช่วยเหลือโดยการทำ CPR เหตุเพราะเด็กชายดังกล่าวอาการสาหัส หมดสติ อาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการทำ CPR อยู่นานและพยายามช่วยกันปฐมพยาบาลอย่างเต็มที่เต็มกำลังจนสุดความสามารถแต่ไม่เป็นผลเด็กชายดังกล่าวทนความเจ็บปวดไม่ไหวจึงได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ในสภาพนอนหงายหน้าอยู่กับพื้นถนน สวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมรองเท้า จากการตรวจสอบสภาพศพพบว่ามีลอยช้ำที่หัวเขาข้างซ้ายแล้วขาท่อนบนข้างซ้ายก็หักผิดรูปอย่างเห็นได้ชัดเจน ส่วนบริเวณกลางศรีษะบวมปูด ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากการพลัดตกจากระเบียงห้องซึ่งอยู่บนชั้นที่ 4 ของอาคาร ซอย พระรามที่ 2 ซอย 50 ถนน พระรามที่ 2 แขวง แสมดำ เขต บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ซึ่งตอนเกิดเหตุ น้องเอ อยู่กับแม่ อายุ 22 ปี และน้องชายวัยขวบเศษอีกหนึ่งคน ซึ่งผู้เป็นแม่ได้เป็นคนอุ้มร่างน้องเอ ออกมาจากที่เกิดเหตุมาตรงบริเวณดังกล่าวเพื่อหาคนช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทันการณ์แล้วน้องเอได้จากไปอย่างสงบ โดยคำพูดสุดท้ายที่น้องเอพูดกับผู้เป็นแม่นั้น ” คือน้องเอเรียก แม่ ” เป็นคำสุดท้ายก่อนที่น้องเอ จะหมดลมหายใจแล้วก็แน่นิ่งไปในที่สุดซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างควมสะเทือนใจให้แก่ชาวบ้านบริเวณโดยรอบตรงนั้น

และจากการสอบถาม พันตำรวจโท มงคล ทรัพย์เพิ่ม สว.ป.สน.ท่าข้าม กล่าวว่า สิ่งที่ต้องตรวจสอบก็คือ สาเหตุเกิดจากอะไร แต่ที่ พฐ.ขึ้นไปตรวจสอบดู เด็กน่าจะได้ยินเสียงเด็กข้างล่างเล่นกัน เลยปีนตะกร้าผ้าขึ้นดูแล้วพลัดตกลงมา ดูร่องรอยข้างล่างแล้วไม่มีรอยเลือด ตามตัวเด็กจะมีหัวปูดที่ท้ายทอย แล้วก็สอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ สภาพแวดล้อม ไป 2-3 ปากแล้ว เหลือแต่แม่เด็ก เพราะอยู่ในอาการเศร้าโศกที่สูญเสียลูกไป

และจากการสอบถามคุณ แม่ของน้องเอ ร่ำไห้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมีลูกชาย 3 คน คนที่ 1 อายุ 7 ขวบ / คนที่ 2 อายุ 3 ขวบ และคนที่ 3 อายุ 9 เดือน โดยช่วงเกิดเหตุตนเองเลี้ยงลูกชายคนที่ 2 และคนที่ 3 ในห้องเพียงลำพัง เนื่องจากสามีออกไปทำงานข้างนอก ปรากฎว่าช่วงประมาณ 16.30 น. น้องกัน ลูกชายคนกลางเพิ่งตื่นนอน ได้วิ่งไปที่ระเบียงห้องซึ่งอยู่ชั้น 4 พร้อมกับหยิบตะกร้าไปวางไว้ และปีนขึ้นไป ชะโงกหน้าดูข้างล่าง ที่มีเด็กหลายคนวิ่งเล่นกันเสียงดัง / เมื่อตนเองเห็น ก็รีบวิ่งไปดึงแขนน้องจากระเบียงเข้ามาในห้องหลายครั้ง จนจังหวะที่ตนพาลูกชายคนเล็ก เข้าไปล้างก้นในห้องน้ำ คาดว่าน้องจะหยิบตะกร้าไปที่ระเบียง และปีนขึ้นไปบนตระกร้าที่มีผ้าอยู่เต็มตาะกร้า และจับฟูกที่ตนเองตากไว้ริมระเบียง ก่อนจะพลัดตกลงไป

วินาทีนั้นตนเองตกใจมาก รีบอุ้มลูกชายคนเล็ก วิ่งออกจากห้องลงไปดูน้องเอซึ่งเมื่อลงไปก็เห็นหัวของน้องเอ พาดอยู่ที่รถจักรยานยนต์ ตนเองขอให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น ช่วยกันปั้มหัวใจน้องเอ แต่ก็ไม่มีใครกล้าช่วย ตนเองจึงอุ้มน้องเอ ออกมาขอความช่วยเหลือจากคนข้างนอก แต่ออกมาได้แค่ครึ่งทาง ตนเองเห็นน้องเอ หน้าซีด ปากเขียว ไม่มีลมหายใจ จึงวางน้องเอ ลงบนถนนและรอเจ้าหน้าที่มา

ส่วนทางด้าน เพื่อนบ้าน อายุ 53 ปี อยู่ทางชั้นล่าง บอกเล่าว่า ตนนั่งดูหลานเล่นกันอยู่ เพราะปกติจะมีเด็กๆ จะเล่นเตะบอลกัน ตนก็กลัวว่าจะเตะมาโดนหลาน เลยมานั่งคอยดู เด็กๆวิ่งเล่น ก็ได้ยินเสียงดังมาก ตนก็ชะเง้อมองว่าเสียงเด็กเตะบอลไปโดนอะไรหรือป่าว ก็ไม่มี มองไปรอบๆก็เห็นเด็กนอนอยู่ระหว่างกลางช่องว่าง รถมอไซค์ นอนหงายนิ่งกับพื้น ตนเลยตะโกนว่าเด็กตก เด็กตกตึก แม่เค้าก็ชะโงกลงมาเห็นลูกก็อุ้มคนเล็กวิ่งลงมา แล้วเข้าไปอุ้มคว้าออกไปรอข้างนอกด้วยความที่ตกใจ ตะโกนให้โทรเรียกรถ ก็ต่างคนต่างตกใจทำไรไม่ถูกกัน พอตั้งสติกันได้ก็โทร 1669 ปกติเด็กก็สดใสร่าเริงปกติ ซนตามภาษาเด็กแหละ ไม่ถึงกับดื้อก๋ากั่นอะไรนะ เท่าที่คุยกะแม่เด็กรู้ว่า คนเล็ก 9 เดือน อึมาเลยเข้าไปล้างก้นในห้องน้ำ ออกมาก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายข้างล่างแล้ว ช่วงตอนนั้นไม่มีเด็กข้างล่างเรียกขึ้นไปนะ แต่ปกติ เห็นเค้าว่ากันนะ ว่าเคยเห็นโบกมือลงมาบ้าง

ส่วนทางด้าน พ่อของเด็ก อาชีพช่างไฟ บอกว่า เค้าชอบปีนดู เตือนแล้ว ยังไม่ได้คุยอะไรกันกับแม่ของเด็กเลย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวช ได้ทำการตรวจสอบสภาพร่างของผู้เสียชีวิตแล้วจึงมอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจสอบจากสภาพแวดล้อมภายในห้องพักอาศัยดังกล่าวแล้วก็ได้พบกับตระกล้าผ้าสีดำซึ่งด้านในตะกร้ามีเสื้อผ้าอัดแน่นจนเต็มตะกร้า แล้ววางเอาไว้บริเวณชิดขอบระเบียงห้อง ซึ่งตรงกับคำให้การของผู้เป็นแม่ซึ่งบอกเล่าว่าน้องเอได้ปีนขึ้นไปเหยียบตะกล้าผ้าดังกล่าว แล้วปีนชะโงกหน้าขึ้นไปบนขอบระเบียงก่อนที่จะพลัดตกลงมาจนเป็นเหตุการณ์สลดดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงทำการบันทึกภาพภายในห้องทั้งหมดเอาไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนทางคดีต่อไป

ชุติเดช ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.