เมื่อช่วงสาย วันที่ 18 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรปราการ หลังรับเรื่องร้องทุกข์ จาก นายวรพจน์ สิงหราช ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรปราการ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักบริหารการมัธยม ว่า มิจฉาชีพ แอบอ้างปลอม เฟสบุ๊ค โดยใช้ชื่อของ นายวรพจน์ และยังเอาภาพกับข้อความจากเฟสบุ๊คจริงของ นายวรพจน์ และ เพจ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรปราการ ที่ นายวรพจน์ ไปทำภารกิจ ไปโพสต์ในเฟสบุ๊คปลอมที่มิจฉาชีพทำขึ้น
แล้วมิจฉาชีพก็ได้ทำการแอด เฟสบุ๊ค และไลน์ ของ ผู้คนที่ดำรงตำแหน่งเกี่ยวกับการศึกษา อาทิเช่น ผอ.เขตการศึกษา และ ผอ.โรงเรียน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง แล้วพูดคุยและส่งรูปให้เหยื่อทุกวัน จนเหยื่อหลงเชื่อก็จะชักชวนหลอกให้ร่วมลงทุนในโครงการต่าง ๆ โดยเสนอผลตอบแทนที่สูง จนกระทั่ง นายวรพจน์ มาทราบเรื่อง จึงเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ ที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2566 เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตนเองนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพและการหลอกลวงนี้ ตอนนี้มีผู้เสียหายที่โดนมิจฉาชีพ หลอกลวงไปแล้ว 5 ราย สูญเสียเงินตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลักล้าน
นายวรพจน์ บอกว่า ตนก็อยากฝากบอกพี่น้อง และเพื่อนที่อยู่ในเฟสบุ๊คและไลน์ ผ่านทางสื่อ ตนได้รับการโทรติดแจ้งมาหลายสายจากผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ตอนนี้ ตนถูกมิจฉาชีพปลอมเฟสบุ๊คและไลน์ โดยมิจฉาชีพ ได้ใช้ชื่อและรูปของตน และนำภาพจากเฟสบุ๊คของตนและเพจของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรปราการ ที่มีภาพตนไปร่วมภารกิจ ไปโพสต์ในเฟสปลอมที่มิจฉาชีพสร้างขึ้น พร้อมทั้งแอด เฟสบุ๊ค และ ไลน์ ของเหยื่อ ซึ่งเป็น ผู้คนที่ดำรงตำแหน่งเกี่ยวกับการศึกษา อาทิเช่น ผอ.เขตการศึกษาและผอ.โรงเรียน โดยเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อ จะมีการพูดคุย สร้างความสนิทสนมและพูดคุยเชิงเป็นกันเองในทุกๆวันและส่งรูป ว่าตอนนี้ตนกำลังทำอะไรอยู่ ประชุมที่ไหนมาบ้าง ซึ่งมิจฉาชีพทำแบบนี้เพื่อยืนยันว่าเหยื่อคุยกับตนอยู่ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อแล้วจึงชักชวนหลอกให้ร่วมลงทุนในโครงการต่างๆ ที่มีผลตอบแทนสูงโดยมิจฉาชีพหลอกให้หลงเชื่อ ให้เพิ่มจำนวนเงินลงทุนเรื่อยๆ จนจำนวนเงินสูงขึ้น และเหยื่อก็สูญเสียทรัพย์สิน โดยวิธีการ ของมิจฉาชีพจะมีลักษณะการหลอกที่คล้ายกัน ตอนนี้มีผู้เสียหายที่โดนมิจฉาชีพ หลอกลวงไปแล้ว 5 ราย สูญเสียเงินตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลักล้าน เบื้องต้นตนได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันแล้วเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องนี้ แต่โดนปลอมเฟสและไลน์
ตอนนี้ผู้เสียหายบางรายได้เข้าแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ โดยทั้งนี้ไม่อยากให้เกิดความเสียหายต่อไปอีก เนื่องจากมิจฉาชีพยังคงทักหาเหยื่ออยู่เรื่อยๆ จึงอยากออกมาประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกันจะได้ไม่มีใครหลงเชื่อกลลวงของมิจฉาชีพแก๊งค์นี้อีก
นายวรพจน์ บอกอีกว่า จากการตรวจสอบบัญชีที่ผู้เสียหายโอนไป พบว่าน่าจะเป็นบัญชีม้า และล่าสุดเมื่อวานได้พี่น้องผู้บริหารโรงเรียนทางภาคอีสาน ว่า มีผู้เสียหายเสียเงินไปกว่าแสนสองหมื่นบาท และจากข้อมูลที่ตนได้มาผู้เสียหายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ส่วนใหญ่มิจฉาชีพเขาจะพุ่งไปที่ รอง ผอ.เขต , ผอ.โรงเรียน , ศึกษานิเทศก์ , ผอ.กลุ่มที่อยู่ในลักษณะเขตพื้นที่ และต่อไปมิจฉาชีพน่าจะคนที่เพื่อนในเฟสบุ๊คตน และตอนนี้ มิจฉาชีพไปได้ลอกผู้เสียหายในเชิงชู้สาวด้วย มีการส่งคลิปที่อนาจารเข้าไปหาผู้เสียหาย ผู้เสียหายก็ได้ไปคุยกับสามี แล้วเมื่อวานสามีของผู้เสียหายได้ทักมาหาตน ตนก็สามีของผู้เสียหายก็ได้พูดคุยจนเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือไลน์ปลอมที่มิจฉาชีพทำขึ้นมาและทักไปหาผู้เสียหาย
*****************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ
