จากกรณีช่วงห้ามทุ่มของคืนที่ผ่านมา มีกลถ่มวัยรุ่นสองฝ่ายยกพวกรวมเกือบครึ่งร้อยใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันกลางชุมชน จนทำให้เยาวชนอายุ 16 ปี ชื่อว่า น้อง สุเมธ ถูกคมกระสุนปริศนายิงเข้าที่เอวด้านซ้ายกระสุนถูกอวัยวะสำคัญภายใน จนต้องซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเพื่อนบิดรถจักรยานยนต์หนีตายไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ รปภ.ของมหาลัยราชภัฏธนบุรีสมุทรปราการซึ่งห่างจากจุดที่ถูกยิงประมาณ 5 กิโลเมตร หลังเกิดเหตุทีมกู้ชีพและกู้ภัยเข้าให้ความช่วยเหลือน้องสุเมธ ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่สุดท้ายน้องทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล เหตุเกิด เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567
ความคืบหน้าเมื่อช่วงสาย วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 นักข่าวเราลงพื้นที่ตั้งแต่จุดที่เพื่อนผู้ตายให้ข้อมูลไว้ในตอนแรก คือกลางสะพานข้ามคลองเจริญราษฎร์ บนถนนทางเข้าเอื้ออาทรเคหะเมืองใหม่บางพลี ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ โดยนักข่าวเราไปได้ภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ที่พบว่ากลุ่มของผู้ตาย ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 4 คัน รวมกันเกือบ 10 คน กำลังขี่รถจักรยานยนต์หนีตายจากการไล่ล่าของอีกฝ่ายซึ่งมากันหลายคันรวมกว่าสิบคน โดยขับใช้เส้นทางถนนเอื้ออาทรเคหะเมืองใหม่โครงการ 4 ผ่านโครงการ 3 เลี้ยวออกถนนเลียบคลองส่งน้ำ ก่อนจะก่อเหตุชักปืนยิงใส่กลุ่มของผู้เสียชีวิต และภาพหลักฐานสำคัญใกล้กับจุดเกิดเหตุช่วงทางออกถนนเลียบคลองส่งน้ำ ในตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ นักข่าวเราไปได้ภาพหลักฐานสำคัญจากกล้องวงจรปิด จับภาพได้ช่วงเวลา 22.58 น. จะเห็นว่ามีกลุ่มรถจักรยานยนต์จำนวนหลายคันขับขี่ไล่กันมาจากนั้นจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นสองนัด จนทำให้เจ้าของร้านที่ติดกล้องวงจรปิดต้องวิ่งออกมาดูว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
ทีมข่าวเรามีโอกาสได้พูดคุยกับทางเจ้าของร้านที่ติดกล้องวงจรปิดตัวนี้ ซึ่งเจ้าตัวของสงวนชื่อและขอให้เบลอหน้า เจ้าตัวบอกว่า ช่วงเวลานั้น ตนเองยังนั่งเล่นกันในร้าน ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์หลายคัน ขับผ่านร้านและมีเสียงคล้ายกับลากเหล็กหรือมีดดาบขูดไปกับพื้นถนน พอรถผ่านหน้าร้านไม่กี่วินาทีก็ได้ยินเสียงปืน พอวิ่งออกมาดูก็พบว่าพากันแยกย้ายแล้ว หลังจากนั้นไม่กี่นาทีถัดมาก็มีรถกู้ภัยวิ่งผ่านทางไป ตนยังคิดว่าเสียงปืนที่ได้ยินเมื่อสักครู่นี้ ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบาดเจ็บแน่ และมาทราบภายหลังว่าเสียชีวิต
ขณะที่เยาวชนอายุเพียง 14 ปี หนึ่งในกลุ่มของผู้บาดเจ็บ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มของตนเอง ซึ่งเรียนอยู่มัธยมย่านบางบ่อ เคยมีปัญหากับกลุ่มนักเรียนของมัธยมย่านบางเสาธง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พอมาวันเกิดเหตุ ตนเองไม่ทราบว่ามีการนัดแนะให้ทั้งสองฝ่ายอออกไปเคลียร์กัน พอเพื่อนมารับก็ไปกับเพื่อน คิดว่าไปนั่งเล่นที่สะพานดังกล่าว พอไปถึงนั่งได้ไม่นานก็ถูกอีกฝ่ายขี่รถจักรยานยนต์มาถึงก่อนจะบีบแตรท้าทายและชักปืนยิงขู่จนแตกกระเจิงหนีตายและถูกตามไล่ยิงจนมาถึงแยกคลองส่งน้ำ
ขณะที่ช่วงเช้าของวันนี้ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางเสาธง ได้ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ย่านไทยประกัน ตำบลบางเสาธง ตามนโยบายของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นยาเสพติด นั้น คือ ห้องเช้าของ นาย จักรดุลย์ อายุ 21 ปี ซึ่งจากการไปตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ ไปพบยาบ้าจำนวน 144 เม็ด และอาวุธปืนอีก 3 กระบอก จึงควบคุมตัวมาขยายผล และเจ้าตัวสารภาพว่า ยาบ้าเป็นของตนเองจริง มีไว้เพื่อขายให้กับแรงงานชาวพม่า ส่วนอาวุธปืนที่พบนั้น มีสองกระบอกที่เพื่อนรุ่นน้องนำมาฝากไว้ หลังจากไปก่อเหตุยิงวัยรุ่นอีกฝ่ายจนเสียชีวิต ตำรวจจึงคุมตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อขยายผลไปยังกลุ่มที่ก่อเหตุไล่ยิงกันต่อเนื่องในเขต สภ.บางพลี พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเกือบคราบเขม่าดินปืนและเก็บดีเอ็นเอของผู้ต้องหารายนี้เอาไว้เป็นหลักฐาน ส่วนปืนที่พบ เป็นปืนดัดแปลงไทยประดิษฐ์ มีทั้งลูกโม่ ปืนลูกซองสั้น และแม็กกาซีน พร้อมด้วยเครื่องกระสุน
นาย จักรดุลย์ ยอมรับว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนกับตนจริง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นทราบว่ามีการท้าทายกันผ่านเฟสและนัดหมายกันเพื่อไปก่อเหตุทั้งสองฝ่าย ซึ่งเพื่อนเล่าให้ฟังว่าต่างฝ่ายต่างเตรียมอาวุธกันไป จนไปเจอกันตามนัดจึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว หลังก่อเหตุ ประมาณตีสามที่ผ่านมา นายเก่ง ได้โทรมาหาตนเองบอกจะเข้ามาหาและนำปืนมาฝากไว้สองกระบอก เป็นปืนที่ลั่นไกลยิงแล้วแต่กระสุนไม่แตก ส่วนกระบอกที่ยิงไปแล้วนั้นคาดว่าจะเป็นอีกคนและไม่ได้เอาปืนกระบอกนั้นมาฝากไว้ที่ตนเอง
ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล สั่งระดมฝ่ายสืบสวนทั้งของสืบภาค 1 สืบจังหวัด สืบบางพลี และสืบบางเสาธง ร่วมกว่า 50 นาย กระจายกำลังไล่ล่าตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
โดยล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายสามโมงที่ผ่านมา ฝ่ายสืบสวน สามารถขยายผลไปติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาได้แล้วสี่คนพร้อมรถจักรยานยนต์ 1 คัน ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน (เบลอหน้า) นายภู อายุ 18 ปี หนึ่งในผู้ที่ใช้ปืนลั่นไกใส่กลุ่มผู้ตาย ออกมายอมรับว่า ก่อเหตุใช้ปืนยิงใส่กลุ่มผู้ตายจริง แต่กระสุนของตนเองมั่นใจไม่ถูกใคร ส่วนปืนที่ใช้เป็นปืนปากกาขนาด .38 หลังก่อเหตุนำไปโยนทิ้งในคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ส่วนมือปืนที่ลั่นไกถูกผู้ตายนั้น ชื่อว่านายติ ปืนที่ใช้เป็นปืนแม็กกาซีนสีดำ หลังเกิดเหตุก็แยกย้ายหลบหนี จนกรทั่งมาถูกตำรวจตามจับกุมตัว ส่วนสาเหตุนั้น นายภูอ้างว่าถูกอีกฝ่ายทำร้ายและรังแกรุ่นน้องของกลุ่มตน จึงรวมตัวกันนัดมาเคลียร์เพื่อให้จบเรื่อง
ขณะที่หนึ่งในเพื่อนของฝ่ายผู้ตาย ส่งภาพหลักฐานการแชท นัดหมายกันออกมาดวลกันมาให้กับทีมข่าว ซึ่งจะเห็นว่ามีการลบข้อความบ้างส่วนของฝ่ายผู้ตายออก เหลือเพียงข้อความของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีการนัดแนะจุดดวลกันในจุดที่เลี่ยงกล้องวงจนปิดอย่างถนนคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ
ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือทั้งหมด ตำรวจรู้ตัวหมดแล้วอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ และติดตามตัวมาดำเนินคดี ด้าน พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กำชับพนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวนให้ดูข้อกฎหมายเกี่ยวกับ พรบ.คุ้มครองเด็กและเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน18ปี เพื่อเอาผิดผู้ปกครองในข้อหาให้การสนับสนุนหรือปล่อยปะละเลยให้บุตรหลานออกไปก่อเหตุดังกล่าว เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างของเยาวชนและผู้ปกครองที่ปล่อยปะละเลยบุตรหลานไปก่อเหตุอาชญากรรม
****************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ