ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

ร้อยเอ็ด – คืบหน้า จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์part 6 พ่อถูกฆ่าตายแต่จับคนร้ายไม่หมด

จากกรณี​เพจ อยากดัง​เดี๋ยว​จัด​ให้​รีเทิร์น​part6

#ร้องเรียนตรวจสอบ
โปรดช่วยด้วยพ่อผมโดนฆ่าตายเรื่องไม่คืบหน้ารอบแรกมาแทนพ่อผมในบ้านรอบ 2 เอาฉมวกแทงพ่อผมตายแล้วมีดบางตอและไม้หน้าสามและด้าม
เสียมรุมกันทำร้ายพ่อผมจนเสียชีวิตคนร้ายมีทั้งหมดด้วยกัน 4 คนแต่เขายอมรับแค่คนเดียวแล้วคนที่รับผิดเป็นคนแขนเดียวลูกเมียแล้วก็เพื่อนร่วมกัน
ทำร้ายพ่อผมคนพิการยอมรับผิดคนเดียวเรื่องเกิดขึ้นวันที่ 29 ตุลาคมจน
มาถึงวันนี้ยังไม่คืบหน้าเลยคับ
-ถ้าเมื่อใดพ่อกูไปรับความเป็นธรรมครอบครัวมึงกะบ่ได๋อยู่บนโลกใบนี้คือกัน
แสดงความคิดเห็นในชื่อ คนข่าว
ร้อยเอ็ด

ต่อมาวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 นายสมชาย หวะหวอ อายุ 22 ปี พร้อมด้วย นางผุสดี หวะหวอ ผู้เป็นแม่ ลุง และพี่ชาย รวมจำนวน 4 คนเดินทางเข้ายื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรมกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด แต่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดติดราชการจึงมอบหมายให้พันตำรวจเอกศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย รองผู้บังคับการจังหวัดร้อยเอ็ดพร้อมด้วย กลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดรับเรื่องและสอบสวนข้อเท็จจริงจากผู้เสียหาย
โดยนายสมชาย บุจรชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 66 ที่ผ่านมาขณะที่ตนพร้อมด้วยแม่และนายสุรชัย ผู้เป็นพ่อและเป็นผู้เสียชีวิต กำลังกินข้าวอยู่ภายในบ้านช่วงประมาณ 18.50 น.ช่วงนั้นเป็นช่วงออกพรรษา ก็ได้พาจุดประทับเล่นตามประสา ทำให้บ้านขิงนายองอาจซึ่งอยู่ข้างเคียงเกิดความไม่พอใจเนื่องจากเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาก่อนแล้วเพราะเคยพากันบุกใช้กรรไกรแทงพ่อของตนมาได้รับบาดเจ็บมาแล้วครั้งนึง เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จึงแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว และครั้งนี้ขณะกำลังอยู่ในบ้านก็มีกลุ่มของ นายองอาจ ซึ่งเป็นคนพิการมีแขนข้างเดียว พร้อมด้วยนางเพ็ญ ซึ่งเป็นเมียของนายองอาจนายเอก ลูกชายนายองอาจ และนายศักดา ญาติของนายองอาจพากันถือเสียม ถือมีด ถือฉมวกบุกเข้ามายังบ้านของตนในจำนวนนั้นมี 1 คนได้ล็อคแขนของพ่อตนไว้ส่วนที่เหลือก็พากันรุมทำร้าย ใช้ดามเสียงทุบ ฉมวกแทงเข้าที่ตาซ้ายของพ่อจนทะลุและที่ศรีษะ ส่วนที่ตั้งจมูกก็ถูกฟันด้วยมีดเป็นแผล 1


ต่อมา พนักงานสอบสวน ได้ลงตรวจสอบพื้นที่และควบคุม กลุ่มผู้ก่อเหตุไปสอบสวน แต่ปรากฏว่า มีนายองอาจ ซึ่งเป็นหัวโจกและเป็นคนพิการออกมารับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นคนทำให้พ่อของตนเสียชีวิตเพียงคนเดียว ตนยังข้องใจผ่านมาหลายเดือนแล้วคดีก็ยังไม่คืบที่สำคัญเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการส่งฟ้องฝากขังเฉพาะนายองอาจเพียงคนเดียวส่วนอีก 3 คนที่เหลือยังอยู่บ้านเฉยๆทั้งที่ตนกับแม่เห็นต่อหน้าต่อตาว่าทั้ง 4 คนร่วมกันทำร้ายพ่อของตนจนเสียชีวิต

จึงคิดว่าการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.พนมไพรไม่มีความโปร่งใสไม่น่าเชื่อถือเพราะเหตุใดอีก 3 คนยังอยู่บ้านเฉยเลยและไม่ถูกดำเนินคดีแต่อย่างไรคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงลงขอความช่วยเหลือกับเพจดังเดี๋ยวจัดให้

ก่อนจะพากันขี่มอเตอร์ไซค์จากบ้านเกิดเดินทางเข้ามาพบผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 70 กิโลเมตร เพื่อมาขอความเป็นธรรม
เบื้องต้นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดกล่าวว่า จะให้ความเป็นธรรม กับผู้เสียหาย และให้กลุ่มงานสอบสวนทำการพิจารณาตรวจสอบสำนวนก่อนว่าทางพนักงานสอบสวนได้ปฏิบัติเป็นไปตามกระบวนการหรือข้อกฏหมายหรือไม่
แต่อย่างไรก็ตามทาง สภ.พนมไพรได้ส่งเรื่องสรุปสำนวนฟ้องไปแล้ว แล้วเพียง 1 ราย และกำลังจะมีการยื่นประกันตัวออกไปสู้คดี
ส่วนกลุ่มผู้เสียหายบอกว่า เราไม่เชื่อว่าผู้พิการซึ่งมีแขนข้างเดียวจะสามารถฆ่าพ่อของตนเองได้ถ้าหากไม่มีผู้ร่วมกระบวนการ แถมตอนผู้ต้องหาถูกจับกุมได้อาฆาตจะฆ่าทุกคนในครอบครัวของพวกตนถ้าออกมาได้ทำให้พวกตนอยู่ในความหวาดกลัวและหวาดระแวง เมื่อทราบว่าเขากำลังเดินเรื่องจากประกันตัวเราก็ไม่สบายใจจริงมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมขอความคุ้มครองและพนักงานสอบสวนได้แจ้งให้ไปยื่นคัดค้านการประกันตัวต่อศาลซึ่งพวกตนก็ได้เดินทางเข้าไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ศาลแล้วแต่ไม่ทราบว่าผลจะเป็นอย่างไร

หมายเหตุ
เสียง นายสมชาย  ลูกชาย
พ.ต.อ.ศิรสัณห์ รอง ผบก.

ภาพ​/ข่าว​::พงษ์พัฒน์​ นาม​สอน​/ร้อยเอ็ด​