ข่าวพาดหัวร้องเรียน

ปทุมธานี – คนขับรถดินวอนจนท.กรมทางหลวงอย่าขับปาดหน้าเรียกจอดหวั่นเบรกไม่ทันชนเสียชีวิต

วันที่ 4 มี.ค.2567 ร.ต.ท. ภานุพงศ์ วงศ์รอด รอง สว.(สอบสวน) สภ.สวนพริกไทย ได้รับแจ้งจาก นายปรากรณ์ พิมพ์เสนอ นายช่างโยธาชำนาญงานกรมทางหลวง พร้อมกับเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงผู้จับกุม ร่วมจับกุม นายธวัฒชัย แซงขุนทด อายุ 61 ปี และยึดของกลาง รถยนต์บรรทุกยี่ห้อฮีโน่ เลขทะเบียน 879449 นคราชราชสีมา ที่ทางหลวงหมายเลข 346 จากจังหวัดอยุธยา นำไปส่งจังหวัดปทุมธานี ได้เข้าชั่งน้ำหนักโดยเครื่องชั่ง มีน้ำหนักรวมบรรทุก 29900 กก. ซึ่งพิกัดน้ำหนักตามกฎหมายสำหรับรถประเภทนี้ กำหนดไว้ที่ 25,000 กก.จึงเกินกว่าอัตราที่กฎหมาย จึงได้ยึดรถและคนขับได้ให้ประกันตัวไป 20,000 บาท


ด้าน นาง พวงชมพู แชงขุนทศ อายุ 57 ปี ชาวโคราช ภรรยานายธวัฒชัย แซงขุนทด เล่าว่า ตนและสามีมาจากโคราชมารับจ้างขับสิบล้อบรรทุกดินเพื่อไปส่งจากที่ต่างๆ วันนี้ตนและสามีได้ขับรถสิบล้อจากจังหวัดอยุธยามาส่งที่จังหวัดปทุมธานี ขณะที่ขับมานั้น มีกระบะ 2 คัน ขับไล่ตามมา พอดูคือเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงขับรถกระบะปาดหน้าเพื่อเรียกชั่งน้ำหนักรถดิน ตนและสามีตกใจมาก เพราะรถก็เก่ามาขับปาดหน้าแบบนี้มันอันตราย ตนเกรงว่ารถจะเบรกไม่อยู่และชนกับเจ้าหน้าที่จนเกิดการสูญเสีย ถ้าตั้งด่านตนก็จอดให้อยู่แล้ว ตนก็ต้องหาเช้ากินค่ำต้องส่งลูกส่งหลานเรียน เจ้าหน้าที่มายึดรถแบบนี้ตนก็เดือดร้อน แถมต้องถ่ายค่าประกันตัวสามีอีกไม่รู้เท่าไหร่ ไม่รู้จะมีจ่ายไหม ตนอยากจะฝากถึงอธิบดีกรมทางหลวงและเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง เวลาจะไล่จับรถควรจะตั้งด่านหรือหาวิธีจับที่ดีกว่านี้ไม่ใช่อยู่ๆขับปาดหน้าเลย ยิ่งสิบล้อเก่าๆยิ่งเบรกลำบากมันจะอันตรายต่อพวกท่านได้ แล้วอีกอย่างสิบล้อรถพ่วงคันใหญ่ทำไมไม่ไปวิ่งไล่จับ มาจับคันเดี่ยวๆแบบตนที่แบกน้ำหนักเกินไปนิดเดียว พวกรถพ่วงแบกเกินเป็นสิบๆตันไม่จับหรือเพราะตนไม่มีสติ๊กเกอร์ติดหน้ารถเลยโดนหมายหัว ส่วนรถที่มีสติ๊กเกอร์และบริษัทต่างๆที่ติดอยู่หน้ารถหลายบริษัทที่เป็นรถพ่วงบรรทุกน้ำหนัก 70-80 ตัน เกินกว่ากฎหมายกำหนดนั้นตนเห็น จอดตามข้างทางและปั้มน้ำมันตลอดถนนเส้น 347และถนนสายปทุมธานี-เสนา ฝั่งขาเข้าปทุมธานีจึงอยากจะแจ้งกรมทางหลวงว่าเวลาตาชั่งถอนด่านชั่งน้ำหนัก รถพวกนี้วิ่งกันเต็มไปหมด ฝากพรรคก้าวไกลมาช่วยตรวจสอบส่วยสติ๊กเกอร์หน้ารถบรรทุกใหม่อีกด้วยเพราะส่วยพวกนี้มันกลับมาใหม่แล้ว