เสื่อมเสีย วงการกู้ภัย ! หนุ่มจิตอาสาซื้อรถกู้ภัยและอุปกรณ์ตัดถ่างซึ่งจับได้ภายหลังเป็นรถที่เปิดรับบริจาค ประวัติคนขายสุดแสบฉายา “สท.ข้าวโอ๊ต“ เมืองแม่สะเรียง
จากกรณีที่ นายไมตรี แถมฉิมพลี กู้ภัยหนุ่มที่อยู่จังหวัดสมุทรปราการ ได้โพสต์แสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากรับ ซื้อรถกู้ภัย และ อุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง มาจาก หนุ่มกู้ภัยจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ จังหวัดแม่ฮองสอน แม่สะเรียง ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็น รถ และ อุปกรณ์ ที่รับบริจาคมาทั้งหมด ทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง และ อยากขอความเห็นใจกับเพื่อน ๆๆ พี่ ๆๆ กู้ภัย ซึ่งทาง นายไมตรี ไม่ทราบว่าเป็นของบริจาค
ส่วนทาง ผู้บริจาค อุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง นั้น เขาไม่เอาเรื่อง เพราะได้บริจาคไปแล้ว ของให้เป็นไปตามเวรกรรมไป ส่วน ผู้บริจาครถกู้ภัยนั้น ติดต่อไปทางเพจของผู้บริจาคแล้ว แต่ยังไม่มีการตอบกลับ
จากการสอบถาม นายไมตรี บอกกับทีมข่าวว่า ในตอนแรกอีกฝ่ายทักเฟสบุ๊คส่วนตัวของตนมา เพราะตนเป็นพ่อค้ารถมือสองและขายรถกู้ภัยด้วย ฝ่ายนั้นทักมาเพื่อที่จะขายรถกู้ภัยพร้อมอุปกรณ์ของตัวเอง แต่ตอนนั้นตนได้ทำธุระอยู่ไม่สะดวกตอบจึงบอกให้เขาส่งรูปทิ้งเอาไว้ ส่วนรายละเอียดเอาไว้ค่อยคุยกัน พอต่อมาตนไม่ได้ตอบ อีกฝ่ายเลยโทรเข้ามาหาเอง แล้วได้คุยราคา ฝ่ายนั้นขอมาที่ 200,000 บาท แต่ตนเองไม่สะดวกที่ราคานี้ เพราะเอาไปทำกำไรต่อไม่ได้ พอคุยต่อก็ จึงตกลงราคากันได้ที่ 105,000 บาท พร้อมเอามาส่งให้ พอรถมาถึง ตนเห็นจึงคิดว่าอยากจะเก็บรถคันนี้เอาไว้ใช้เอง เพื่อเอาไปวิ่งช่วยเหลือคน จึงเอาอุปกรณ์ไซเรนของตัวเองติดตั้งบนรถทั้งหมด และลองเอารถออกไปวิ่ง แต่พอวิ่งออกไปได้ซักพัก ความร้อนมันขึ้น น้ำในหม้อน้ำมันดันออกมา ตนเลยโทรไปคุยกับอีกฝ่ายว่าเครื่องยนต์รถมันมีปัญหานะ จะช่วยยังไงได้บ้าง สุดท้ายตนจึงเสนอไปว่าค่าซ่อมตนจะจัดการเอง แล้วให้อีกฝ่ายช่วยออกค่าอินเตอร์ 5,000 บาท แต่อีกฝ่ายก็บ่ายเบี่ยงอ้างว่าเงินอยู่กับพ่อ ตนก็แปลกใจ เพราะวันที่เขาเอารถมาขาย เขาบอกว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ตนก็ไม่อะไร พอถึงเวลาจะจ่าย อีกคนก็บ่ายเบี่ยง ตนเลยตัดสินใจโพสขายอุปกรณ์ตัดถ่าง ซึ่งตนตั้งใจจะเอามาขายอยู่แล้ว แต่รถจะเก็บเอาไว้วิ่งช่วยผู้ป่วย พอตนโพสขาย มีคนมาแชร์โพสนั้นของตน พร้อมโพสว่าซื้ออุปกรณ์ตัดถ่างวันนี้แถมฟรีกุญแจมือในวันข้างหน้า ตนก็เริ่มไม่สบายใจ และคิดว่ามันต้องมีอะไรแน่ ๆ จึงให้เพื่อนช่วยเช็กดูว่าอุปกรณ์พวกนี้มีที่มาที่ไปยังไง จนไปเจอว่าของพวกนี้เป็นของที่ได้รับบริจาคมาทั้งหมด แต่เขาเอามาขายให้เรา ตนจึงไปถามเค้นกับทางฝ่ายนั้นว่าได้ของพวกนี้มาได้ยังไง พอเค้นไปเค้นมา อีกฝ่ายจึงยอมรับว่าของพวกนี้เป็นของที่ได้รับบริจาคมาทั้งหมด
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมซื้อของมาได้ในราคาถูก ไม่เอะใจเลยเหรอ เจ้าตัวกล่าวว่าตนเองเป็นพ่อค้า ก็ต้องซื้อของมาในราคาที่ถูกอยู่แล้ว มันไม่ได้น่าแปลกใจ เจ้าตัวกล่าวต่อว่า พอติดต่อฝ่ายนั้นไปอีก เขาก็บอกว่าจะลองปรึกษาครอบครัวดู แล้วก็หายไปเลย ตนทักไปก็ไม่ตอบ โทรไปก็ไม่รับจนเขาบอกว่าจะออกมาแถลงการณ์ไลฟ์สดของตัวเอง เขาก็มาไลฟ์จริง ๆ แต่ก็เหมือนพูดไม่รู้เรื่อง ตนจึงขอเขาขึ้นไลฟ์ด้วย ให้คนอื่นได้เห็นชัด ๆ ให้ได้ฟังความของทั้งสองฝ่าย ว่าใครพูดจริงหรือพูดไม่จริง แต่เขาก็ไม่ยอม ตนจึงมาไลฟ์สดของตัวเองแจ้งรายละเอียดทุกอย่าง หลังจากนั้นเขาก็โทรติดต่อมาแต่ก็ยังคุยกันไม่รู้เรื่องอยู่ดี จนเมื่อคืนตนทักไปหาเขา ว่าให้เวลาถึง 8 โมงเช้าให้แจ้งตนว่าจะเอายังไง แต่จนถึงตอนนี้อีกฝ่ายก็ยังเงียบไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด
ในส่วนของผู้ที่บริจาคสิ่งของมา ตนได้แจ้งให้ฝ่ายนั้นทราบเรื่องในเบื้องต้นไปแล้ว แต่เดี๋ยวจะโทรไปคุยกันอีกที เพราะยังไม่ได้คุยรายละเอียดมากมาย เพราะทางนั้นก็เพิ่งจะรู้เรื่องนี้ก็ตอนที่ตนติดต่อไป หลังจากนี้ตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอายังไง เพราะเงินเสียไปกับตรงนั้นเยอะพอสมควร ถึงตนจะไม่ได้มีชื่อเสียงมากมายแต่ตนก็เป็นพ่อค้า มีคนรู้จักพอสมควร มันเสียหายมาก เพราะลูกค้าก็ไม่มั่นใจในตัวตนแล้ว
ตนอยากจะบอกกับอีกฝ่ายว่า ถ้าอยากเป็นอาสาสมัครต้องพร้อม ถ้าไม่พร้อมอย่าไปทำ อย่าไปร้องขอรับบริจาคจากใคร แต่ถ้ามีคนมาบริจาคให้ แล้วคุณคิดจะเลิกทำตรงนี้ ก็ควรจะเอาของไปบริจาคให้กับมูลนิธิใดก็ได้ อย่าเอามาขายแบบนี้ มันไม่ถูกต้อง และตนก็อยากจะฝากบอกคนในพื้นที่ ที่ทักเข้ามาหาตนว่าเคยโดนบุคคลนี้ทำอะไรเอาไว้บ้าง ก็อยากให้ช่วยออกมาพูดกับสื่อหน่อย ว่าอีกฝ่ายสร้างเรื่องอะไรเอาไว้
****************************