วันที่ 16 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองไม้แก่น ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ออกมาร่วมคัดค้านโครงการทำเหมืองแร่หินแกรนิต ของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านหนองไม่แก่น โดยการชูป้ายข้อความ”พวกเราไม่เอาเหมืองหิน” ก่อนการเข้าประชุมรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านที่บริษัทฯ จัดขึ้นในบริเวณพื้นที่โรงเรียนบ้านทุ่งเคล็ด ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
โดยชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นว่าการกระทำของหน่วยงานรัฐบางรายนำเอกสารมาปิดเพื่อลักหลับชาวบ้านนั้น มีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้บริษัทดังกล่าวเข้าลักหลับชาวบ้านโดยการจัดทำประชาพิจารรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านส่วนน้อยที่ไม่ได้รับผลกระทบหรือไม่ และหากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องยังคงดันโครงการเหมืองแร่ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านหนองไม้แก่นโดยไม่ฟังเสียงของประชาชน และเสียงคัดค้านของชาวบ้านในพื้นที่โดยรวม และหากบริษัทฯยังคงใช้เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่บางราย เป็นเครื่องมือสร้างความแตกแยกภายในชุมชน เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์อาจเกิดปัญหาขัดแย้งภายในชุมชนและครอบครัวโดยรวมเหมือนเช่นอดีตเคยมีโครงการจัดทำประชาพิจารโรงงานกำจัดขยะในพื้นที่หมู่7บ้านหนองไม้แก่นมาก่อนหน้า
โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ สำนักงานอุสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่สำนักงานอุสาหกรรมขั้นพื้นฐานและการเหมืองแร่ เขต 7 ราชบุรี เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบฯ ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองประจวบฯ เจ้าหน้าที่สำนักงาน ทสจ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ปข. 3 ห้วยทราย ทหารชุดปฏิบัติการพลเรือนที่ 112 บ้านด่านสิงขร หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ปข.2 วังยาว ศูนย์ป่าไม้ประจวบฯ และชาวบ้านผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เข้าสำรวจพื้นที่ข้อพิพาทการออกประทานบัตรการทำเหมืองแร่
โดยอ้างว่าตามหนังสือร้องเรียนของ นายกิตติ นามบุญลือ เรื่องขอคัดค้านการดำเนินการออกประทานบัตรทำเมืองแร่ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และคณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพข้อเท็จจริงหลังการฟื้นฟูพื้นที่การสำรวจแร่ตามเงื่อนไขอาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่ของบริษัทเมืองหินอธิภัทรจำกัด ว่าพื้นที่อาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่ที่ 5 / 2564 โดยมีสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเมืองแร่เขต 7 ราชบุรี ตรวจสอบพบว่าปัจจุบันที่มีการสำรวจภายหลังจากสิ้นอายุอาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่ที่ 5/2564 เมื่อเดือนมีนาคม 2566 มีการคืนสภาพพื้นที่ใกล้เคียงธรรมชาติโดยมีการปรับสภาพพื้นที่และมีการขุดกบหลุมเจาะสำรวจเรียบร้อยแล้วก่อนอาชญาบัตรสิ้นอายุ
นายกิตติ นามบุญลือ ผู้คัดค้าน พร้อมชาวบ้านเมื่อเข้าสำรวจพบว่า ข้อโต้แย้งร่องห้วยสาธารณะประโยชน์ที่มีการกั้น ยังไม่มีการคืนสภาพให้เหมือนเดิม การปลูกป่าจากปี 2564 ผู้ได้รับอาชญาบัตรรับปากว่าจะปลูกต้นไม้คืนให้มีสภาพดังเดิมแต่การตรวจสอบวันนี้ตรวจพบว่ายังไม่มีการปลูกต้นไม้และเคลียร์สภาพพื้นที่นั้นไม่เหมือนเดิม การรวมหินกองก็ยังคงอยู่สภาพเดิมตอนปีที่ได้รับอนุญาตอาชญาบัตร ยังไม่มีการปรับสภาพพื้นที่จากการตรวจสอบวันนี้หินยังกองอยู่เหมือนเดิมและลำห้วยก็ยังถูกปิดกั้นทางเดินน้ำที่นำไปสู่เขื่อนที่ชาวบ้านใช้เป็นน้ำประปา
พิสิษฐ์ รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 064-364-1644 รายงาน