ทหารปืนลั่นใส่วงเหล้าย่านเคหะบางพลี เปิดภาพ (วงจรปิด)
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธงได้รับแจ้งเหตุว่ามีนายทหารคนหนึ่งใช้ปืนยิงใส่วงสุราที่ส่งเสียงดังจนทำให้มีผู้บาดเจ็บหนึ่งราย ซึ่งสาเหตุมาจากวงสุราดังกล่าวเปิดเพลงเสียงดังแล้วฝ่ายของผู้ก่อเหตุแจ้งตำรวจมาระงับเหตุแล้วถึงสองครั้งพอตำรวจไปก็กลับมาเสียงดังอีก กระทั่งเจ้าตัวต้องออกมาขอร้องให้เบาเสียงลง โดยมีการสะพายกระเป่าปืนออกมาด้วยจนเกิดการยื้อแย่งปืนกันทำให้ปืนลั่นใส่หนึ่งในผู้ที่อยู่ในวงเหล้าจนได้รับบาดเจ็บ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงสาย วันที่ 17 มีนาคม 2567 ทีมข่าวเราได้เดินทางลงพื้นที่ในจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งพบว่าบ้านหลังที่นายทหารพักนั้นปิดบ้านเงียบไม่มีความเคลื่อนไหวใด ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุซึ่งทีมข่าวเราได้มานั้น จับภาพได้ในช่วงเวลาเกิดเหตุ จากภาพวงจรปิดจะเห็นว่า นายทหารรายนี้ ซึ่งสวมเสื้อสีน้ำเงินและสวมกางเกงขาสั้น เดินสะพายกระเป๋าข้างออกมาจากบ้านพักพร้อมภรรยา ก่อนที่ฝ่ายนายทหารรายนี้จะเดินไปหยุดกลางถนนหน้าวงสุราที่มีกลุ่มวัยรุ่นเกือบสิบคนตั้งวงสุราดื่มกินกันอยู่ จากภาพวงจรปิดจะเห็นว่านายทหารรายนี้ยืนพูดคุยอะไรกับกลุ่มวัยรุ่นในวงสุราก่อนจะเกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้นซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงที่มีเสียงปืนดังขึ้น ทำให้ฝ่ายภรรยาต้องรีบเข้าไปห้ามปรามและกันนายทหารรายนี้กลับเข้าบ้านพักไป ส่วนผู้บาดเจ็บหลังถูกคมกระสุนเพื่อนๆได้พาขึ้นรถเก๋งสีขาวตามกล้องวงจรปิด ไปส่งโรงพยาบาลทันที ขณะที่ นายทหารผู้ก่อเหตุรายนี้ คือ เรืออากาศโท ทีมข่าวเรามีโอกาสได้สัมภาษณ์ให้เจ้าตัวออกมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า คืนวันเกิดเหตุ ก่อนจะเกิดเรื่อง ตนเองประมาณสองทุ่มของทุกวันจะต้องทานยาคลายเครียดและยากรมประสาทตามที่แพทย์สั่ง ซึ่งทานมากว่าสิบปีแล้ว อันเนื่องมาจากตนเองและครอบครัวต้องเจอปัญหาสภาพจากปัญหาเรื่องวงสุราทั้งไทยและต่างด้าวพากันดื่มกินและส่งเสียงดังเป็นประจำโดยเฉพาะช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ตนเองและครอบครัว จะพากันพักผ่อนก็ไม่ได้พัก เพราะเสียงดัง มาตลอดกว่าสิบปี จนตนเองเกิดภาวะเครียดสะสมจนต้องเข้ารับการรักษาที่รพและแพทย์ให้ทานยามาตลอด
พอมาวันเกิดเหตุ วงสุราเสียงดังตั้งแต่ช่วงกดโมงเย็น ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่นานคงจะแยกย้ายหรือเบาเสียง กระทั่งเกือบสามทุ่มก็ยังเสียงดัง ตนเองจึงให้ภรรยาโทรแจ้งตำรวจให้มาตักเตือน โทรแจ้งตำรวจถึงสองครั้ง ตำรวจมาเตือนจริง แต่พอตำรวจไปก็กลับมาเสียงดังเหมือนเดิม ตนเองซึ่งพอทานยาไปก็ด้วยฤทธิ์ยาที่ค่อนข้างง่วง อยากจะพักผ่อน แต่พอเตือนแล้ว ไม่ฟังไม่หยุดเสียงดัง ตนเองจึงตั้งใจออกมาเพื่อเตือนและขอให้ลดเสียง แต่ด้วยวงสุรามีคนจำนวนมากจึงต้องเอาปืนติดตัวออกมาเพื่อป้องกันตัว และไม่มีเจตนาที่จะนำปืนอกมาก่อเหตุแต่อย่างใด จังหวะที่ออกไปยืนพูดคุยปรากฏว่ากลุ่มวงสุราพากันเข้ามาประชิดตัว เพื่อแย่งปืนจนเกิดการยื้อแย่งปืน และปืนลั่นไปหนึ่งนัด หลังสิ้นเสียงปืนภรรยาจึงพาตนเองกลับเข้าบ้าน เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ด้วยฤทธิ์ยา ที่ทำให้เกิดอาการง่วงมากจึงเข้าไปพักรอในบ้าน และตั้งใจจะมามอบตัวในวันรุ่งขึ้น แต่มาทราบภายหลังว่าผู้กำกับมาเองด้วยความเกรงใจผู้กำกับจึงเดินออกมามอบตัวด้วยความเต็มใจ
ส่วนข้อหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา คือ พยามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธปืน และยิงปืนในที่สาธารณะนั้น ตนเองปฏิเสธในข้อหา พยามฆ่าและไม่มีเจตนาก่อเหตุ หลังจากนี้ ขอให้เป็นเรื่องของขบวนการทางกฎหมาย ซึ่งจะต้องรอนายทหารรัฐธรรมนูญมารับตัวสอบปากคำ
ส่วนอาการของผู้บาดเจ็บเบื้องต้นตรวจสอบกับทางพนักงานสอบสวนแล้วล่าสุดอาการปลอดภัยดี กระสุนเข้าที่เอวซ้ายเฉี่ยวทะลุหนังด้านในไม่ถูกอวัยวะสำคัญแต่อย่างใด
*********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ
