อุบัติเหตุ

วินาศสันตะโรรถสิบล้อตู้คอนเทรนเนอร์เสียหลักพุ่งชนรถกระบะแล้วพุ่งขึ้นไปชนเสาไฟฟ้าหักหน้าตลาดพ่อค้าแม่ค้า เจ็บ 5 ราย ย่านดาวคะนอง

วินาศสันตะโรรถสิบล้อตู้คอนเทรนเนอร์เสียหลักพุ่งชนรถกระบะแล้วพุ่งขึ้นไปชนเสาไฟฟ้าหักหน้าตลาดพ่อค้าแม่ค้า เจ็บ 5 ราย ย่านดาวคะนอง

วันที่ 21 มีนาคม 2567 เวลา 19.40 น.

ร้อยตำรวจโท ธนโชติ จันทร์ป๋า รอง สว.สอบสวน สน.บุคคโล รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชน หน้าตลาดสุวรรณเกลียวทอง ถนน เจริญนคร และภายในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย มีเสาไฟฟ้าหักโค่น จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าตลาดสุวรรณเกลียวทอง ถนน เจริญนคร แขวง ดาวคะนอง เขต ธนบุรี กรุงเทพมหานคร

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกสิบล้อตู้คอนเทรนเนอร์ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 79-9135 กรุงเทพมหานคร ( ป้ายเหลือง ) ของบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง อยู่ในลักษณะจอดเกยฟุตบาทอยู่ บริเวณหน้ารถสิบล้อคันดังกล่าวพบรถกระบะตู้ทึบของบริษัทน้ำดื่มเอกชนแห่งหนึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 3 ฒฬ 2678 กรุงเทพมหานคร ลักษณะพังเสียหายยับเยินทั้ง 2 คัน และพบเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ติดคาอยู่บนหลังคาตู้ของรถบรรทุกสิบล้อในสภาพหักขาดครึ่งชิ้นส่วนของบนเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าวหลุดกระจัดกระจายตามพื้นถนน ของเหลวในหม้อแปลงไฟฟ้าไหลเจิ่งนองเต็มพื้นถนนและบนเสาไฟฟ้าพบกระแสไฟฟ้าที่กำลังสปาร์คกันเพราะสายไฟแรงสูงขาดออกจากหม้อแปลงไฟฟ้า จนมีแสงเพลิงและกลุ่มควันเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวดับสนิทส่งผลกระทบกับประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงใช้น้ำยาถังเคมีทำการระงับเหตุเพลิงไหม้เสาไฟฟ้าใช้เวลา 20 นาทีแสงเพลิงจึงสงบลง และทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงเร่งรีบทำการตัดกระแสไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวเป็นการเร่งด่วนเพื่อให้อาสาสมัครกู้ภัยนำรถยกมาลากจูงรถทั้งสองคันออกจากบริเวณดังกล่าว เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทำการเปลี่ยนเสาไฟฟ้าให้กับประชาชนเพื่อเร่งจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวได้มีกระไฟฟ้าได้ใช้งานกันอย่างปกติโดยเร็วที่สุด และจากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบว่ารถบรรทุกสิบล้อคอนเทรนเนอร์ได้ไปเบียดซุ้มร้านอาหารของตลาดได้รับความเสียหายไปถึง 7 ร้าน แต่ละร้านก็จะได้รับความเสียหายมากน้อยแตกต่างกันไปแต่ที่สำคัญเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีพ่อค้า แม่ค้า ที่ขายของอยู่บริเวณซุ้มร้านอาหารนั้นได้รับบาดเจ็บไปถึง 5 ราย แบ่งเป็น ชาย 2 ราย หญิง 3 ราย อาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นภายในที่เกิดเหตุแล้วนำส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสุขสวัสดิ์เป็นการเร่งด่วน ส่วนถัดมาจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ BMW สีน้ำเงิน ทะเบียน 4 ขธ 1429 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งสนิทอยู่กับที่ และต่อมาพบว่ารถยนต์หรูคันดังกล่าวก็ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกัน บริเวณซุ้มล้อหลังด้านซายฉีกขาดเป็นรู และกันชนด้านหลังบุบ เจ้าของรถยนต์หรูอยู่ระหว่าติดต่อเจ้าหน้าที่ประกันภัยให้เร่งเข้ามาตรวจสอบความเสียหายของตัวรถ

และจากการสอบถามแม่ค้าขายปลาเผาและผลไม้ บอกว่า ตนและแฟนก็กำลังขายของให้ลูกค้าอยู่แล้วเห็นรถกระบะจอดอยู่ สักพักรถตู้คอนเทรนเนอร์ก็ชนท้ายรถกระบะและเลยมาชนเสาไฟ ไฟก็ดับ ตนเห็นแบบนั้นก็ตกใจ วิ่งหนีกัน แฟนตนก็รีบวิ่งหนี จนสะดุดล้ม เพราะของในร้านเยอะ พอรู้เห็นเหตุการณ์สักพัก แฟนถึงได้รู้สึกเจ็บที่ขา ส่วนตนก็เจ็บจี๊ดที่ท้อง เลยไม่แน่ใจว่าต้องรีบหนี ได้ไปชนกระแทกอะไรมั้ย

ส่วนทางด้าน คนขับรถกระบะ บอกเล่าว่า ตน ภรรยาและเพื่อนๆ เลิกงานแล้วก็มานั่งกินข้าวกันที่ตลาดนี้ เพราะโรงงานที่ทำอยู่ใกล้ๆนี้ สักพักนึงก็ได้ยินเสียงดังสนั่น พอมองไปก็เห็นรถตู้ทึบคอนเทรนเนอร์ชนเสาไฟและไฟฟ้าก็ดับหมดเลย หม้อแปลงก็มีไฟไหม้บนเสาไฟ ตนจึงออกมาดู ตอนแรกก็ไม่คิดว่ารถตนจะโดนไปด้วย แต่ออกมาไม่เห็นรถตนที่จอดไว้ พอเดินไปดูข้างหน้า ก็เห็นว่า รถตนโดนชนและลากไปสภาพแบบนี้เลย ตนทำงานส่งน้ำดื่ม

ส่วนทางด้านพ่อค้าร้านขายโจ๊ก บอกเล่าว่า ตนกำลังต้มโจ๊กให้ลูกค้า ก็มือถือหม้อคนโจ๊กอยู่ แล้วจู่ๆก็มีรถตู้คอนเทรนเนอร์พุ่งขึ้นมาชนรถกระบะและเสาไฟขึ้นมาบนฟุตบาท หม้อไฟหล่นลงมาที่พื้น ไฟดับ ตนก็ตกใจหันวิ่งหนีมือก็ยังถือหม้อ อยู่ก็ล้มลง เข่าทั้งสองข้างกระแทกพื้น พอนึกได้ว่าลืมปิดแก๊ส วิ่งเข้าไปปิดอีก แล้วหม้อไฟบนเสาไฟก็มีไฟลุกขึ้น ตอนนั้นก็มีลูกค้าอยู่นะ บางคนก็สั่งแล้วบอกเดี๋ยวมาเอา ตนก็กำลังทำให้ ลูกค้าที่เดินไปมาก็รีบหนีกัน

และทางด้านผู้ขับรถสิบล้อตู้คอนเทรนเนอร์ บอกเล่าว่า ตนขับมาจากเพชรเกษมจะไปส่งของที่ลาดกระบัง พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีรถกระบะตัดหน้าตน ตนจึงเสียหลักไปชนรถกระบะที่จอดอยู่ริมฟุตบาท และก็ไปชนเข้ากับเสาไฟอีกทีนึง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวต้องตรวจสอบจากพยานและสภาพแวดล้อม พร้อมทั้งต้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนและจะต้องเชิญคู่กรณีทั้งหมดมาสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สน.บุคคโล แล้วจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป