เมื่อเวลา 11.00 น วันที่ 24 มีนาคม 2567
ร.ต.ท.พชร ปุ้มฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน)สน.บางขุนเทียน รับเเจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บ ภายในร้านอาหารตามสั่ง ซอยเอกชัย 66 แขวง คลองบางพลาน เขต บางบอน กรุงเทพมหานคร ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 31/120 เปิดเป็นร้านอาหารตามสั่งชื่อ ครัวดีบางบอน พบร่าง น.ส.พรพิมล อายุ 64 ปี มีบาดเเผลถูกเเทงบริเวณหน้าอก 2 เเผล กู้ชีพได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตังส่งโรงพยาบาลมะลิ เเต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งขณะเดียวกันทราบว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ห้องพัก เลขที่ 73/90 ชั้น 7 ของคอนโด อยู่ฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังฝ่ายป้องกันและปราบปรามพังประตูเข้าควบคุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นาย วรพงษ์ อายุ 67 ปี จากการตรวจค้นพบอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ เป็นมีดพับปลายเเหลม จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบถามเบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การวกไปวนมา พยายามมีการอ้างตัวว่าตัวเองเป็นตำรวจยศนายพล และบอกว่า “ผู้การจะต้องมารับผิดชอบในความปลอดภัยของตัวเองนะ” ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีที่ สน.บางขุนเทียน
จากการสอบถาม น.ส.ตา หรือป้าตา แม่ค้าขายอาหารจุดเกิดเหตุ เผยว่า นายวรพงษ์ ผู้ก่อเหตุ เดินมานั่งในร้านก่อนนั่งเฉยๆอยู่หน้าพัดลม ยังไม่ได้สั่งอาหารอะไรกิน จากนั้น น.ส.พรพิมล ผู้เสียชีวิตได้เดินเข้ามาในร้าน สั่งแกงจืด และไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะลุกไปหันพัดลมที่ผู้ก่อเหตุนั่งจ่ออยู่หันไปทางโต๊ะที่ผู้ตายนั่ง ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจลุกขึ้นพุ่งเข้าไปใช้มีดแทงทันที โดยที่ยังไม่ทันได้มีปากเสียงอะไรกันเลย ทั้งนี้นายวรพงษ์ เขาชอบมานั่งเฉยๆ บ่อยครั้งและไม่ได้สั่งอาหารกินแต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะรู้ว่าสภาพจิตดูไม่ค่อยปกติ และที่ผ่านมาก็มักจะเห็นพกมีดติดตัวไว้เป็นประจำ เท่าที่ทราบทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตทั้งสองคนจะมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปแต่ไม่เคยมีเหตุรุนแรงมาก่อน
ส่วนทางด้าน ผู้จัดการนิติบุคคลคอนโด กล่าวว่า เท่าที่ตัวเองทราบผู้ก่อเหตุอยู่ที่คอนโดแห่งนี้มานานมากกว่า 10 ปี อาศัยอยู่คนเดียว นานๆ ครั้ง ลูกชายจะเข้ามาดูแล ซึ่งผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิต และที่ผ่านมาเขามักจะออกไปข้างนอกเพื่อไปหาอาหารกินตามปกติ แต่ยังไม่เคยถึงขั้นไปทำร้ายร่างกายใครแบบนี้ ส่วนพฤติกรรมของชายคนนี้ เท่าที่คอยสังเกตจะเห็นว่าผู้ชายคนนี้ชอบไปด่าว่าชาวบ้านในพื้นที่ และเขายังชอบพกมีด ติดตัวไว้เป็นประจำ ในอดีตผู้ชายคนนี้ยังเคยไปทุบตีกระจกของคอนโดจนเสียหาย ที่ผ่านมาครอบครัวก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรได้ จึงอยากให้ครอบครัวของผู้ชายคนนี้มาช่วยดูแลผู้ชายคนนี้ต่อ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดเหมือนกันว่าจะใช้มีดแทงคนเสียชีวิต เพราะจากพฤติการณ์ที่ผ่านมา ดูไม่ได้เลวร้ายขนาดนี้ เหตุการณ์ในวันนี้อยากให้ญาติหาที่อยู่ใหม่ เพราะหากอยู่ร่วมกับลูกบ้านที่คอนโด ในอนาคตอาจจะสร้างอันตรายให้กับลูกบ้านคนอื่นได้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุเบื้องต้นก็พอพูดจารู้เรื่อง ยอมรับว่าผู้ก่อเหตุเคยมีปากเสียงกับผู้เสียชีวิตมาก่อน ก่อนเกิดเหตุไปซื้อข้าว ระหว่างนั่งรอ ทันใดนั้นคู่กรณีได้เดินมานั่งและแย่งพัดลมตรงจุดที่นั่งอยู่ทำให้โมโหใช้มีดแทงไปที่หน้าอก 2 แผล จนเสียชีวิต แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นฯกับพกพาอาวุธมีดฯ ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านบอกว่าผู้ชายคนนี้มีอาการป่วยทางจิตเวชตำรวจจะติดต่อให้ญาตินำหลักฐานหรือเอกสารมายืนยันว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวชจริงหรือไม่ และจากการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้พบว่าเคยเป็นตำรวจหรือข้าราชการแต่อย่างใด คาดว่าที่ผู้ก่อเหตุอ้างตัวเป็นตำรวจมาจากอาการทางจิตเวชก็เป็นได้
ทั้งนี้ระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัวนายวรพงษ์ ไปที่ห้องกักขังผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ผู้ก่อเหตุไม่ตอบคำถามใดๆ แต่ผู้ก่อเหตุได้หันไปทำท่า “วันทยหัตถ์“ ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย