หนุ่มช่างทองง้อเมียไม่สำเร็จ จอดรถรมควันตัวเองดับใต้ต้นมะขามเทศหลังวัด
วันที่ 31 มีนาคม 2567 เวลา 20.37 น.
ร้อยตำรวจเอก เดชอุดม อ่อนยิ่ง รอง สว.สอบสวน สน.เทียนทะเล รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสาเหตุจากการรมควัน จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อม แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดอยู่บริเวณลานดินหลังวัดหัวกระบือ เลขที่ 77 ซอย เทียนทะเล 19 ถนน บางขุนเทียนชายทะเล แขวง ท่าข้าม เขต บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ มาสด้า 2 สี เขียว ทะเบียน 1กฎ 7066 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งสนิทอยู่บริเวณใต้ต้นมะขามเทศ จากการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ในสภาพนอนตะแคงซ้ายอยู่ตรงบริเวณเบาะด้านหลังรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งลักษณะ การแต่งกายสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา กางเกงยีนส์ขายาวสามส่วน ไม่สวมรองเท้า ซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 35 ปี มีอาชีพทำงานเป็นช่างทอง บริเวณด้านล่างของเบาะพบขวดเบียร์ ที่ดื่มหมดแล้ว 1 ขวดตกอยู่บนพื้นพร้อมกระดาษทิชชู่ 1 ม้วน และถัดมายังพบกับรองเท้าแตะสีดำ 1 คู่ ส่วนบริเวณด้านหน้ารถด้านซ้ายพบเตาถ่าน 1 ใบวางเอาไว้ที่พื้นของรถยนต์คันดังกล่าวและมีเศษถ่านที่จุดเอาไว้แล้วจนมอดไหม้เป็นขี้เถ้าไปแล้วเป็นบางส่วน และยังพบว่าภายในรถยนต์คันดังกล่าวเปิดแอร์ทิ้งเอาไว้อีกด้วย แต่ทว่าประตูรถยนต์ทั้งสี่บานไม่ได้ล๊อคเอาไว้ ส่วนใกล้เคียงกับรถยนต์คันดังกล่าวตรงประตูหลังด้านซ้ายบนพื้นดินก็มีขวดเบียร์ที่ดื่มหมดแล้วตกอยู่บนพื้นดินอีก 1 ขวด เช่นกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานจึงบันทึกภาพถ่ายภายในที่เกิดเหตุทั้งหมดเอาไว้เป็นหลักฐาน
และจากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่หลังวัด อายุ 47 ปี เป็นคนเจอศพคนแรก บอกเล่าว่า ตนเห็นมาจอดรถตรงนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วตอนตนเลิกงานมาแล้วเดินเข้าบ้าน พอมาวันนี้ ก็ยังเห็นจอดอยู่ เพราะปกติจะไม่มีรถมาจอด พอตนเดินมาดูเห็นสตาร์ทรถไว้แต่มองไม่เห็นคนอยู่ข้างใน ตนจึงเดินกลับไปตามเพื่อนอีก 2 คนมาดูด้วยกัน พอเอาไฟส่องดูข้างใน เห็นมีคนนอนอยู่เบาะหลัง ก็เปิดประตูดูว่า เค้าเป็นอะไร มันผิดสังเกตที่เปิดสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้นี่แหละ เปิดทิ้งตั่งแต่เมื่อวานตอนเย็น เพื่อนก็ช่วยกันส่องอีกฝั่งนึงเห็นเตาอยู่ก็ใช่เลย ก็เลยโทรแจ้ง 191 และ แจ้งพระให้ทราบเรื่องไว้ วันนี้พระก็ยังทำงานอยู่ใกล้นี่ แต่ไม่ได้มาดูที่รถกัน
ส่วนทางด้าน แฟนสาวของผู้เสียชีวิต อายุ 35 ปี บอกเล่าว่า อยู่กินกันมานานแล้ว ประมาณ 16 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน แต่ส่งไปอยู่ต่างจังหวัด มีเรื่องทะเลาะกันจนตนเป็นฝ่ายบอกเลิก แต่ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเดียวกันแบบต่างคนต่างอยู่ เมื่อวานตนกลับเข้าบ้านไปตอนบ่ายโมง เค้าก็ยังอยู่ แต่ตนนอนหลับ เพราะต้องออกไปทำงานตอน 4 ทุ่ม พอตนออกไปทำงานเค้าก็ยังอยู่ นั่งเล่นโทสับอยู่ แต่ตอนตี 3 เค้าไลน์มาหามาบอกว่า พี่จะเป็นฝ่ายไปเอง ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร ตนกลับบ้านไปอีกทีเลิกงาน 11 โมงก็ไม่เจอไม่เห็นแล้ว ไม่รู้ว่าออกไปไหน
เบื้องต้นจากการตรวจสอบสภาพร่างของผู้เสียชีวิตไม่พบบาดแผลบริเวณภายนอกร่างกาย และไม่พบร่องรอยจากการถูกทำร้าย และบริเวณโดยรอบก็ไม่พบร่องรอยจากการต่อสู้ ส่วนสภาพร่างของผู้เสียชีวิตเริ่มแข็งแล้วจึงคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชั่วโมง จึงมอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ก่อนที่จะให้ญาตินำเอกสารมาติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
