ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

คืบหน้า แม่พาลูกชายวัย 10 ปี ร้องสื่อหลังถูกเพื่อนรุ่นพี่ใช้เจลแอลกฮอล์ล้างมือราดก่อนจุดไฟเผา

ผกก. เผย ทางด้านคดีเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอน แต่ฝ่ายผู้เสียหายเลื่อนนัดทางเจ้าหน้าที่มาตลอด
จากกรณี ที่ แม่พาลูกชายวัย 10 ปี ร้องสื่อหลังถูกเพื่อนรุ่นพี่ วัย 15 ปี ใช้เจลแอลกฮอล์ล้างมือราดก่อนจุดไฟเผาจนเป็นแผลฉกรรณ์ ผ่านมาเกือบเดือน คดียังไม่คืบแถมคู่กรณียังไม่มารับผิดชอบ ที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา วันที่ 1 เมษายน 2567 ทีมข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อติดตามความคีบหน้าของคดีดังกล่าว โดยเบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้นัดคู่กรณีมาให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือง ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เผยว่า กล่าวว่าหลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการเชิญตัวของผู้ก่อเหตุมาแล้ว ซึ่งทราบเรื่องที่เกิดขึ้นก็คือเด็กสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันและได้นอนที่กุฏิวัดดังกล่าว และ ได้มีการเล่นการโดนการเอาแอลกอฮอล์มาจุดไฟเผา ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เชิญตัวผู้ก่อเหตุมาที่โรงพักตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งความแล้ว และ หลังจากมีการดำเนินการนัดสอบปากคำทั้งตัวเด็กและแม่เด็กแล้ว แต่ทางนั้นก็มีการเลื่อนการสอบปากคำมาแล้วสองครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งก็มีการนัดกับพนักงานสอบสวนแล้ว แต่ตัวแม่เด็กก็ให้เหตุผลในการเลื่อนกับพนักงานสอบสวน ก็ไม่ได้มีการมาประสานกับพนักงานสอบสวนอีก ได้มีการโทรติดตามให้เข้ามาสอบปากคำแต่ก็มีการนัดเลื่อนเรื่อยมา ยังกล่าวอีกว่าทางเจ้าหน้าที่มีการติดต่อทางไลน์กับตัวแม่เด็กตลอดแต่ตัวแม่เด็กเองก็เลื่อนนัดสอบปากคำมาแล้วสองครั้ง รวมถึงทางร้อยเวรก็มีการได้บอกกับตัวแม่เด็กเองว่าถ้าสะดวกจะเข้ามาเมื่อไหร่ก็เข้ามาได้เลย ส่วนขั้นตอนการดำเนินการ ก็ได้มีการบันทึกการมอบตัวของผู้ต้องหาเรียบร้อยแล้วในคดีนี้ ส่วนตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ขั้นตอนการสอบเด็กกับสหวิชาชีพ ส่วนตัวแม่เด็กก็ได้สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว


ส่วน นายเกรียงไกร แดงจันทึก ( สงวนชื่อ พ่อของเด็ก อายุ 15 ปี ที่ถูกอ้างถึง ) เล่าว่า เหตุการณ์วันนั้นเป็นงานวันสุดท้าย คือวันที่ 4 มีนาคม เด็กได้มีการแกล้งกัน แกล้งเด็กคนที่กำลังหลับ ลูกชายของตนได้เล่าให้ฟังว่า วันนั้นหมอนอยู่ที่ตัก เด็กที่จุดไฟบอกให้ลูกชายจุดไฟแต่ลูกชายของตนปฏิเสธ และ บอกว่าถ้าจุดไฟก็เป็นคนผิดสิ หลังจากนั้น เด็กที่เป็นคนจุดไฟก็ทำการจุดไฟใส่หมอนน้องเลย ส่วนที่ไฟไปติดเสื้อน้องได้อย่างไร ลูกชายเล่าว่าเจ้าตัวได้เอาแอลกอฮอล์ลาดไปที่หมอนแล้วไฟมันก็เลยลามติดเสื้อน้อง หลังจากนั้นน้องตื่นมาเพราะร้อน ลูกชายตนจึงโยนหมอนทิ้งและไปช่วยถอดเสื้อน้องที่ไฟกำลังลุก แล้วก็พาน้องอาบน้ำเพื่อให้ดับความร้อน ในระหว่างนั้นพระก็มาเพราะได้ยินเสียงดัง จึงรีบบอกให้เด็กไปหาว่านหางจระเข้และยาสีฟัน เพื่อจะเอามาทาตัวน้อง สักพักเด็กคนที่จุดไฟบอกว่าอย่าบอกใครนะ จากที่ได้ฟังคำบอกเล่า ตนก็ไม่เข้าใจว่าวันนั้นตัวพระเองก็อยู่ทำไมถึงไม่รีบบอกแม่เด็กในเมื่อพระก็เป็นน้า แต่พระก็ไม่บอก จนเรื่องมาแดงขึ้นในอีก 2 วันให้หลัง ตัวผู้เป็นแม่เขามาเสียงดังที่บ้านตนไปหาลูกชายตน และพาลูกของตนไป โดยที่ตัวแม่เองยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนจุด ตนเลยไปตามที่โรงพัก และ ถามเด็กที่จุดไฟว่าตกลงแล้วใครทำ เด็กคนนั้นก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนจุด


หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็กลับไปและนำตัวเด็กที่ถูกจุดไฟไปรักษาแล้วก็มาแจ้งความจับลูกชายตน ตนก็เพิ่งจะมารู้เมื่อวาน เรื่องนี้ตนก็ได้คุยกับเด็กที่จุดไฟว่าไปทำแบบนั้นทำไม รู้ไหมว่ามันผิด ก็อธิบายให้เด็กฟัง กลายเป็นว่าแม่เด็กเข้าใจว่าตนไปสอนให้เด็กเข้าใจว่าความผิดทุกอย่างอยู่ที่ลูกชายของตน จนกลายเป็นว่าข่าวที่ออกมาพุ่งประเด็นไปที่ลูกชายของตนเพียงฝ่ายเดียว
นายเกรียงไกร กล่าวต่ออีกว่าตนไม่ยอมอยู่แล้ว เพราะลูกชายของตนเพียงแค่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ได้เป็นคนจุดไฟ ตัวลูกชายของตนเป็นเด็กที่สมองเพียง 90 % เป็นเด็กสมาธิสั้น ทำอะไรอาจจะทำตามคำสั่งคนอื่น ตนถามย้ำกับลูกชายหลายรอบ ก็ได้คำตอบเดิม ๆ ว่าคนจุดไฟเป็นเด็กอีกคนไม่ใช่ตัวเอง เจ้าตัวย้ำอีกว่าถ้าสุดท้ายแล้วลูกชายตนต้องเป็นคนผิดเพียงผู้เดียวตนก็จะไม่ยอม ก็ไปเจอกันที่ศาล ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์และก็ไม่ได้อยากให้สัมภาษณ์ แต่ก็ต้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย เพราะลูกชายไม่ได้เป็นคนจุดไฟแต่ทำไมถึงมาเอาเรื่องกับลูกชายตนแค่ฝ่ายเดียว
************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ