พ่อเมืองร้อยเอ็ด เผย อำเภอธวัชบุรี เข้ม! ใช้มาตรการเชิงรุกทุกรูปแบบ หนุนพลังด่านครอบครัว-ชุมชน ช่วย “ลดเจ็บ ลดตาย ลดอุบัติเหตุ” ช่วงเทศกาลสงกรานต์
วันจันทร์ ที่ 15 เมษายน 2567 นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุในวันที่สี่ของช่วงควบคุมเข้มข้น (14 เมษายน 2567) มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 6 ครั้ง บาดเจ็บ 6 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยข้อมูลสะสม 4 วัน (11-14 เมษายน 2567) เกิดอุบัติเหตุ 21 ครั้ง บาดเจ็บ 20 ราย เสียชีวิต 10 ราย โดยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ การขับรถเร็วตัดหน้ากระชั้นชิด และดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับยานพาหนะ ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ ยังเป็นรถจักรยานยนต์ คิดเป็นร้อยละ 65.63 เหตุเกิดในพื้นที่ 11 อำเภอ คือ อ.หนองพอก 4 ครั้ง อำเภอธวัชบุรี 3 ครั้ง อำเภอเสลภูมิ เชียงขวัญ อาจสามารถ และทุ่งเขาหลวง อำเภอละ 2 ครั้ง อำเภอโพนทอง โพนทราย เกษตรวิสัย เมืองร้อยเอ็ด และจตุรพักตรพิมาน อำเภอละ 1 ครั้ง อำเภอที่มียอดผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ อำเภอธวัชบุรี 4 ราย รองลงมา คือ อำเภอเสลภูมิ 3 ราย
ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลสถิติดังกล่าว ตนจึงได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอเร่งขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุในทุกพื้นที่ โดยใช้กลไกในระดับท้องที่ คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการเพิ่มความเข้มข้นของการปฏิบัติของด่านชุมชน และด่านครอบครัว โดยกำชับให้มีการดำเนินการเชิงรุกในการกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งการดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับ ขับรถเร็ว การใช้อุปกรณ์นิรภัย และการขับขี่ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย พร้อมสั่งการให้ฝ่ายปกครองแจ้งกำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย จัดกิจกรรมบูรณาการและขับเคลื่อนร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างความตระหนักให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กและเยาวชนในหมู่บ้านของตนเอง เพื่อยับยั้งและป้องกันการเคลื่อนตัวออกสู่พื้นที่เสี่ยง ทั้งจากการขับรถด้วยความเร็ว ความคึกคะนอง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนเป็นเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตในช่วงที่ผ่านมา
ด้านนายดำรงค์ศักดิ์ นาคีสังข์ อำเภอธวัชบุรี กล่าวว่า จากข้อมูลอุบัติเหตุสะสม 4 วัน ที่ผ่านมา อำเภอธวัชบุรีเกิดอุบัติเหตุขึ้นจำนวน 3 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย และเสียชีวิต 4 ราย โดยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ตัดหน้ากระชั้นชิด ขับรถเร็ว และดื่มสุรา ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ เป็นรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะในกรณีของการเกิดอุบัติเหตุหมู่ บริเวณหน้า ปั๊ม ปตท. ข้างโรงเรียนธีรธาดา ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุ 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 4 ราย ซึ่งต่อมาผู้บาดเจ็บดังกล่าวได้เสียชีวิต 3 ราย โดยผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 15-21 ปี และเป็นกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นคนในพื้นที่และอำเภอใกล้เคียง
นายอำเภอธวัชบุรี กล่าวต่อว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนของอำเภอธวัชบุรีดังกล่าวข้างตน ทางศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนอำเภอธวัชบุรี จึงมีการประชุมหารือและได้วางแผนบูรณาการทำงานร่วมกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 13 แห่ง ในพื้นที่ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการจัดตั้งจุดตรวจของด่านชุมชนในเส้นทางสายรองเส้นทางเข้าออกชุมชน ถนน อบต.และหมู่บ้าน เพื่อป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนตั้งแต่ต้นทาง เพื่อป้องปรามผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะดื่มแล้วขับและขับรถเร็วในกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ รวมถึงประเมินความพร้อมของสภาพร่างกายของผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการหลับในและดื่มแล้วขับ พร้อมกวดขันกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ให้สวมหมวกนิรภัยและไม่ขับขี่ด้วยความคึกคะนอง รวมถึงตรวจสอบความปลอดภัยของรถจักรยานยนต์ และรถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารในลักษณะเสี่ยงอันตราย นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงจัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจตราบริเวณสถานที่จัดงานสงกรานต์ตามประเพณีและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันที่ประชุม ศปถ. อำเภอธวัชบุรี ยังได้มีการประสานการปฏิบัติกับฝ่ายตำรวจ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการกวดขันวินัยจราจร และบังคับใช้ พ.ร.บ.จราจร กับผู้ฝ่าฝืนอย่างเข้มข้น เพื่อลดปริมาณการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงได้มีการปฏิบัติตามข้อแนะนำของ ศปถ. จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ได้ให้อำเภอปรับมาตรการและวางแผนจัดตั้งจุดตรวจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่
นายอำเภอธวัชบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ อำเภอธวัชบุรี ยังได้การดำเนินการตามข้อสั่งการของ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ได้กำชับให้ทุกอำเภอใช้มาตรการป้องกันอุบัติเหตุเชิงรุกในพื้นที่ โดยให้ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น อาสาสมัคร และประชาชนในพื้นที่ เข้ามามีส่วนร่วม และใช้กลไก “ด่านชุมชน” “ด่านครอบครัว” มาเสริมเพื่อเฝ้าระวัง ป้องปราม และตักเตือนบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน โดย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในแต่ละหมู่บ้านจะเดินเข้าไปในพื้นที่เพื่อทำการเฝ้าระวัง ตรวจตรา ป้องปราม รวมถึงการเข้าไปตักเตือนบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน ควบคู่กับการเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อเน้นย้ำเรื่องของการเมาไม่ขับ การสวมหมวกนิรภัยก่อนใช้รถใช้ถนน การขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง และกำชับให้ในแต่ละครัวเรือนใช้ “ด่านครอบครัว” โดยให้บุคคล ในครอบครัว แสดงความห่วงใยคนในครอบครัว ว่ากล่าวตักเตือน โน้มน้าว และควบคุมไม่ให้คนในบ้าน ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มสุรา ไม่สวมหมวกกันน็อค ไม่มีใบขับขี่ ไม่ให้ออกไปใช้รถใช้ถนน เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุในวันที่สี่ ของช่วงควบคุมเข้มข้น (14 เมษายน 2567) ที่ผ่านมา ของอำเภอธวัชบุรี ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว
โอกาสนี้ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ในนามคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดร้อยเอ็ด ได้กล่าวขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่เสียสละทุ่มเท ดูแลพี่น้องประชาชนคนใช้รถใช้ถนนให้ได้รับความปลอดภัย และขอให้ทุกคนช่วยกันสร้างการรับรู้ ช่วยกันพูด ช่วยกันย้ำเตือนลูก ๆ หลาน ๆ และสมาชิกในหมู่บ้านได้ระมัดระวังความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สวมหมวกกันน็อก ไม่ขับรถเร็ว ไม่ดื่มสุราแล้วขับรถ ง่วงไม่ขับ และที่สำคัญต้องมีวินัยจราจร ปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เกิดความปลอดภัยแก่ตนเอง คนในครอบครัว ชุมชน และสังคมของเรา สำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุสามารถแจ้งเหตุได้ทาง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด โทร. 043-513097 หรือทางสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง และไลน์ “ปภ. รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สุเทพ ลอยแก้ว_รายงาน