ข่าวพาดหัว

ผัวช็อกพบเมียทิ้งศพลูกทารกแรกเกิดไว้ในกระเป๋า หลังเลิกรากัน ย่านเจริญราษฏร์

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 18 เมษายน 2567

ร.ต.อ.ทิตติพงษ์ พุฒินาถวรพงษ์ รอง สว.(สอบสวน)สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุพบศพทารกแรกเกิด เหตุเกิดที่ อพาร์ตเมนต์ แห่งหนึ่ง ซอยเจริญราษฎร์ แขวง บางโคล่ เขต บางคอแหลม กรุงเทพมหานคร รุดไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรนิติเวช รพ.จุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว มีความสูง 6 ชั้น พบศพเด็กแรกเกิดไม่ทราบเพศ อายุในครรภ์ประมาณ 6-9 เดือน สภาพเน่าเสียชีวิตมาประมาณ1 เดือน ใส่ถุงพลาสติกสีแดงสวมทับด้วยถุงขยะสีดำใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางแบบมีล้อ สีดำ ภายในกระเป๋ายังพบเสื้อผ้าบางส่วน

จากการสอบถาม นาย ชูศักดิ์ อายุ 41 ปี ให้การว่า ตนทำงานเป็นเชฟทำอาหารอยู่บ้านเจ้านายย่านซอยอารีย์
อยู่กินกับ น.ส. ปนัดดา อายุ 30 ปี ภรรยาหลายปี ทั้งคู่เป็นคนจ.พะเยาว์ มีลูกชาย อายุ 5 ขวบ ด้วยกัน1 คน อยู่กับปู่ย่าที่ จ.พะเยาว์ มาเช่าพักอยู่ที่ห้องชั้น 4 อพาร์ตเมนต์นานเกือบปีแล้วภรรยาไปสมัครทำงานอะไรที่ไหนก็อยู่ได้ไม่นานส่วนใหญ่จะอยู่เป็นแม่บ้านทำตัวไม่ดีและเลิกลากันหนีออกไปจากห้องช่วงวันที่ 20 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา คาดว่าหนีตามผู้ชายคนใหม่ไป

ก่อนเกิดเหตุตนต้องการใช้กระเป๋าเดินทางใบดังกล่าววางไว้ที่ใต้โต๊ะเครื่องแป้งในห้องเปิดกระเป๋าพบเสื้อผ้าและพบถุงขยะดำในถุงขยะดำมีถุงพลาสติกสีแดงเปิดออกดูมีกลิ่นเหม็นมากลักษณะเหมือนซากศพทำอะไรไม่ถูกรีบโทรหาเจ้านายที่เป็นนายจ้างบอกให้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานก่อนบอกรปภนำกระเป๋าใบดังกล่าวลงมาวางที่หน้าอพาร์ตเมนต์ก่อนแจ้งตำรวจ

“ผมไม่รู้เลยว่าแฟนตั้งครรภ์ ท้องก็ไม่ใหญ่ไม่มีอาการแพ้ท้องให้เห็น ที่ผ่านมานอนอยู่ที่ห้องไม่ได้กลิ่นเหม็นอะไร หรือมีลางบอกเหตุอะไร “นายชูศักดิ์กล่าว

ด้านร.ต.อ.ทิตติพงษ์ เจ้าของคดีกล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าน.ส.ปนัดดา ตั้งครรภ์อาจแท้งลูกกลัวสิ่งที่เกิดขึ้นนำศพทารกแรกเกิดใส่ถุงยัดไว้ในกระเป๋าก่อนหลบหนีไปจะติดตามตัวมาสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนให้มูลนิธินำศพส่งชันสูตรที่รพจุฬาฯ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป