เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 24 เมษายน 2567 พ.ต.ท.อุทัย เปี่ยมลาภ สารวัตรสอบสวน สภ. ท่าเรือ รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 61 หมู่ 1 บ้านนดอนรัก ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จึงรายงานให้ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี และ พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.ท่าเรือ ทราบและรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.อำนาจ ปรีชาวาท รอง ผกก.ป.สภ.พนมทวน นำสายตรวจเข้าระงับเหตุ ประสานแพทยเวร รพ.มะการักษ์ จนท.พิสูจน์หลักฐานกาญจนบุรี และมูลนิธิขุนรัตนาวุธ จุดท่ามะกา ร่วมชันสูตร
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังเล็ก ติดกับบ้านปูนชั้นเดียวอีกหลังอยู่ติดกัน มีรอบบริเวณบ้านหลังเล็กที่ด้านของบ้านพบศพ นายธวัช มั่งลิ้ม อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านนอนหงายใส่เสื้อยืดสีฟ้า นุ่งกางเกงขายาวสีดำ นอนอยู่ที่บริเวณชายคาบ้าน มีหมอหนุนหัว ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสืทธิโชค มั่งลิ้ม หรือเปรม อายุ 31 ปี ลูกชายของผู้ตาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวไว้ได้แต่อยู่ในอาการคุ้มคลั่ง กว่าควบคุมตัวไว้ได้ก็ใช้เวลาพอสมควรเพราะตัวใหญ่แขนใหญ่มีกำลังจึงจับใส่กุญแจมือเชือกพันมือไว้ที่ท้ายรถตำรวจ ระหว่างนำตัวออกจากที่เกิดเหตุก็ส่งเสียงตะโกนสารพัด และพบกับ น.ส.สาธิตา เหมือนใจ อายุ 48 ปี เป็นภรรยาของผู้ตายอยู่ในที่เกิดเหตุพยายามโทรแจ้งขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทันการ
น.ส.สาธิตา เหมือนใจ ภรรยาของผู้ตาย เปิดเผยว่า นั่งเล่นอยู่ที่ม้านั่งข้างบ้าน ลูกชายของคู่ชีวิตได้เดินเข้ามาขอเงินกับผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่ให้ จึงมีปากเสียงทะเลาะกัน ผู้ก่อเหตุได้ใช้หมัดต่อยผู้ตาย 3 ครั้ง เข้าที่บริเวณใบหน้าและคอ จนผู้ตาย ได้เซหงายหลังล้มศีรษะไปฟาดกับโต๊ะจนได้รับบาดเจ็บ ตนจึงเอาหมอนมาหมุนรองศีรษะไว้แล้วโทรแจ้งขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทันผู้ตายก็เสียชีวิตไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับนายเปรม อ้างว่า ตนเองทะเลาะวิวาทกับพ่อ โดยพ่อจะต่อยตนเองก่อน ตนจึงได้ต่อยกลับไป 3 ที จนพ่อล้มลงไปหัวฟาดกับขอบโต๊ะไม้
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้คุยกับป้าผึ้ง อายุ 48 ปี เป็นภรรยาใหม่ของผู้ตาย เล่าเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุให้ฟังว่า ผู้ตายมีอาชีพขายพระเครื่อง อยู่ริมถนนพระแท่น ช่วงเวลา 17.00 นาฬิกา ผู้ตายเก็บแผงพระเสร็จก็เดินทางกลับบ้าน มาเจอกับนายเปรมที่รออยู่บ้าน โดยนายเปรมได้เดินเข้ามาขอเงินกับผู้เป็นพ่อ เพื่อที่จะไปซื้อเหล้าขาว แต่เป็นจังหวะเดียวกันที่ผู้ตายกำลังยืนคุยโทรศัพท์กับอดีตภรรยาเพื่อที่จะขอเงินให้กับนายเปรม ช่วงเวลานั้นทำให้นายเปรมไม่พอใจ ว่าทำไมพ่อถึงควักเงินให้ช้า จึงได้มีปากเสียงกัน จนลงมือชกต่อยกันโดยนายเปรมได้ชกผู้เป็นพ่อไปสามทีจนล้มลงแล้วหัวไปกระแทกกับขอบโต๊ะไม้ จนสลบและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยตลอดเวลาระยะ 10 ปีที่ตนเองคบกับผู้ตายมาก็สังเกตเห็นว่านายเปรม มักจะทะเลาะกับผู้เป็นพ่อเป็นประจำทุกวันในเรื่องเงิน ซึ่งผู้ตายเป็นคนที่รักลูกชายมาก แต่ลูกชายก็มักจะชอบทำร้ายร่างกายพ่อตนเองอยู่เป็นประจำ และที่ผ่านมาก็มีเรื่องทะเลาะกัน จนชาวบ้านในบริเวณหมู่บ้านต้องเข้ามาช่วยห้ามเพื่อไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย
มีรายงานข่าวว่า เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานายเปรมได้เข้าไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง โดยนายเปรมได้ไปพูดกับเจ้าอาวาสเพื่อขอสึก แต่ทางเจ้าอาวาสบอกว่ายังไม่มีฤกษ์ที่จะศึกทำให้นายเปรมเกิดความไม่พอใจจนอาละวาดพระที่วัด จนพระที่วัดต้องยอมให้สึกออกมา
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีอาชีพรับตั้งศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ ลงนะหน้าทอง ลงเมตตามหานิยม เป็นที่รู้จักเรียกกันว่า อาจารย์ ธวัช มั้งลิ้ม (ดอนรัก) เพิ่งจะบวชและลาสิกขามาอยู่บ้าน เนื่องด้วยความเป็นห่วงลูกชาย ที่มีลักษณะคุ้มคลั่งอยู่บ่อยครั้ง ผู้ตายอยู่กินกับน.ส.สาธิตา เหมือนใจ ภรรยาใหม่ โดยอยู่บ้านหลังเล็ก ส่วนลูกชายผู้ก่อเหตุอยู่บ้านหลังใหญ่ เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย และจะตรวจปัสสวะหากพบว่ามีสารเสพติดก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม ส่วนศพแพทย์เวรลงความเห็นให้ส่งชันสูตรที่นิติเวช รพ.ศูนย์ราชบุรี ข่าวภูมิภาค. กาญจนบุรี. วันทัย. แก้ววิลัย. 0852330789