วันที่ 27 เม.ย.67 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม นายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาชาติ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้นำศาสนาและกลุ่มสตรีมุสลิม ได้ร่วมขบวนแห่ช้าง 6 เชือก พร้อมด้วยนางรำจากพื้นที่ 3 อำเภอ คือ สุไหงโก-ลก สุไหงปาดีและตากใบ จำนวนกว่า 500 คน ไปตามถนนซึ่งมีระยะทางกว่า 1 ก.ม. ซึ่งการนี้ พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรมและคณะ ได้ขึ้นขี่ช้างเพื่อร่วมขบวนแห่พหุวัฒนธรรม เนื่องในงานทอดผ้าป่าสามัคคี ที่ชาวไทยพุทธและมุสลิมได้ร่วมกันแสดงออกถึงวัฒนธรรมอันดีงามตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน แถมยังได้รับความสนุกสนานและเสียงหัวเราะที่หาดูได้ยาก เพื่อนำไปสมทบทุนในการบูรณะซ่อมแซมอาคารเสนาสนะสงค์ ที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม
ต่อมาเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรมและคณะ ได้เดินทางไปยังอาคารเอนกประสงค์โรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์ อ.เจาะไอร้อง เพื่อรับฟังการแก้ไขปัญหายาเสพติดจากเสียงของประชาชนในพื้นที่ ต.บูกิต ซึ่งมีกลุ่มประชาชน ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นและกลุ่มสตรีเข้าร่วมงาน จำนวนกว่า 500 คน ที่อาสาร่วมใจกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ โดยมี พล.อ.วิชาญ สุขสง ประธานยุทธศาสตร์การแก้ปัญหายาเสพติดภาคประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามนโยบายของกระทรวงยุติธรรม ที่ได้ขึ้นกล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนที่เล็งเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบจริงจัง และมี น.ส.คอลีเยาะ หะหี แกนนำสตรีและเป็นอาสาคลายทุกข์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีสะท้อนถึงปัญหายาเสพติดที่ส่งผลทำให้ครอบครัวตนเองต้องแตกแยกและหย่าร้าง ซึ่งถือว่าเป็นมหันตภัยบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติและครอบครัว
ซึ่งโครงการชาวบ้านอาสาร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดในครั้งนี้ บรรลุผลลุล่วงตามเป้าหมายที่วางไว้ เป็นความร่วมมือร่วมใจของกลไกสำคัญๆหลายหน่วยงาน ที่ปฏิเสธไม่ได้ คือ พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่มีจิตวิทยาในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชาวบ้าน จนเล็งเห็นความสำคัญที่เป็นตัวบ่อนทำลายสังคมอันอบอุ่นของครอบครัว ยิ่งเสพยิ่งทำให้ผู้ค้าร่ำรวยส่วนครอบครัวมีแต่ฐานะจมลง และนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล ปธ.การสื่อสารสร้างความเข้าใจ เป็นผู้ประสานงานระหว่างภาคเอกชนกับ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ให้มีแนวคิดในทิศทางเดียวที่นำไปสู่ความร่วมมือ
ส่วน พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม ได้ขึ้นกล่าวพบปะพี่น้องประชาชน พอสรุปใจความว่า กระทรวงยุติธรรมเลยมีดำริจัดตั้งให้มีคณะทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนใต้ภาคประชาชน เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว เช่นให้มีการจัดตั้งสถานบำบัดเอกชนหรือของรัฐเพิ่มขึ้น หรือจัดให้มีสถานบำบัดที่มีอยู่แล้วดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย และจัดงบประมาณลงไปช่วยเหลือ เพื่อให้มีสถานบำบัดเพียงพอมีการดูแลคนที่ติดยาเหล่านี้ ให้หายจากการติดยาและกลับคืนสู่สังคมฝึกฝนอาชีพ ได้ทำมาหากินและจะได้การตอบรับจากสังคมกลับมาสู่ความอบอุ่นของพ่อแม่และเป็นคนดีของสังคมต่อไป
ด้าน พ.ต.อ. ทวี รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า คุณภาพชีวิตของประชาชนยังมีรายได้น้อย ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องออกมาแก้ไข ซึ่งในระหว่างที่รอโครงการของรัฐบาลดิจิตอล Wallet ซึ่งสามารถสร้างความเจริญให้กับชุมชนในท้องถิ่น และเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เนื่องจากว่าใช้คนในพื้นที่เป็นฐาน ซึ่งการพัฒนาในลักษณะนี้ ซึ่งปกติแล้วที่ผ่านมาโครงการต่างๆจะไปส่วนกลาง 97% และขยายสู่ท้องถิ่นแค่ 3% ซึ่งทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบกับเศรษฐกิจชุมชน โดยเฉพาะในจังหวัดนราธิวาสถ้าดูในเรื่องของการศึกษานั้น ถึงแม้ว่าเราจะมีพื้นฐานการศึกษาภาคบังคับ แต่ผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ ที่ไม่ได้เรียนหนังสือเกือบ 30% ซึ่งดูรวมแล้วการศึกษาประมาณ 80% มีการศึกษาต่ำกว่าการศึกษาขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลให้เรียนฟรี ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบ โดยเฉพาะในเรื่องของยาเสพติดเพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่าการศึกษา ซึ่งถ้าคนที่ไม่ได้รับการศึกษาก็จะหันไปติดยาเสพติด และคนที่ติดยาเสพติดก็จะติดคุกตามมา ซึ่งมาจะเป็นวงจรที่ไม่สามารถแก้ไขได้ โดยในเบื้องต้นจะต้องทำในหลายๆเรื่องพร้อมกัน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินงานมาได้ 6 เดือนแล้ว และอีกหกเดือนข้างหน้าจะต้องดำเนินนโยบายที่เป็นผล ซึ่งในส่วนของกระทรวงยุติธรรม เรื่องแรกที่จะต้องดำเนินการคือเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้นจะต้องมาแก้ไขกับประชาชน โดยในวันนี้เราได้เชิญภาคส่วนราชการมารับฟังประชาชนที่สะท้อน ในเรื่องของยาเสพติดว่าเป็นอย่างไรและจะแก้ไขอย่างไร ซึ่งเรายังคงเชื่อมั่นว่าชุมชนหรือหมู่บ้านเป็นชัยชนะเพื่อให้เกิดความสันติสุข ซึ่งเราจะพยายามยกระดับในส่วนนี้ ซึ่งนอกจากจะแก้ไขปัญหายาเสพติดแล้วจะต้องแก้ ปัญหาการกระทำผิดของผู้มีอิทธิพลต่างๆที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งยาเสพติดจะเดินเองมาไม่ได้ จะต้องมีคนพามา
27 เมษายน 2567
ข่าว/ซาการียา/จ.นราธิวาส