ข่าวพาดหัวทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย

หนุ่มหนองบัวลำภู ถูกจิ๊กโก๋โรงงานใช้มีดฟันกลางหลัง เนื่องจากหลีสาวคนเดียวกัน

เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 30 เมษายน 2567 ร.ต.อ.อิสระ แสงสว่าง รองสารวัตรสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุชายถูกทำร้ายร่างด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บ ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 84 อยู่ซอยวัดคู่สร้าง ถนนสุขสวัสดิ์ ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น เปิดเป็นร้านขายของชำ มีโต๊ะให้ลูกค้านั่งบริเวณรอบร้าน ที่หน้าร้านพบ นาย เบญจรงณ์ ศรีวงศ์ อายุ 25 ปี ชาวหนองบัวลำภู ถูกมีดฟันเป็นแผลฉีกขาดที่หัวไหล่ข้างขวา จำนวน 2 แผล ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลเปาโลพระประแดง ส่วนผู้ก่อเหตุได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ที่ร้านแล้วหลบหนีไป ทราบชื่อ นายชุษณะ(หรือไนท์) กำริสุ


ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพ นายไนท์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้าน ก่อนจะเดินไปนั่งกับเพื่อน ก่อนจะเดินไปที่อีกโต๊ะหนึ่ง ซึ่งอยู่อีกมุมนึก ที่มี นายเบญจรงณ์ นั่งอยู่กับเพื่อน แล้วเดินกลับมาเปิดเบาะเอามีดที่อยู่ใต้เบาะ แล้ววิ่งเข้ามาฟันหลัง นายเบญจรงณ์ 2 ครั้ง ก่อนจะวิ่งหลบหนีไป


จากการสอบถาม นายคัมภีร์ ใชยพัฒนะพฤกษ์ อายุ 35 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุได้แปบเดียว ตนเห็นว่าผู้ก่อเหตุวิ่งผ่านร้านไปด้านข้างและได้หยิบอาวุธลักษณะคล้ายไม้ขนาดใหญ่ และได้ก่อเหตุทำร้ายผู้บาดเจ็บโดยการฟันเข้าไป และได้วิ่งหลบหนีไป ตนจึงเข้าไปดูผู้บาดเจ็บและเห็นว่ามีแผลขนาดใหญ่ ตอนแรกที่คิดว่าเป็นไม้ แต่พอเห็นลักษณะแผนแล้วไม่ใช่คิดว่าเป็นมีดดาบขนาดใหญ่ ทางตนก็ได้มีการสอบถามผู้ได้รับบาดเจ็บว่ารู้จักกันหรือว่าไปทะเลาะกันมาก่อนหรือเปล่า ซึ่งทางผู้บาดเจ็บก็บอกว่าไม่เคยทะเลาะกับใครและไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร และคนที่ก่อเหตุก็ไม่รู้ด้วยว่าเป็นใคร ซึ่งก่อนหน้านี้ คนก่อเหตุก็เป็นคนเดียวกันกับเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว ที่มาก่อเหตุลักษณะคล้ายๆกัน ซึ่งเหตุการณ์นั้นตนสามารถ ห้ามไว้ได้ทัน และสามารถแย่งอาวุธจากคนก่อเหตุมาได้ ก่อนที่จะมีเหตุไรเกิดขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นเขาก็กลับมาขอโทษ ตนก็ไม่ได้อะไรเพราะว่านี่เป็นเหตุ ครั้งแรกจึงให้อภัยได้ แต่ไม่คิดว่าจะกลับมาทำอีกครั้งจากที่ตนพอรู้ ผู้ก่อเหตุเป็นคนพื้นที่ใกล้ๆนี้


นายดนัย ภูกองชนะ อายุ 35 ปี เพื่อนผู้บาดเจ็บที่นั่งกินด้วยกัน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งกินกันอยู่ 3 คน แล้วมีเพื่อนที่มาด้วยกัน ไปเข้าห้องน้ำ ส่วนตนไปยืนคุยกับเจ้าของร้าน จู่ๆก็มีผู้ก่อเหตุเดินปลี่เข้ามาทำร้ายผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยการฟันเข้าไป และได้วิ่งหลบหนีไป ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มี ปัญหาหรือทะเลาะอะไรกับใครก็มานั่งกินตามปกติ แต่ทางด้านผู้ก่อเหตุนั้น เคยทำลักษณะแบบนี้มาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง
นายมนัส สร้อยทอง อายุ 33 ปี เพื่อนผู้บาดเจ็บใส่แว่น เล่าว่า ตนกับกลุ่มเพื่อนและน้องผู้บาดเจ็บก็มานั่งกินกันปกติ ตนให้น้องไปเอาน้ำแข็งมาให้ แต่น้องดันไปเห็นกลุ่มสาวที่นั่งโต๊ะอยู่ใกล้กับถังน้ำแข็ง จึงไปบอกกลุ่มเพื่อนและผู้บาดเจ็บให้ลองทำเป็นไปตักน้ำแข็งและเหล่ มองตามภาษาผู้ชาย ก็รู้ๆกันอยู่ พอหลังจากนั้นก็ไม่ได้เข้าไปคุยหรือมีอะไรมากกว่านั้นแค่มองเฉยๆ หลังจากนั้นไม่นานทางผู้ก่อเหตุได้มาเดินดู 2 รอบ เหมือนกับว่าหลังจากเห็นและยืนยันเขาได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้นและได้วิ่งหลบหนีไปหลังจากก่อเหตุเสร็จ ซึ่งทางตนก็งงว่าเขามาก่อเหตุด้วยสาเหตุอะไรเพราะไม่รู้จักกันเลย จู่ๆก็เข้ามาทำร้ายกันสะงั้น ส่วนสาเหตุที่ยังไม่แน่อาจจะเป็นเพราะไปมองสาวของกลุ่มที่นั่งใกล้ๆถังน้ำแข็ง
นายศุภวาสดิ์ พาสุวรรณ์ อายุ 38 ปี อดีตเพื่อนร่วมงานผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนมานั่งกินกับผู้ก่อเหตุตั้งแต่ 18.30 น. ก็มานั่งดกินเหล้าปกติแต่อยู่ๆเขาก็หายไปและไม่ได้บอกตนด้วยเพราะ ตนไปเข้าห้องน้ำมา พอเขากลับบ้านก็ดูเป็นปกติ พอรู้อีกทีเขาก็ไปก่อเหตุแล้ว ถ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องตนก็ห้ามแล้ว


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ สันนิฐานว่า น่าผู้บาดเจ็บน่าจะไปแซวผู้หญิงที่ทำงานโรงงานเดียวกันกับผู้ก่อเหตุจึงทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเรียกคนเจ็บมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพักหลังได้รับการรักษาแล้ว และจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
*******************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ