ข่าวประชาสัมพันธ์อากาศเป็นพิษอาชญากรรม

สระแก้ว – ไล่ล่าสาวใหญ่” มอมยา คนขับรถตู้วัย68ปี ชิงทรัพย์ไปนับแสนบาท

สระแก้ว – ไล่ล่าสาวใหญ่” มอมยา คนขับรถตู้วัย68ปี ชิงทรัพย์ไปนับแสนบาท
เหตุการณ์รายนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อวันนี้ที่ 3 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีเหตุคนขับรถตู้โดยสารสายสระบุรี-ตลาดโรงเกลือ ถูกสาวใหญ่มอมยา ชิงทรัพย์เป็นทองรูปพรรณและเงินสดไปรวมมูลค่า กว่า 200,000 บาท และขณะนี้คนขับรถตู้ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยายาลอรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังรับแจ้ง ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ จ.สระแก้ว และได้สอบถามจากนายแพทย์ราเชษฐ์ เชิงพนม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงทราบว่ามีเหตุการณ์มอมยาชิงทรัพย์เกิดขึ้นจริง โดยเป็นคนขับรถตู้โดยสารสาธารณะสายสระบุรี-ตลาดโรงเกลือฯมีอาการสารพิษในกระเพาะอาหาร ซึ่งแพทย์ได้ทำการล้างท้องจนอาการปลอดภัยแล้ว โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 28 เม.ย.67


จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ขออนุญาต ผอ.รพ.อรัญประเทศฯขึ้นไปพบนายสิน จินดาเนตร อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125/1 ม.6 ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นคนขับรถตู้ฯที่ถูกมอมยานอนพักรักษาตัวอยู่ เตียงที่19 ชั้น7 อาคารโรงพยาบาลอรัญประเทศฯโดยนายลินฯได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองมีอาชีพขับรถตู้โดยสารสาธารณะสายสระบุรี-ตลาดโรงเกลือฯและวันเกิดเหตุคือวันที่28 เม.ย.67 ตนเองนำรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียนป้ายเหลือหมายเลข 10-1778 ปราจีนบุรี มารับผู้โดยสารออกจากสถานีขนส่ง จ.สระบุรี มาเต็มคันรถปลายทางที่ บขส.ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขณะขับมาถึงบริเวณทางแยกบ้านดงงู ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ผู้โดยสารได้ลงจากรถเกือบหมดเหลือเพียงสาวใหญ่1คน อายุประมาณ 45-50 ปี ผิวขาวหน้าตาดีสวมเสื้อสีเหลือง นุ่งกางเกงกระโปรงขาสั้นสีขาวสะพายประเป๋าหนังสีดำ นั่งอยู่เบาะหลังคนขับคนเดียว จากนั้นสาวใหญ่คนดังกล่าวได้ขอขึ้นมานั่งข้างหน้าคู่กับตน ซึ่งขณะนั่งรถสาวใหญ่คนดังกล่าวได้ชวนพูดคุยโดยบอกว่าเดินทางมาชายแดนเพื่อจะข้ามไปเที่ยวและเสี่ยงโชคที่บ่อนกาสิโน ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา แต่ดันลืมพาสปอร์ตมาจึงข้ามไปไม่ได้ อีกทั้งไม่มีเพื่อนหรือญาติอยู่แถวนี้ จึงได้ชักชวนให้กินเบียร์เป็นเพื่อน โดยสาวใหญ่คนดังกล่าวได้ลงไปซื้อเบียร์มา2ขวด จากร้านค้าข้างทาง แล้วนำขึ้นมากินกับตนบนรถซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้าทางเข้าลานจอดรถหน้าด่านพรมแดนคลองลึกฯ หลังจากกินเบียร์หมดไป2ขวดสาวใหญ่ได้ชวนให้ตนพาไปหาที่กินเบียร์ต่อ ซึ่งตนได้พามาที่ร้านอาหารตามสั่งของชาวกัมพูชา ซึ่งอยู่หลังตลาดเดชไทย ตรงข้ามตลาดโรงเกลือฯโดยสาวใหญ่คนดังกล่าวได้สั่งเบียร์มา2ขวด แต่กินได้ประมาณ1ขวดตนก็มีอาการมึนหัวลิ้นแข็งพูดไม่ชัดตนจึงพยายามเดินไปขึ้นรถตู้ของตนที่จอดอยู่หน้าร้านฯแต่เมื่อไปถึงรถตู้ตนก็ไม่สามารถยืนไหวหน้ามืดล้มลงไปนอนกับพื้นรถส่วนลิ้นก็แข็งพูดแทบไม่ได้ ซึ่ง นายริน ชาวกัมพูชาเจ้าของร้านอาหารตามสั่งชาวกัมพูชาเห็นเหตุการณ์จึงได้มาช่วยอุ้มตนขึ้นมาและพยายามถามตนแต่ตนไม่สามารถพูดรู้เรื่องจากนั้นสติของตนก็ดับวูบไปเลย และมารู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่ที่โรงพยาบาลอรัญประเทศฯแล้ว โดยแพทย์ได้ทำการล้างท้องให้ ซึ่งแพทย์บอกว่ามีสารพิษในกระเพาะอาหาร ตนจึงเชื่อว่าถูกสาวใหญ่คนดังกล่าววางยาแน่นอน อีกทั้งทรัพย์สินของตนที่ติดตัวอยู่ประกอบด้วยสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พระเลี่ยมทอง 3องค์,แหวนทองคำหนัก2 สลึง 2 วง,เลสข้อมือทองคำหนัก2 บาท 1เส้น และเงินสดอีก 18,700บาท ก็หายไป” คาดว่าเป็นแก๊งมอมยาแล้วรูดทรัพย์ตนเองไป ซึ่งตนได้แจ้งความไว้แล้วกับพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก อ. อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ทางด้าน พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ. คลองลึก จ.สระแก้ว เผยว่าคดีนี้ ทางพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึกฯได้รับแจ้งเมื่อคืนวันที่28 เม.ย.67 ซึ่งตนได้สั่งให้พนักงานสอบสวนฯลงตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับชุดสืบสวน สภ.คลองลึกฯและได้สอบถามจากนายริน เจ้าของร้านอาหารตามสั่งชาวกัมพูชา ซึ่งให้การว่าเมื่อคืนวันที่28 เม.ย.67 ประมาณ 21.00 น.ได้มีชายหญิงขับรถตู้มาจอดแล้วเข้ามานั่งที่ร้านสั่งเบียร์2ขวด ตนคิดว่าเป็นสามีภรรยากันก็ไม่ได้คิดอะไรอีกทั้งไม่มีท่าทางผิดปกติใดๆก็บริการอาหารเหมือนลูกค้าทั่วไป แต่จู่ๆตนก็เห็นผู้ชายเหมือนคนเมามากเดินแทบไม่ไหวเดินซวนเซไปที่รถตู้เมื่อเปิดประตูรถได้ชายคนดังกล่าวก็ล้มฟุบในรถตนจึงวิ่งไปช่วยกันพยูงขึ้นพยายามสอบถามว่าเป็นอะไรก็พูดไม่รู้เรื่องได้ยินแต่เสียงอื้อๆ จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจและแจ้งกู้ภัย มารับตัวไปส่งโรงพยาบาลฯซึ่งขณะนั้นชายคนดังกล่าวเหมือนคล้ายกำลังจะหมดสติ ส่วนหญิงที่มาด้วยกันไม่รู้ว่าหายไปตอนไหนแล้ว จนกระทั่งตนมารู้อีกทีจากตำรวจว่าชายคนดังกล่าวถูกวางยาแล้วชิงทรัพย์ไป
พ.ต.อ.อโณทัยฯผกก. สภ.คลองลึกฯเผยอีกว่าขณะนี้ ได้กำชับให้ ชุดสืบสวน สภ.คลองลึกฯออกหาไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางอย่างเร่งด่วนซึ่งขณะนี้ทางชุดสืบสวนฯได้ภาพวงจรปิดสาวใหญ่ที่ก่อเหตุขณะขึ้นรถตู้ฯที่ บขส.จ. สระบุรี แล้ว คาดว่าจะสามารถสืบสวนจับกุมได้ในเร็วนี้ ” ด้านนางสาวสุชาดา ลูกสาวผู้เสียหายขอฝากตำรวจ ตามเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อให้คดีกระจ่าง ตนและพ่อจะได้สบายใจ
” ทางด้าน พล.ต.ต.ออมสิน บุญญานุสนธุ์ ผบก.ภ.จว. สระแก้ว เผยว่าคดีนี้ทาง กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ ชุดสืบสวน สภ. คลองลึก จ.สระแก้ว กำลังรวบรวมพยานหลักฐานโดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิด รวมกับคำให้การของผู้เสียหาย คาดว่าจะสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในเร็วๆนี้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุน่าจะสังเกตุเห็นผู้เสียหายซึ่งมีอายุมากแล้วอีกทั้งมีทรัพย์สินเป็นสร้อยทอง,แหวนทองและเลสทองคำ จึงอยากได้จึงตีสนิทแล้ววางแผนมอมยาเพื่อชิงทรัพย์ โดยอาจจะมีการเฝ้าดูพฤติกรรมของผู้เสียหายไว้แล้วเมื่อสบโอกาสจึงได้ลงมือวางแผนก่อเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุเบื้องต้นขึ้นรถมาจาก บขส.จ.สระบุรี จึงต้องประสานไปยัง ตร.ภ.สระบุรี ช่วยตรวจสอบด้วยเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม ขณะนี้เราได้ภาพวงจรปิดบางส่วนแล้วคาดว่าจะสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แน่…นายยุทธนาพึ่งน้อยผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว 094-478-0777