ข่าวทั่วไป

ภรรยา ชายเมาสาระเหย เผย สามีเคยทำงานทาสี สูดดมทินเนอร์จนติด อยากจะนำตัวไปรักษาให้หาย

ภรรยา ชายเมาสาระเหย เผย สามีเคยทำงานทาสี สูดดมทินเนอร์จนติด อยากจะนำตัวไปรักษาให้หาย
จากกรณี นายสุรินทร์ วงษ์ไพรเวศ อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดเลย เมาสารระเหย ไปก่อเหตุปีนจะเข้าไปในบ้านของชาวบ้าน แต่ถูก นายปัชญา รอดปาน อายุ 36 ปี เจ้าของห้องเช่าที่ นายสุรินทร์ เคยพักอาศัยอยู่แล้วถูกไล่ออกเนื่องจากมีพฤติกรรมที่ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว มาเจอพอดี และได้ดึงตัว นายสุรินทร์ ลงมาก่อนจะวิ่งหนีกลับมาที่ห้องพัก ก่อเหตุงัดประตูห้องจนพัง จนประตูไม้หล่นใส่หัวได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 11 พฤษภาคม 2567 ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ซอยบุญสนอง 6 ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ


ล่าสุดเมื่อช่วงสาย วันที่ 12 พฤษภาคม 2567 ทีมข่าวเราได้เดินทางลงห้องเช่าดังกล่าวอีกครั้ง พบว่าประตูห้องยังคงเดิมยังไม่ได้มีการนำมาเปลี่ยน แต่ตัว นายสุรินทร์ และภรรยา แต่อย่างใด จึงเดินพูดคุยกับชาวบ้านในละแวกดังกล่าวถึงพฤติกรรมของ นายสุรินทร์ พบว่า เคยปีนเข้าไปในบ้านที่อยู่ภายในซอย แต่เจ้าของบ้านและลูกอยู่ในบ้าน นายสุรินทร์ อ้างว่าจะเข้าไปถ่ายปลวก ทางลูกเจ้าของบ้านจึงได้ไล่ออกจากบ้าน และได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้โดยเหตุการณ์ดังกล่าวก่อนหน้านี้ไม่นาน และมีชาวบ้านบางคนเคยเหตุเขาถือไม้และมีดเดินไปมาภายในซอย แต่ถ้าวันไหนที่เจ้าของห้องเช่าอยู่เขาจะไม่ออกมาจากห้อง เคยบอกเจ้าของห้องเช่าหลายครั้งแล้วถึงพฤติกรรมของ นายสุรินทร์ ทางเจ้าของห้องเช่ายกเลิกสัญญาเช่าห้อง นายสุรินทร์ ไปแล้ว แต่ นายสุรินทร์ ก็ยังมาที่ห้องอยู่ ทำให้ชาวบ้านในซอยหวาดกลัวกันอย่างมาก ขณะเดียวกัน นางสาวริน อายุ 38 ปี (สงวนชื่อ) ภรรยาของ นายสุรินทร์ ได้ปั่นจักรยานมาที่ห้องเช่า ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปสอบถาม พบว่า นายสุรินทร์ ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ และอยากจะนำตัว นายสุรินทร์ ไปรักษาในเรื่องติดสาระเหย และสุรา
นางสาวริน ภรรยา ของ นายสุรินทร์ เล่าให้กับนักข่าวเราฟังว่า ยอมรับว่าสามีติดทินเนอร์และกาวอย่างหนัก แถมยังติดเหล้าหนัก พอเมากาวเมาทินเนอร์ที ก็จะมีอาการคุ้มคลั่ง อาละวาดหนัก จนตนเองหวาดกลัว เกรงว่าสามีจะทำร้ายร่างกาย ตนเองต้องหนีไปอยู่กับพี่สาวอีกที ปล่อยให้เขาอยู่ที่นี่เพียงลำพัง ตนเองเคยถูกสามีต่อยที่หน้าและใช้มีดฟันที่หัว ที่ผ่านมา ญาติเคยบอกให้แจ้งความ แต่ด้วยความรักและยังห่วงฝ่ายสามี ด้วยคามรัก จึงไม่ได้เคยแจ้งความจับสามีแต่อย่างใด แต่อาศัยไปนอนที่บ้านพี่สาวแทน และจะคอยวนเวียนมาเยี่ยมมาหาบ้าง บ่อยครั้ง ส่วนที่สามีติดสารทินเนอร์นั้น มาจากสามีเคยเป็นช่างสี และอยู่กับการสูดดมทินเนอร์ทุกวันจนสะสมกลายเป็นคนติดสารทินเนอร์ เคยพาตัวไปรักษามาแล้ว หลายครั้ง แต่ก็ไม่หายขาด และกลับมาสูดดมเหมือนเคย กระทั่งมาเกิดเรื่องล่าสุด ขณะนี้สามียังรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในส่วนตนเองเมื่อถามว่าจะเลิกกับสามีไหม ฝ่ายคุณริน ภรรยา ตอบอย่างหนักแน่น ว่าไม่เลิก และไม่มีความคิดที่จะเลิกกับสามีถึงแม้ว่าจะเคยถูกเขาทำร้ายร่างกายมาหลายครั้ง แต่เพราะตนเองรักสามีและห่วงสามี มาก อีกทั้งข้อดีของสามีก็มีเยอะกว่าข้อเสีย จึงไม่คิดทิ้งสามีแต่อย่างใด หลังจากนี้ พอสามีออกจากรพก็จะพาไปรักษาและบำบัดหวังให้สามีเลิกดมสารดังกล่าว
ขณะที่ นางสาวคำ อายุ 60 ปี ประธานชุมชม เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องเมื่อคืน ก็ออกมาดู พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่เกิดเหตุและพยามเรียกชายคนดังกล่าวให้อกมาจากบ้าน แต่ก็ไม่ยอมออกจนต้องใช้ยุทวิธีของเจ้าหน้าที่จนจับกุมตัวได้ เคยถูกจับกุมตัวมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่า มีอาการประสาทหลอน จากการดมสารเหย และดื่มสุราเป็นประจำ ส่วนตนเองไม่ได้กล้าไปใกล้ชิดคนก่อเหตุเพราะกลัว ที่ผ่านมาพอเกิดอาการกำเริบก็จะเดินถือมีดบ้างถือไม้บ้าง จนสร้างความหวาดกลัวให้กับคนในชุมชน แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้แต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่เคยมีการไปปีนบ้านคนอื่นด้วยนั้น ตนเองไม่ทราบมาก่อนเพิ่งทราบจากเรื่องเมื่อคืนนี้
ด้าน พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือง ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ให้ข้อมูลกับทางนักข่าวผ่านทางโทรศัพท์ ระบุว่า จาการตรวจสอบประวัติชายคนดังกล่าวพบว่าเคยมีประวัติการรักษาอาการทางจิต ซึ่ง พอเกิดเหตุล่าสุดเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ละเลยแต่อย่างใด มีการจับกุมตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการแล้ว แต่ประวัติพบการรักษาตัวที่รพบางปะกง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิ์ จึงมีการประสานรับตัวส่งต่อการรักษา ส่วนในทางคดีนั้น ผู้เสียหายมาแจ้งความแล้ว ในข้อหาบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล ซึ่งพนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้แล้ว แต่จะต้องรอผลการรักษาและระบุยืนยันจากแพทย์เรื่องอาการทางจิตอีกครั้งเพื่อใช้ประกอบสำนวนทางคดี
**************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ