วิกฤตน้ำท่วมสุราษฎร์ !!!
มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฏร์ธานี ร่วมกับ มูลนิธิพุทธธรรม ฮุก 31 และ สว่างราชบุรี สว่างเมธีธรรมสถาน นำกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดย สรุปสถานการณ์ประจำวันที่ 3 ธ.ค.2563 ดังนี้
น้ำท่วมสุราษฎร์ฯ ผวจ.ร้องขอเครื่องผลักดันน้ำชลประทานและเรือผลักดันน้ำกองทัพเรือด่วน 26 เครื่องระบายน้ำลงทะเลเร็วที่สุดความคืบหน้าน้ำท่วมที่ จ.สุราษฎร์ธานี วันนี้ (3 ธ.ค.63 )พบว่าหลายพื้นที่เสี่ยงยังมีน้ำท่วมสูงเนื่องจากเป็นที่ลุ่มและปริมาณน้ำฝนสะสมจำนวนมากโดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาปริมาณฝนมากที่สุดถึง 296 มม.ที่ อ.พุนพิน/ ที่บ้านดินก้อง ต.วัง อ.ท่าชนะ วัดได้ 290 มิลลิเมตร และเทศบาลตำบลขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี วัดได้ 248 มิลลิเมตร
ขณะเดียวกันมวลน้ำได้ไหลบ่าท่วมผิวจราจร ถนนทางหลวง 401 สายสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราชระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จากสี่แยก อ.กาญจนดิษฐ์ ผ่านโรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ ไปจนถึงวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี 2 ระดับน้ำสูง 20-40 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้นอกจากนั้นถนนสายเอเชียหรือสาย 41 จากสุราษฎร์ธานีขึ้น-ล่อง กรุงเทพ ฯมีน้ำท่วมผิวจราจรที่บริเวณสี่แยกไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ระดับน้ำสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตรและมีแนวโน้มอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะยังมีปริมาณฝนตกลงมาไม่ขาดระยะ
อย่างไรก็ตามสถานการณ์อุทกภัยของ จ.สุราษฎร์ธานีช่วงระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม2563 ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานีสรุป มีพื้นที่ประสบภัยและได้รับผลกระทบ จำนวน 12 อำเภอ จำนวน 41 ตำบล 180 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 3,244 ครัวเรือน 9,775 คน ไม่มีผู้บาดเจ็บและไม่ผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย 1.อ.ดอนสัก จำนวน 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน 74 ครัวเรือน 225 คน/ 2. อ.กาญจนดิษฐ์ จำนวน 9 ตำบล 58 หมู่บ้าน 325 คน 2,900 คน/ 3. อ.วิภาวดี จำนวน 2 ตำบล 19 หมู่บ้าน 1,500 ครัวเรือน 2,200 คน /4.อ.ท่าฉาง จำนวน 3 ตำบล 10 หมู่บ้าน 50 ครัวเรือน 160 คน/ 5.อ.บ้านนาเดิม จำนวน 4 ตำบล 26 หมู่บ้าน 500 ครัวเรือน 1,800 คน/6. อ.เคียนซา จำนวน 2 ตำบล 11 หมู่บ้าน 125 ครัวเรือน 500 คน /7.อ.ชัยบุรี จำนวน 4 ตำบล 14 หมู่บ้าน 150 ครัวเรือน 450 คน /8.อ.พุนพิน จำนวน 14 ตำบล 35 หมู่บ้าน 520 ครัวเรือน 1540 คน ส่วนอีก 4 อำเภอประกอบด้วย อ.เมือง/เวียงสระ/ไชยา และ อ.ท่าชนะได้รับผลกระทบเช่นกันและยังอยู่ในระหว่างการสำรวจโดยน้ำเริ่มไหลบ่าเข้าท่วมในหลายพื้นที่ของอำเภอท่าชนะ
ส่วนการให้ความช่วยเหลือ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบถุงยังชีพ ให้กับผู้ประสบอุทกภัย อ.ดอนสัก กับอ.กาญจนดิษฐ์ และมณฑลทหารบกที่ 45 โดยศูนย์ต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบกที่ 4 ร่วมฝ่ายปกครองอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปพร. มูลนิธิ กู้ภัย ช่วยเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของชาวบ้านไว้ในที่สูงและปลอดภัย / ศูนย์ ปภ. เขต 11 สุราษฎร์ธานี และหน่วยทหารส่งรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย พื้นที่ อ.ดอนสัก อ.กาญจนดิษฐ์ จำนวน 4 คัน สำหรับที่บริเวณลานจอดรถฟรี โซนทางไปยังสถานที่ทิ้งขยะสนามบินสุราษฎร์ธานี ได้มีรถยนต์ของ ประชาชนที่นำไปจอดฟรี (ไม่ได้รับฝาก) ประมาณ 50 คัน มีระดับน้ำท่วมสูงกว่าครึ่งล้อรถ โดยทางสนามบินได้มีการประกาศให้เจ้าของรถไปเคลื่อนย้ายรถออกโดยด่วน เนื่องจากมีแนวโน้มน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุดนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานีลงพื้นที่น้ำท่วมที่ อ.กาญจนดิษฐ์ เยี่ยมศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัยที่ศาลาหมู่บ้านบ้านดอนหลวง ม.1 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ โดยมีผู้อพยพมาอยู่ประมาณ 10 ครัวเรือนส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้สูงอายุ มอบถุงยังชีพน้ำดื่ม และปลอบขวัญให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย จากนั้นลงเรือเยี่ยมและมอบถุงยังชีพผู้ประสบอุทกภัยที่ยังอยู่ที่บ้านในพื้นที่ ม.1 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ กว่า 300 ครัวเรือน ระดับน้ำบางแห่งสูงกว่า 1 -1.50 เมตร
ขณะเดียวกันคาดว่าในอีก 60 ชั่วโมงข้างหน้าจะมีมวลน้ำเพิ่มขึ้นใน อ.พระแสง, เคียนซา, บ้านนาเดิม และพุนพิน ที่จะมีน้ำล้นตลิ่ง และอาจจะมีน้ำทะเลหนุน ขณะที่ อ.ไชยา , ท่าฉาง และ อ. ท่าชนะ จะมีฝนตกหนักและมีมวลน้ำจาก อ.คีรีรัฐนิคม เข้ามาสมทบและจากข้อมูลปริมาณมวลน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทางนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานีร้องขอให้ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี เตรียมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 26 เครื่องในแม่น้ำตาปี ที่ อ.พุนพินเพื่อระบายมวลน้ำที่จะไหลจาก จ.นครศรีธรรมราช มาสมทบที่ จ.สุราษฎร์ธานี ให้ออกสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด และขอรับการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำจากกองทัพเรือมาเสริมเพื่อจำกัดพื้นที่น้ำท่วมให้ลดลงโดยเร็วที่สุด
กู้ภัย1222 มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี รายงาน
