ข่าวพาดหัว

รองนายกฯพอใจนโยบายเมืองคู่แฝดและการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลกแห่งที่2 รุดหน้าเกินเป้า

วันที่ 5 มิ.ย.67 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมคู่สมรสและคณะรวม 22 คน ได้เดินทางมายังพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารด่านพรมแดนศุลกากรสุไหงโก-ลก ประกอบด้วย นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน รอง ผวจ.นราธิวาส พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. นายผดุงศักดิ์ ศรีเมฆ นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก นายอนิรุทร บัวอาอน นายอำเภอสุไหงโก-ลก นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก พ.ต.อ.พลูศักดิ์ แก้วสีขาว ผกก.ตม.จว.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวม 50 คน เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานนโยบายเมืองคู่แฝด การดำเนินงานของด่านศุลกากรและความคืบหน้าการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลกแห่งที่ 2 ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง

ซึ่งในที่ประชุม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. ได้กล่าวสรุปการดำเนินงานนโยบายเมืองคู่แฝด หรือ twin citier ไทยและมาเลเซีย ระหว่าง จ.สตูลกับรัฐเปอร์ลิส จ.สงขลากับรัฐเคดาห์ จ.ยะลากับรัฐเปรัก จ.ปัตตานีกับรัฐตรังกานู และจ.นราธิวาสกับรัฐกลันตัน ยินดีจะร่วมมือและสนับสนุนการทำงานร่วมกันใน 5 ประเด็น ที่เป็นข้อเสนอเชิงหลักการที่สำคัญ ได้แก่ 1. การผลักดันความร่วมมือการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการจำหน่ายพืชผลทางการเกษตรของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของพี่น้องเกษตรกร ผ่อนคลายมาตรการการค้าและพาณิชย์ของทั้งสองประเทศ เพื่อให้ผลิตผลของทั้งสองประเทศสามารถจำหน่ายได้มากขึ้น รวมทั้งรองรับการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและปศุสัตว์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในอนาคตอันใกล้นี้ 2. การขยายช่องทางการตลาดสินค้าฮาลาลที่เป็นผลผลิตจากพี่น้องประชาชนกลุ่มต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการประเทศไทยไปจำหน่ายในประเทศมาเลเซียเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการจัดมหกรรมว่าด้วยอาหารไทย หรือ Thai Food Carnival ในทุกๆเดือน ตามที่ทางมาเลเซียเห็นสมควร ทั้งโดยให้ประเทศมาเลเซียมีหนังสือประสานงานมายังประเทศไทย เพื่อจัดทำแผนงาน โครงการเพื่อนำไปสู่เรื่องของการดำเนินการดังกล่าวที่เป็นรูปธรรม 3. การจัดตั้งศูนย์ประสานงานการค้าชายแดนไทยมาเลเซีย ณ พื้นที่ชายแดนเพื่อให้สามารถอำนวยความสะดวกในด้านการค้าแบบเบ็ดเสร็จครบวงจรได้ โดยในอนาคตอันใกล้คาดหวังว่าพื้นที่ดังกล่าวจะสามารถพัฒนาเป็น Twin City โดยการจับคู่ 5 รัฐของมาเลเซีย กับ 5 จังหวัดของไทย เพื่อเป็นเมืองพี่เมืองน้องในการพัฒนา การค้าชายแดนร่วมกันต่อไป 4. พื้นที่ด่านชายแดนจังหวัดสตูล ผู้ประกอบการฝ่ายไทยมีความประสงค์ขอให้ทางประเทศมาเลเซีย ได้มีการค้าชายแดนเช่นที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันภายหลังจากสถานการณ์ Covid19 ได้ยุติลงไปแล้ว และ 5. ข้อเสนอให้มีการตั้งคณะทำงานร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ ระหว่าง กระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรม หรือ MITI ประเทศมาเลเซีย กับกระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทย เพื่อกำหนดกรอบความร่วมมือและขั้นตอนการทำงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยจะมีศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหน่วยประสานงานกลางของทั้งสองประเทศ


สำหรับ ดร.ปณิธิศร์ อื้อสุดกิจ รอง ผอ.สำนักบริหารโครงการทางหลวงระหว่างประเทศ ได้กล่าวสรุปในส่วนของความคืบหน้าการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 มีใจความพอสรุปได้ว่า โดยรูปแบบของสะพานมีความยาวทั้งหมด 16 เมตรยวกหัวท้ายอีก 2 เมตร ซึ่งแบ่งช่วงสแพน 30 เมตร 3 ช่วง และด้านหัวท้ายเป็นช่วงสแพน 12 เมตร ซึ่งความกว้างของสะพาน 14 เมตร เป็นช่องจราจรรถยนต์ 2 ช่อง ช่องละ 3.50 เมตร รวม 7 เมตร และช่องรถจักรยานยนต์ 2.50 เมตร รวมถึงมีช่องทางคนเดินอีก 2.50 เมตร พร้อมทำหลังคาคลุมเพื่ออำนวยประชาชนในการเดินข้ามฝั่งตัวแบบของสะพานมี 2 ช่องจราจรและทางเดินรถจักรยานยนต์ 1 ช่อง สถาปัตยกรรมออกแบบเป็นรูปเรือกอและ เพื่อสะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่นของ 2 ประเทศที่มีความคล้ายคลึงกัน ส่วนค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างคนละครึ่งกับทางมาเลเซีย ฝั่งไทยใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 160 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้างตัวสะพานอย่างเดียว 110 ล้านบาท และงานถนนสิ่งประกอบในฝั่งไทยอีกประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งไทยและมาเลเซียอนุมัติแบบการก่อสร้างเป็น Detail Design คาดว่าจะขออนุมัติโครงการได้ในกรกฎาคม 2567 แต่ระหว่างนี้ตั้งแต่เดือน พ.ค. ก็มีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกันยายนปีน หลังจากนั้นก็จะมีการลงนามข้อตกลงในการก่อสร้าง ที่ได้แต่งตั้งร่วมกัน รวมถึงมีการกำหนดเขตก่อสร้างจากนั้น ตุลาคม 2567 จะเริ่มดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ในการก่อสร้างสะพานแห่งที่ 2 นี้ ทางมาเลเซียจะเป็นผู้ก่อสร้างทั้งหมด ยกเว้นถนนฝั่งไทย 50 เมตร ที่ไทยจะเป็นผู้ก่อสร้าง ด้วยงบประมาณ 50 ล้าน


ด้านนายภูมิธรรม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการฟังบรรยายสรุปของเจ้าหน้าที่โครงการรุดหน้าไปมากแล้ว หลังจากนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศได้คุยกัน มันเป็นความปรารถนาของทั้ง 2 ประเทศที่จะแก้ไขปัญหาทุกด้านให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าการลงทุน การสร้างสะพานใช้เวลา 24 เดือน ก็ต้องทำแผนงานต่อเนื่องตามงบประมาณปี 68 และ 69 มาครั้งนี้ผมอยากพบกับทุกภาคส่วนได้เรียนทาง ศอ.บต.อยากพบกับนักศึกษาทั้ง 4 มหาวิทยาลัย อยากจะฟังกับพวกเขาจากเรื่องราวต่างๆที่สามารถแก้ไขได้ และมาฟังด้วยตัวเอง

5 มิถุนายน 2567
ข่าว/ซาการียา/จ.นราธิวาส