ข่าวพาดหัว

สาวร้องเพื่อนบ้านชาย ปีนรั้วเข้ามาพร้อมชักอาวุธปืน โวยวาย

08-06-67 พี่เสือ นักข่าว สงขลา

วันที่ 7 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรับการร้องเรียนจาก นางฉวี อ่อนดี อายุ45ปี ว่าเพื่อนบ้านปืนรั้วเข้ามาภายในตัวบ้าน พร้อมอาวุธปืน และยืนโวยวายอยู่สักพัก ก่อนที่จะ ก่อนที่จะเดินออกไป ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ชัดเจน ขณะปีนเข้ามาพร้อมชักอาวุธปืนออกมา ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความเอาไว้เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมาพร้อมด้วยภาพกล้องวงจรปิด เป็นหลักฐาน


ซึ่งวันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดและได้พบกับ พ.ต.ต.ธีรพงศ์ วิชิต สว.สส.สภ.หาดใหญ่ และชุดสืบสวนสภ.หาดใหญ่
ซึ่งพึ่งทราบเรื่องวันนี้เช่นกันว่ามีเหตุอุชกรรณ์และมีอาวุธปืนจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่92/56 หมู่บ้านทรัพย์ไพศาล ต.หาดใหญ่อ.หาดใหญ่จ.สงขลา
เป็นบ้าน ชั้นเดียว ติดกัน มีรั้วหน้าบ้าน สูงประมาณหน้าอก และได้พบกับนางฉวี ซึ่งได้เล่าให้ฟังว่า เรื่องมีอยู่ว่า วันเกิดเหตุวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตนขับรถกระบะมากำลังจะถอยเข้าบ้าน แต่ถอยช้า ซึ่งเรา เป็นจังหวัดเดียวกันกับที่ ภรรยาของผู้ก่อเหตุขับรถผ่านมาพอดี ทำให้ต้องจอดรอ และมีอยู่จังหวะหนึ่ง รถไหลไปทางข้างหน้าเนื่องจากเป็นทางต่างระดับ แต่ตนก็ไม่ได้คิดอะไรก็ถอยตามปกติจนเข้าบ้านได้สำเร็จซึ่งผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งตอนนั้นตนกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ก็มีชัย ซึ่งเป็นสามีของเพื่อนบ้านซึ่งอยู่บ้านห่างกัน 2 หลังอยู่ดีๆก็ปีนรั้วเข้ามาพร้อมได้ชักปืนออกมาโวยวายอยู่ซึ่งลูกนอนอยู่ในห้องแต่ไม่ได้ปิดประตูห้องก็เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นอาวุธปืน ซึ่งตอนนั้นลูกสาวกลัวมากไม่กล้าออกมา ส่วนตนนั้น ไม่เห็น แต่เมื่อมาตรวจสอบกล้องจะปิดก็พบว่าเพื่อนบ้านปืนรั้วดข้ามาจริงและชักอาวุธออกมาจากเอวลักษณะคล้ายปืนสักพักก่อนจะเดินออกไป


ส่วนเพื่อนบ้านที่ก่อเหตุนั้นทราบชื่อคือนายวิรัต ซึ่งอยู่บ้านใกล้กัน
นางฉวี ยังเล่าอีกว่าเมื่อ 2 ปีก่อนชายคนเดียวกันนี้ก็เคยทำร้ายร่างกายตน เพราะแมวตนเข้าไปในบ้านเค้าจนเป็นข่าวดังมาแล้ว ซึ่งตอนนั้นตนไม่เอาเรื่องเนื่องจาก มีเพื่อนบ้านอีก หลังนึงขอร้องไว้ เนื่องจากเขาเป็นญาติกัน จนก็ให้อภัย จนมาถึงวันที่เกิดเหตุ ดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ตนได้แจ้งความไว้แล้วและจะไม่ยอมความแต่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ส่วนเพื่อนบ้านคู่กรณีนั้นขณะผู้สื่อข่าวลงไปที่บ้านไม่มีใครอยู่บ้านปิดประตูเงียบ
เบื้องต้นทางชุดสืบสวน สภ.ใหญ่ จะเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาสอบสวน และตรวจสอบอาวุธปืนว่าเป็นปืนชนิดไหน ก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป