ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่ง ชป.เร่งระบายน้ำท่วมขังภาคใต้อย่างเต็มกำลัง
08/12/2020
กรมชลประทาน ระดมเครื่องจักร เครื่องมือ เร่งช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมขังภาคใต้อย่างต่อเนื่อง แม้ในหลายพื้นที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว
นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (8 ธ.ค.63) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้หลายพื้นที่เริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่งใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตรัง และนราธิวาส
โดยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แนวโน้มน้ำท่วมขังลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 14 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.พระพรหม อ.ชะอวด อ.หัวไทร อ.เชียรใหญ่ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ปากพนัง อ.จุฬาภรณ์
อ.ร่อนพิบูลย์ อ.ทุ่งใหญ่ อ.ฉวาง อ.พรหมคีรี อ.ถ้ำพรรณนา และ อ.ช้างกลาง สำนักงานชลประทานที่ 15 ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 54 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 46 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง
ด้านจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.กาญจนดิษฐ์ อ.บ้านนาสาร อ.เวียงสระ อ.บ้านนาเดิม อ.พระแสง อ.เคียนซา และ อ.พุนพิน สำนักงานชลประทานที่ 15 ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง พร้อมเครื่องผลักดันน้ำ 26 เครื่อง ในพื้นที่ อ.เมือง อ.ไชยา และ อ.พุนพิน เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่
ส่วนจังหวัดตรัง ได้รับผลกระทบ 1 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองตรัง บริเวณ ต.บางรัก และ ต.หนองตรุด โครงการชลประทานตรัง ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 23 เครื่อง พร้อมติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และที่จังหวัดนราธิวาส ได้รับผลกระทบ 1 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสุไหงโก-ลก โครงการชลประทานนราธิวาส ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 36 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำระบบไฮโดวโฟวล์อีก 7 เครื่อง เพื่อเร่งผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หากประชาชนหรือหน่วยงานใด ต้องการความช่วยเหลือ สามารถร้องขอไปได้ที่โครงการชลประทานในพื้นที่ หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน หมายเลข 1460 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
พิสิษฐ์ รื่นเกษม ข่าว โทร 099 3396 4 4 4 รายงานข่าว